วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

แม่ง !

 แม่ง !





คำว่า แม่ง
ผม ทดลองจั่วหัวเรื่องตรงๆแบบนี้ เพื่อดูการตอบรับของหลายคนที่ตอบสนองมา บางคนอ่านแค่หัวเรื่องก็รู้สึกไม่ดีที่ทำไมผมเองเป็นผู้รับใช้ แต่ทำไมพูดคำแบบนี้ แน่นอน ! ถ้าผมพูดจริงลองถามตัวคุณดูว่าคุณจะรู้สึกดีหรือไม่ที่ผมพูดคำๆนี้ !



          นี่เป็นเพียงบทความหนึ่ง ที่มีจุดประสงค์ที่ดี หากบทความนี้เป็นที่ไม่พอใจของใคร
อยากพูดจากใจจริงว่า ขอโทษนะครับ
          และทุกคำในบทความนี้เป็นเพียงคำยกตัวอย่าง ไม่มีเจตนาจะเกี่ยวข้องกับบุคคล
หนึ่งบุคคลใดทั้งสิ้น

          สมัยที่ผมยังเป็นนักเรียนอยู่นั้น ตอนเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เวลาไหนที่
ผมทะเลาะกับเพื่อนๆนั้นก็มักจะโต้ตอบกันด้วยคำพูด เป็นการล้อเลียน ชื่อพ่อ และชื่อแม่
ของกันและกัน เป็นการโจมตีจุดอ่อนบุพการีผู้ให้กำเนิด เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บใจถ้าไม่รู้ชื่อ
พ่อและแม่ของอีกฝ่าย มันรู้สึกโกรธและบาดเจ็บสุดๆ เพราะพ่อแม่ใครก็ย่อมรัก บางคน
ขนาดร้องไห้เลยก็มี เป็นงั๊นไป
          ส่วนใครที่ทันกันหน่อยก็จะไปค้นชื่อพ่อแม่ของอีกฝ่ายมาและเอามาตอบโต้ กันไป
มาจนน่ารำคาญ เมื่อโต้กันเร็วจนหมดคำด่าแล้ว ก็ย่อเหลือ พ่อมึงสิ แม่มึงสิ
          ในหัวข้อบทความนี้ ผมเองก็ไม่แน่ใจและก็ไม่ได้อยากรู้ที่มาอะไรของมันที่แน่นอน
แต่เพื่อเป็นข้อมูลบางอย่าง ก็พอจะคาดเดาได้ว่า มันย่อลงจากคำว่า แม่มึงสิ เป็น แม่ง
นั่นเอง ฉะนั้นต้นตอมันมาจากคำด่า คำแช่งสาบ ที่นำไปสู่ความตาย
อพยพ 21:17  ผู้ใดด่าแช่งบิดามารดาของตนผู้นั้นต้องถูกปรับโทษถึงตาย
เลวีนิติ 20:9    เพราะว่าทุกคนที่แช่งบิดาหรือมารดาของตนจะต้องมีโทษถึงตายเขาได้แช่งบิดาหรือมารดาของเขาที่เขาต้องตายนั้นเขาเองรับผิดชอบ
สุภาษิต 20:20 ถ้าคนหนึ่งคนใดแช่งบิดาหรือมารดาของตนประทีปของเขาจะดับมืดมิด

          ** แม่ง คำคำนี้เป็นคำย่อที่มาจากคำว่า แม่มึงสิ หรือ แม่มึงอ่ะ ใช้กันอย่างแพร่หลาย
และได้มีการพัฒนาตัวเองเป็นคำใหม่ และไม่ได้ใช้ในจุดมุ่งหมายเดิมอีกต่อไป เช่น
-ใช้แทนคำว่า "มัน เขา เค้า" เช่น มันไปไหนของมัน เป็น แม่งมันหายไปไหนของมันวะ
-ใช้แทนคำว่า "เรา กู" เช่น วันนี้เราไม่สบายจริงๆ เป็น วันนี้กูแม่งไม่สบายจริงๆ
-ใช้แทนคำอุทาน เวลาอาราณ์ไม่ดี เช่น แม่งเอ๊ย !

คำหยาบมี 4-5 ระดับ
-ระดับอันตราย
-ระดับรุนแรง
-ระดับกลาง เช่น กู มึง
-ระดับเล็กน้อย
-และคำหยาบที่ผ่านการปรุงแต่ง

แต่ไม่ว่าจะระดับไหนก็ไม่ค่อยจะน่าฟังสักระดับ
          ถ้าเราพิจารณาดีๆแล้ว มันก็มีโครตเหง้ามาจากคำแช่งสาบ ไม่ว่าเราจะพยายาม
เปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างไร ให้มันดูน่ารักเพียงไหนมันก็ยังมีต้นตอจากที่เดิม เป็นคำคำเดียว
กัน เพราะมันก็ออกมาจากเจตนาเดียวกัน
เช่น แม่ง เป็น แม้ง แมร่ง
      กู เป็น กรู ตรู
      มึง เป็น เมิง
      สัตว์ เป็น สาด ดดดด

ยากอบ 3:9-10 (เรื่องของลิ้น)
เราทั้งหลายสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระ บิดาด้วยลิ้นนั้น   และด้วยลิ้นนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์   ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ตามพระฉายาของพระองค์ 

คำสรรเสริญและคำแช่งด่าก็ออกมาจากปากอันเดียวกัน   ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า  
ไม่ควรให้เป็นเช่นนั้น
บ่อน้ำพุจะมีน้ำจืดและน้ำกร่อยพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ
พี่น้องทั้งหลายต้นมะเดื่อจะออกผลเป็นมะกอกเทศได้หรือ   หรือเถาองุ่นจะออกผลเป็น
มะเดื่อได้หรือ   บ่อน้ำพุเค็มก็ทำให้เกิดน้ำจืดอีกไม่ได้เลย 



          ปากเราที่ใช้นมัสการพระเจ้า พูดหนุนใจคนแต่เราก็พูดถ้อยคำแห่งคำแช่งสาบไปด้วยในตัว
คำพูดบางอย่างในเราก็มักขัดแย้งกันเอง บางครั้งเราก็พูดถูกดี แต่บางครั้งปากที่เราใช้สรร
เสริญ นมัสการพระองค์ก็พูดถ้อยคำแห่งความตายและคำแช่งสาบ ที่ทำลายได้ทุกสิ่ง
          เราเงถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า พระงค์เปลี่ยนเราจากภายในมาสู่ภายนอก
ขณะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็ชำระจิตใจของเรา เพื่อเราจะรู้ว่าจะกล่าวถ้อยคำที่พระเจ้าพอพระทัย

           นอกจากนี้ยังมีคำว่า กู มึง เป็นต้นที่เป็นที่ถกเถียงกันทุกวันนี้ว่ามันหยาบหรือเปล่า หยาบหรือ
ไม่หยาบ โดยการขุดค้นประวัติศาสตร์ชาติไทย สมัยพ่อขุนรามคำแหง ที่ยังจับดาบ ขี่ควายรบกัน มา
อ้างอิง ว่าในสมัยนั้นมันไม่หยาบ ฉะนั้นถ้าไม่หยาบ "กูก็จะพูดแบบนี้มึงจะทำไม" บางคนก็มีเหตุผลว่า
เลือกพูดเฉพาะกลุ่ม เพื่อนสนิทมากๆ เท่านั้น เพราะถ้าพูด คุณๆ นายๆ เธอๆ ก็เข้ากลุ่มเพื่อนไม่ได้

บางครั้งเราคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวจะมายุ่งทำไม แต่ทุกสิ่งที่เราทำก็ส่งผลกระทบถึงคนอื่นๆด้วย
เราเองก็ควรจะคิดถึงคนรอบข้างในคำพูดที่เราพูดออกไป แม้เราจะคิดว่ามันก้ำกึ่ง เราก็ไม่พูดเสียก็
น่าจะดีกว่า
โรม 14:21
เป็นการดีที่จะไม่กินเนื้อสัตว์หรือเหล้าองุ่นหรือทำสิ่งใดๆ   ที่จะเป็นเหตุให้พี่น้องสะดุด


แน่นอน พระคัมภีร์ก็หนุนใจเราและนี่เป็นภาพของการถ่อมใจลงด้วย ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคย
เคยพูดคำพวกนี้ เราต้องพิจารณาว่า มันคือการเป็นตัวของตัวเอง หรือ การสูญเสียการเป็นตัวของ
ตัวเอง เรากลัวคนอื่นจะไม่คบเราที่พูดเพราะเกินๆ หรือเราเรากลัวอะไร ก่อนที่เราจะโต้แย้งว่ามัน
ไม่ใช่ปัญหา
โรม 14:16  ฉะนั้นอย่าให้สิ่งที่ดีสำหรับท่านเป็นข้อตำหนิติเตียนของผู้อื่นได้เลย
ในความเป็นจริงบุคลิกภาพของเรานั้นก็สะท้อนสิ่งที่อยู่ภายในเรา นั่นคือพระเจ้าที่อยู่ในเรา
เราอ่านพระคัมภีร์และพบเห็นพระลักษณะที่พระองค์เป็น ความถ่อมสุภาพที่พระองค์มี เราไม่ได้เอา
มาตรฐานของโลกมาวัดแต่เราควรสะท้อนพระลักษณะของพระองค์ที่มีในเราออกมา ดีกว่าให้คน
รอบข้างมอง และพูดว่านี่เหรอคริสเตียนก็ไม่เห็นจะแตกต่าง พระเจ้าไปอยู่ไหน ?

โรม 14:17 บอกเราว่า ฉะนั้นอย่าให้สิ่งที่ดีสำหรับท่าน   เป็นข้อตำหนิติเตียนของผู้อื่นได้เลย
มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่บางอย่างเราก็ถ่อมใจลงเพื่อเห็นแก่คนอื่น เราเองไม่ได้สูญเสียที่มั่นไป
หรอกกับเรื่องแบบนี้
ขออนุญาติที่จะหนุนใจนะครับว่า ลองเปลี่ยนแปลงและไม่ละอายที่จะพูดถ้อยคำที่ไพเราะและ
อ่อนหวาน มันคงไม่อยากเกินไปสำหรับคนเก่งแแบท่าน แถมด้วยการทรงนำของพระวิญญาณ
บริสุทธิ์ หยุดเสียตอนนี้
          คำพูดแง่ลบต่างๆก็เช่นเดียวกัน โครตรแย่เลย โครตเซ็งเลย แม่งเอ๊ย ! พระคัมภีร์บอกว่า
ปากและลิ้นก็มีอำนาจ เราพูดอย่างไรก็เป็นแบบนั้น จงพูดในแง่บวก แม้มันจะสวนกระแส หรือ
ขัดกับสถานการณ์ตรงหน้าเรา

 ปี 5771 นี้
เป็นปีของ อักษรอาเลฟ Aleph คำต่างๆของ อาเลฟรวมถึง การสั่งการ การเปล่งเสียง
การพูด การขอร้อง การอธิษฐานมีความสำคัญมากเป็นอย่างยิ่ง

จงเข้ามาใกล้พระเจ้าและจะรู้ว่าให้คำอธิษฐานได้รับคำตอบอย่างไร
คำพูดจากปากของคุณมีความสำคัญ !!

ระวังอย่าบ่นพึมพำ หรือบ่นว่า ระวังอย่างเปล่งเสียงของความไม่เชื่อ
และคำพูดในแง่ลบ คำพูดที่ไม่สมควร การพูดเล่นที่เกินขอบเขต
ปีนี้เป็นปีที่เราจะป่าวประกาศอย่างกล้าหาญถึงสิ่งที่พระเจ้าตรัส

มัทธิว 12:36
ฝ่ายเราบอกเจ้าทั้งหลายว่า   คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น  
มนุษย์จะต้องรับผิดในถ้อยคำเหล่านั้น   ในวันพิพากษา


          พระเยซูเตือนเราว่า สิ่งที่เราพูดก็ส่อออกมาถึงสิ่งที่อยู่ภายในใจของเรา คำพูด
แบบไหน คำพูดอะไรที่ออกมาจากปากของเราก็คือตัวบ่งบอกว่า จิตใจนั้นเป็นเช่นไร ?
พระองค์ไม่ได้มาปรับโทษเรา เพียงแต่เรายอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ นำสิ่งที่เป็น
ภาพสะท้อนของพระองค์ มาใรเรา เราก็จะได้รับการชำระ
          เราไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับคำพิพากษาที่จะมีมาถึงเรา และไม่จำเป็นต้องวัดใจกับ
ถ้อยคำแห่งคำแช่งสาบที่นำเราไปสู่ความตาย

คำพูดอ่อนหวานก็เปรียบดังน้ำผึ้ง
สุภาษิต 15:1
คำตอบอ่อนหวานช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป  
แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ  


พระคัมภีร์บอกว่าลิ้นที่สุภาพเป็นต้นไม้แห่งชีวิต ความตายความเป็น  
อยู่ที่อำนาจของลิ้น   และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน  
         
ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น