วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

ช่วงเวลาที่โลกชื่นชมยินดี

ช่วงเวลาที่โลกชื่นชมยินดี
ในช่วงเวลาของเดือนนี้ กันยายน หรือ ทิชรี ในตามปฏิทินของพระเจ้านั้น
เป็นช่วงเวลาแห่งการชื่นชมยินดี เป็นเดือนแห่งความชื่นชมยินดีมากที่สุด
เดือนหนึ่ง หลายคนก็เข้าใจแล้วว่า วันที่ 25 ธันวาคมนั้นไม่ใช่วันประสูติ
ของพระเยซู และเราก็ไม่ได้ต้องการจะเถียงกันในเรื่องนี้ ไม่มีใครรู้ว่าพระ
องค์ประสูติวันใด แต่ไม่ใช่วันที่ 25 ธันวาคม เพราะช่วงเวลานั้นเป็นหน้า
หนาวจัด คงมองไม่เห็นดาวแน่ๆ และยามค่ำคืนที่หนาวเหน็บ คงไม่มีใคร
เอาแกะออกมาเลี้ยง

พระองค์อาจจะประสูติช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในขณะที่ อากาศยังอบอุ่น พอที่
คนเลี้ยงแกะจะออกมานอนข้างนอกกับฝูงแกะได้ และเรารู้ว่าพระวิญญาณ
บริสุทธิ์เสด็จมาในช่วงเวลาเทศกาลเพ็นเทคอสต์ พระเยซูจึงประสูติในช่วง
เวลา (ในช่วงเวลานะครับ) เทศกาลอยู่เพิง หรือสุคคต นั่นเอง

-พระเยซูประสูติ (เฉลิมฉลอง)
ลูกา 1:5 (26)
1 พงศาวดาร 24
- ทูตสวรรค์ปรากฎในช่วง 12-18 สิวาน (มิถุนายน)
- อลิซาเบธตั้งครรภ์ช่วงนี้ 25 สิวาน  (285 วัน)
  กำหนดเวลาตั้งครรภ์โดยประมาณ
- ยอห์นบัพติศโต เกิด15 นิสาน (ช่วงปัสกา)
   ลูกา 1:26 อลิซาเบธท้องได้ 6 เดือน
   มารีย์ตั้งครรภ์
- 25 คิสเลฟ (พระเยซู) เทศกาล ฮานูก้า (เทศกาลแสงสว่าง)
- 285 วัน พระเยซูประสูติ 15 ทิชรี  (เทศกาลอยู่เพิง)

  ยอห์น 1:14
พระวาทะได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเรา  
บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง   เราทั้งหลายได้เห็นพระ
สิริของพระองค์   คือพระสิริอันสมกับพระบุตรองค์เดียวของ
พระบิดา

..ตอนที่มารีมาถึงเบธเลเฮ็ม ช่วงนั้นเป็นเทศกาลอยู่เพิง

เรารู้ได้ว่าการประสูติของพระเยซูนั้นสอดคล้องกับวิธีการของพระเจ้า
ในการส่งพระบุตรของพระองค์ คือพระวาทะที่ได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
และทรงอยู่ท่ามกลางเรา ยอห์น 1:14 ในเทศกาลอยู่เพิง สุคคต คือช่วง
เวลาที่ชาวยิวจะอยู่ในเพิงชั่วคราวและอ่านพระ วจนะของพระเจ้า


สำหรับเทศกาลนี้คือช่วงเวลาแห่งความชื่นชมยินดี สำหรับเราเวลาแห่ง
ความชื่นชมยินดีคือการที่พระองค์ได้ประสูติ ผู้ทรงนำความชื่นชมยินดี
ในความรอดมาสู่โลกนี้

ยอห์น 16:20-21
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า   ท่านจะร้องไห้และคร่ำครวญ  แต่โลก
จะชื่นชมยินดี   ท่านทั้งหลายจะทุกข์โศก   แต่ความทุกข์โศกของท่านจะกลับ
กลายเป็นความชื่นชมยินดี เมื่อผู้หญิงจะคลอดบุตรนางก็มีแต่ความทุกข์
เพราะถึงกำหนดแล้ว   แต่เมื่อคลอดบุตรแล้ว  นางก็ไม่คิดถึงความเจ็บปวดนั้น
เลย   เพราะมีความชื่นชมยินดี  ที่คนหนึ่งเกิดมาในโลก

โลกนี้เจ็บปวดและบอบช้ำมามาก เพียงพอแล้ว และถึงเวลาที่โลกนี้จะพบกับ
ความ ชื่นชมยินดี จะไม่มีความทุก ความเศร้า ความเจ็บปวดอีกต่อไป เพราะ
พระองค์ได้มาบังเกิดในโลกนี้แล้ว ข้อต่อมาบอกเราว่า ฉันใดก็ดีขณะนี้ท่าน
ทั้งหลายมีความทุกข์แต่เราจะมาหาท่านอีกและใจท่านจะชื่นชมยินดีและไม่
มีผู้ใดจะช่วงชิงความชื่นชมยินดีไปจากท่านได้ (อาเมน)

ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหมดไปเมื่อเราวางใจในพระเจ้า แต่เมื่อเราไว้
วางใจและมีความชื่นชมยินดีจากภายในพระองค์ก็จะประทานหนทางและ
การแก้ไขปัญหาให้เราที่จะผ่านไปได้

โดยทางพระองค์เราจึงได้เข้าในร่มพระคุณที่เรายืนอยู่และเรา(หรือ   ให้เรา)
ชื่นชมยินดีในความไว้วางใจ   ว่าจะได้มีส่วนในพระสิริของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้น
เรา(หรือ   ให้เรา) ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากของเราด้วย   เพราะเรารู้ว่า
ความทุกข์ยากนั้น   ทำให้เกิดความอดทน

ความจริงคือเราไม่ต้องถกเถียงว่าพระเยซูประสูติวันไหน แต่สิ่งที่เป็น
ความจริงคือ...พระองค์ทรงเป็นความจริง และเป็นความชื่นชมยินดี
ของเราทุกคนและของโลกนี้ "จงชื่นชมยินดีเถิด"

ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น