วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

ล้อเล่นน่า..แซวเล่นเอง

ล้อเล่นน่า..แซวเล่นเอง


          วันนี้บังเอิญจริงๆเปิดโทรทัศน์ไปนั่งพิมพ์งานไปด้วย เพราะเราก็ชอบทำงาน
แบบมีเสียงอะไรฟังหน่อย ช่วงนี้อยากฟังข่าวบ้าง หลังจากมีงานเยอะตกข่าวมานาน
เพราะทำงานไปหูก็ฟังข่าวไปด้วย
          แต่ด้วยความเพลิดเพลินใจไปตอนไหนไม่รู้ ข่าวจบไปแล้ว และมีรายการตลก
รายการหนึ่ง ประมาณเกมส์โชว์ อ้าว! มาได้ไง เมื่อกำลังจะเปลี่ยนช่อง ทันใดนั้นก็
ต้องมีอันต้องหยุดชะงัก เบรคแทบแตก เพราะบทสนทนาบางอย่างที่เข้ามาในหู ทั้ง
ที่ทุกครั้งก็ได้ยินบ่อย แต่วันนี้ทำไมอยากหยุดพิจารณาอะไรบางอย่าง เหมือนกับว่า
พระเจ้าจะสอนอะไรส่วนตัวด้วย ไม่ใช่ว่าอยากจะฟัง หรือพิศวาสอะไรกับมันมาก
มายนัก บทสนทนาที่ผมพูดถึงคือ การแซวกัน และเอาจุดอ่อน ปมด้อยของกันมาพูด
จากันแบบสนุกปาก เราเองบางมุก ยังแอบเขาไปกับเขาเลย ทั้งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายพูด
ก็พี่เล่นเอาปมด้อย มาตั้งเป็นฉายาหรือเป็นชื่อแทนซะนี่
          เราเองเคยสังเกตุบ้างไหมครับว่า รอบตัวเรา เราได้พบกับเหตุการณ์เหล่านี้
บ้างหรือเปล่า ไอ้เตี้ย ไอ้อ่าง ไอ้มืด ไอ้ดำ ไอ้ควาย ไอ้อ้วน ไอ้ขาโต๊ะสนุก ไอ้เถิก
ไอ้หัวล้าน ไอ้ห้อย น้องดำดอทคอมอะไรพวกนี้ โอ่งมังกรมั่งล่ะ เอาล่ะครับพอเถอะ
มีอีกเยอะ สาระมันไม่ใช่ตรงนี้หรอก บางทีคนพูดและคนถูกว่าก็อาจจะไม่คิดอะไร
หรอกเพราะจะด้วยความเคยชิน โดนว่าจนชินหรืออะไรไม่ทราบได้

          สมมุติว่าคุณเป็นนักประดิษฐ์และได้สร้างผลงานที่คุณทุ่มเททั้งชีวิตของคุณ
ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง และคุณภูมิใจต่อมันมากมาย เพราะมันคือผลงานที่รักของคุณ เป็น
ชีวิตของคุณ คุณทำอย่างเต็มที่เลยล่ะ และเมื่อถึงเวลาแสดงผลงาน คุณภูมิใจต่อ
มันมาก แต่อยู่คนที่มาดูผลงานก็พูดต่อหน้าคุณว่า นี่คุณ ผลงานคุณแย่มากเลยนะ
ไม่ได้เรื่องเลย ห่วยจริงๆ สรางมาได้ยังไงกัน ....! คุณจะรู้สึกเช่นไร ?

          ตอบแบบปากแข็งหน่อยก็ เฉยๆไม่รู้สึกอะไร ฉันหนาพออยู่แล้ว
แต่....!! พระเจ้าล่ะ พระองค์สร้างเราเช่นไร นั่นคือสร้างตามพระฉายของพระองค์
สร้างด้วยความรัก และทรงระบายลมปราณเข้าสู่เรา เพื่อให้เรามีชีวิต .....
          คุณจะรู้สึกอย่างไรผมไม่รู้ แต่นี่คือการทรงสร้างของพระเจ้า พระผู้สร้างที่สร้าง
เราขึ้นมา ผมเคยถามหลายคนว่าทำไมต้องเอาปมด้อยของคนอื่นมาพูด
คำตอบคือ แกยุ่งอะไรด้วย ! งั๊นไป ชิวๆ
และ เขาไม่โกรธหรอก รู้ดีว่าเขารับได้ (แหมเหมือนพระเจ้าเลยนะ รู้ขนาดนั้น)

          สำหรับผมเองนั้นสมัยก่อนที่เป็นนักศึกษา การจับกลุ่มแซวเพื่อน และสาวๆเป็น
เรื่องที่สนุกสนานมากมาย เช่นสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมา และเรามองเห็นจุดอ่อนปม
ด้อย ของเขาเราก็จะแซว ตะโกนออกไปให้ได้รับความอับอาย และนั่นคือความสุข
(ความสุขจอมปลอม) บางคนถึงกับเสียหน้าที่โดนล้อต่อหน้าคนมากมาย เราสนุก
ที่ได้เห็นความทุกข์ของคนเหล่านั้น แต่เขาคงไม่สนุกกับเราด้วยหรอกนะครับ
จนเมื่อไเจอกับตัวเองนั่นแหละครับถึงจะรู้สึก ...บางคนมีปัญหาเรื่องความอ้วนและ
รูปร่าง เขาจะเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ และตั้งใจมีความฝัน ความหวังที่อยากจะผอม
แล้วอยู่ๆเราก็ไป แซวเขาว่า "ลดหุ่นเหรอช้างน้อย ไม่เห็นผอมลงเลย" รู้เถิดว่าคุณดับ
ความหวังของเขาทั้งที่พระเจ้ายังไม่เคยดับความหวังเราเลย !
มัทธิว บอกว่า เราไปยุ่งวุ่นวายกับผงในตาของคนอื่น แต่ไม้ทั้งท่อนที่ช้างยังลากไม่ไหว
ในตาเราเองกลับมองไม่เห็น

การตอบสนอง
พระเยซูอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมากในการถูกเยาะเย้ย ท่าทีที่เราจะตอบสนองไม่ใช่
ตาแทนตา ฟันแทนฟัน แม้ทรงถูกเหยียดหยามก็ยังนิ่งสงบ แม้ถูกล้อเลียน ประชด
เหน็บแนม สารพัด ท่าทีและการตอบสนองของพระองค์เต็มไปด้วยความสงบ
ไม่ตอบโต้และโต้ตอบ พวกฟาริสี และคนที่ทำกับพระองค์

มัทธิว 27:12
แต่เมื่อพวกมหาปุโรหิต   และพวกผู้ใหญ่ได้ฟ้องกล่าวโทษพระองค์  
พระองค์มิได้ทรงตอบประการใด


มาระโก 15:3-5
ฝ่ายพวกมหาปุโรหิตได้ฟ้องกล่าวโทษพระองค์หลายประการ ปีลาตจึงถามพระองค์อีกว่า  
“ท่านไม่ตอบอะไรหรือ   ดูแน่ะ   เขากล่าวความปรักปรำท่านหลายประการทีเดียว”
แต่พระเยซูมิได้ตรัสตอบประการใดอีก   ปีลาตจึงอัศจรรย์ใจ


เอเฟซัส 4
บอกเราว่าอย่าพูดเล่นไม่เป็นเรื่อง พูดเฮฮาไร้สาระ ตลกซึ่งไม่สมควร แต่ให้ขอบคุณ
พระเจ้าดีกว่า
พระเจ้ามีแผนการณ์ที่ล้ำลึกมาก พระองค์ใช้คนที่มีปมด้อยหลายคนที่โลกมองว่า
มันคือปมด้อย และคนหลายคนก็ล้อเลียน และหัวเราะเยอะเขา หลายคนที่พิการ
พระองค์ยกระดับขึ้นเพื่อ คนจะพูดว่า โอ้..ขอบคุณพระเจ้า เมื่อเราเห็นจุดอ่อนของ
ใครแทนที่เราจะล้อเลียน หรือแซวเขา เราควรพูดว่า โอ้...ขอบคุณพระเจ้า
เอเฟวัส 4:6 เตือนเราว่าอย่าหลงไปกับคำล่อลวงที่ไร้สาระ เพราะพระพิโรธของพระเจ้า
จะมาถึงผู้ที่ไม่เชื่อฟัง

          ผมไม่ได้หมายความว่า ห้าม พูดเล่น นะครับ เราไม่ใช่ว่าจะไม่มีเวลาในการผ่อน
คลายหรือรีแล็กเลย แบบนั้นก็เกินไป เราไม่ได้มาทำตัวเคร่งศาสนา หรืออยู่ในวิญญาณ
ศาสนา แต่การพูดเล่นแม้จะอยู่ในกรอบก็ดี แต่ก็ก้ำกึ่ง เราไม่รู้ว่ามันจะมีผลกระทบต่อ
เขาหรือไม่ เคยหรือไม่ที่แซวคำเดียวกัน แต่ครั้งหนึ่งไม่โกรธ อีกครั้งหนึ่งโกรธจนมีปัญหา
กันเลย คุ้มค่าหรือไม่ที่เราจะเสี่ยงเล่นมุกและแซวกัน โดยเสี่ยงที่จะไปสะกิดบาดแผล
          ไม่ได้หมายความว่า การที่เราแซวใครไม่ได้ ล้อเลียนใครไม่ได้ จะปิดโอกาสความ
สนุกสนาน เราสามารถปราศัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญ

มัทธิว 12:33-36
บอกเราว่า เราจะรู้จักต้นไม้ได้ยังไง ก็ดูได้จากผลของมัน ถ้าเราเห็นต้นไม้สมบูรณ์
ผลของมันก็ย่อมดีตามไปด้วย ปากเราก็เช่นกันก็จะพูดสิ่งที่ออกมาจากใจ ใจคิด
อย่างไร คำพูดก็ออกมาแบบนั้น ตอนท้ายบอกว่า
"คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น   มนุษย์จะต้องรับผิดในถ้อยคำเหล่านั้น  
ในวันพิพากษา"

1 ทิโมธี 6:20
เปาโลกำลังเตือนและกำชับกับทิโมธีในตอนท้ายว่า ให้หลบหลีกและเลี่ยงหนีจากการ
พูดคุยอันไร้สาระ เราสามารถตอบสนอง หรือเลือกที่จะไม่ตอบโต้หรือโต้แย้ง เพราะถ้า
นั่นเป็นเพียงคำพูดที่ไม่มีสาระไม่มีประโยชน์อะไรเลย
"ทิโมธีเอ๋ย   สิ่งที่เราบอกท่านแล้วนั้น   จงรักษาให้ดี   จงละเว้นการพูดที่ไร้สาระ  
และการขัดแย้งในความเห็นซึ่งสำคัญผิดว่าเป็นความรู้"

2 ทิโมธี 2:23 ในเรื่องคนงานที่พระเจ้าพอพระทัยนั้น
ตอกย้ำเราอีกครั้งว่า อย่าไปข้องแวะและใส่ใจกับการโต้แย้งต่างๆอันโง่เขลา ไร้สาระ
เพราะท่านรู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทตามมา เพราะเราในฐานะผู้รับ
ใช้ ต้องไม่เข้าสู่การทะเลาะวิวาท ตรงข้าม เรากลับต้องสุภาพอ่อนโยนต่อทุกคน
"อย่าข้องแวะกับปัญหาอันโง่เขลาและไม่เป็นสาระ   ด้วยรู้แล้วว่าปัญหาเหล่านั้นก่อ
ให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน"

          พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสิน และพิพากษาแต่เพียงผู้เดียว เราไม่รู้หรอกว่าเขา
รู้สึกเช่นไร? เพระเราไม่ได้เป็นพระเจ้า พระองค์รู้ถึงส่วนลึกภายในใจ ทุกซอกทุกมุม
คำพูดเล่นๆเพื่อความสนุกและสะใจของเรา หรือความเคยชินของเราจะทำให้เขาโกรธ
หรือไม่โกรธจะทำให้เขาเจ็บหรือไม่เราไม่รู้ เพราะเราเห็นแค่ท่าทีภายนอก
          ในอดีตซาตานพยายามแย่งชิง และโกหกเราเพื่อให้เราออกห่างจากพระองค์
และไม่เข้าใจพระลักษณะของพระองค์ ซาตานชอบตัดสินตัวเรา
"เจ้าทำไม่ได้หรอก" "เจ้ามันแย่"

โยบ 15 เอลีฟัส โต้ตอบว่า
ควรหรือที่คนฉลาดจะตอบโต้ แบบไร้ความคิด ควรหรือที่เขาจะโต้แย้งด้วยถ้อย
คำที่ไร้ประโยชน์ ด้วยวาจาที่ไร้แก่นสาร

          คนที่ถูกแซว หรือล้อเลียน จุดอ่อน หรือปมด้อยนั้น บางคนอาจจะไม่แสดงออก
และปกปิดไว้ ไม่แสดงออกถึงความไม่พอใจ นี่ยิ่งอันตราย เพราะมันเหมือนระเบิด
เวลาที่รอเวลา ตูมม !!! มันมีผลกระทบแน่นอน
         
          มันเหมือนถูกตัดสิน แม้เราจะไม่ได้ตัดสินเขาจริงๆ แม้เราจะไม่ตั้งใจเพียงเพราะ
คิดว่าจะ แค่เล่นๆ นั่นแหละมันแฝงไปด้วยการตัดสินที่ซ่อนอยู่

โรม 14:10, 13
สำนวน NIV
แล้วท่านเล่าทำไมตัดสินพี่น้องของตน เหตุใดจึงดูถูกพี่น้องของตน เพราะพวกท่านทั้ง
หมด จะต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า

เหตุฉะนั้นให้เราเลิกตัดสินกัน แต่จงตัดสินใจว่าจะไม่วางสิ่งที่ทำให้สะดุดหรือวาง
เครื่องกีดขวางในทางของพี่น้อง

เราต้องระมัดระวังที่จะไวต่อความรู้สึก ที่จะละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นโดยที่
ไม่ตั้งใจ

สิ่งที่เราพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวย่อมมีผลกระทบในการรับใช้ภาพรวม มันคือภาพ
ของกายเดียวกัน ผมเองในอดีตนานมาแล้วเคยโดนล้อเลียน แบบเจ็บใจสุดๆแล้ว
ทำเหมือนไม่มีอะไร สุดท้ายเมื่อเข้าไปรับใช้กับทีม มันมีผลกระทบแน่นอน เมื่ออีก
คนมีบาดแผล
"จงตัดสินใจว่าจะไม่วางสิ่งที่ทำให้สะดุดหรือวาง
เครื่องกีดขวางในทางของพี่น้อง"

ขอให้องค์พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงให้ท่านเป็นคนบริสุทธิ์หมดจด  
และทรงรักษาทั้งวิญญาณ   จิตใจและร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน  
จนถึงวันที่พระเยซูคริสตเจ้าของเราเสด็จมา 24พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นสัตย์ซื่อ 
และพระองค์จะทรงทำให้สำเร็จ  
พี่น้องทั้งหลาย   จงอธิษฐานเพื่อเราด้วย  
จงทักทายปราศรัยพวกพี่น้องด้วยธรรมเนียมจุบอันบริสุทธิ์ 
ข้าพเจ้าบัญชาท่านทั้งหลายโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า  
ให้ท่านอ่านจดหมายฉบับนี้ให้พี่น้องฟังทุกคน  
ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสตเจ้าของเราดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
1 เธสะโลนิกา 5:23-28

"พระเยซูเตือนเราว่าสิ่งที่เราพูดส่อถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเรา คำพูดแบบไหนออกมา
จากปากของเรา นั่นแหละคือเครื่องบ่งบอกว่าแท้จริงแล้วจิตใจเราเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตามคุณไม่อาจแก้ปัญหาจิตใจโดยเพียงชำระล้างคำพูดของเรา แต่
เราต้องยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำทัศนะคติและท่าทีใหม่ๆเข้ามาในใจ
เมื่อนั้นคำพูดของเราจะได้รับการชำระตั้งแต่ต้นตอ"

ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น