วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วันที่ 14 และ 15 เดือนอาดาร์ในเทศกาลปูริม

วันที่ 14 และ 15 เดือนอาดาร์ในเทศกาลปูริม
เราพบว่าแม้แต่ในยุคของโมรเดคัย และเอสเธอร์,ปูริมได้รับการเฉลิมฉลองในวันอื่นที่สุสามากกว่าในเมืองอื่น ๆ ในเมืองอื่น ๆ ทั้งหมดการรบกับศัตรูของยิวเกิดขึ้นในวันที่สิบสามอาดาร์ และประชาชนได้หยุดพักและได้มีการเฉลิมฉลองในวันที่สิบสี่อาดาร์ ในสุสานั้นมีการสู้รบกันเกิดขึ้นในวันที่สิบสาม แลสิบสี่ของเดือนอาดาร์และประชาชนได้หยุดพักและเฉลิมฉลองในวันที่สิบห้า

อสธ. 9:18 แต่พวกยิวที่อยู่ในสุสาชุมนุมกันในวันที่สิบสามและวันที่สิบสี่ และหยุดพักในวันที่สิบห้า ทำวันนั้นให้เป็นวันกินเลี้ยงและวันยินดี

เราจะเห็นวันหยุดที่แตกต่างกันในเดือนอาดาร์ซึ่ง เทศกาลปูริมนั้นจะฉลองและหยุดพักกันในวันที่ 14 อาดาร์ แต่มีอีกวันในพระคัมภีร์ที่พูดถึงวันหยุดเฉลิมฉลองด้วยเช่นกันคือวันที่ 15 เดือนอาดาร์ เรื่องนี้อาจจะไม่ได้สำคัญหรือมีสาระอะไรมากนักที่ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจและศึกษาถึงประวัติศาสตร์ในพระคัมภีร์ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

ในวันที่ 13 อาดาร์ เป็นวันที่ตามพระบัญชาและกฤษฎีกาของกษัตริย์แล้ว ในวันนั้นเป็นวันที่เองที่ศัตรูของพวกยิวหวังที่จะมีอำนาจเหนือพวกยิวและฆ่าพวกยิว แต่กลับกลายเป็นวันที่พวกยิวได้มีอำนาจเหนือพวกที่เกลียดชังพวกเขา โดยราชินีเอสเธอร์ที่ได้รับความโปรดปรานจากกษัตริย์ ในบทที่ 9:2 พวกยิวได้ชุมนุมกันตามเมืองต่างๆ ในทุกมณฑลของกษัตริย์อาหสุเอรัส เพื่อจะฆ่าบรรดาคนที่หาทางทำร้ายพวกเขา และไม่มีใครที่จะต่อต้านพวกเขาได้ พวกยิวจึงโจมตีศัตรูทั้งหมดของตนด้วยดาบ ฆ่าและทำลาย และทำแก่ผู้ที่เกลียดชังพวกเขาตามใจชอบในพระราชวังสุสา พวกยิวได้ฆ่าและทำลายล้างเสีย 500 คน

เรื่องนี้กษัตริย์ได้รับรู้และยังได้ตรัสถามราชินีเอสเธอร์ว่า จะร้องขออะไรก็จะให้ตามที่ได้ขอ  พระนางเอสเธอร์ทูลว่า “ถ้าเป็นที่พอพระทัยกษัตริย์ ในวันพรุ่งนี้ ขอให้พวกยิวที่อยู่ในสุสา ได้ทำตามกฤษฎีกาของวันนี้ และขอให้แขวนคอบุตรชายทั้งสิบของฮามานบนตะแลงแกง กษัตริย์จึงทรงบัญชาให้ทำเช่นนั้น มีกฤษฎีกาออกในสุสา พวกยิวที่อยู่ในสุสาชุมนุมกันในวันที่สิบสี่ เดือนอาดาร์ด้วย และได้ฆ่า 300 คนในสุสา
อสธ. 9:16 ส่วนพวกยิวอื่นๆ ซึ่งอยู่ในมณฑลต่างๆ ของกษัตริย์ก็ชุมนุมกันเพื่อปกป้องชีวิตให้พ้นจากศัตรู และฆ่าผู้ที่เกลียดชังพวกเขาเสีย 75,000 คน แต่ไม่ได้ปล้นข้าวของ
อสธ. 9:17 เหตุนี้เกิดขึ้นในวันที่สิบสามเดือนอาดาร์ และในวันที่สิบสี่พวกเขาหยุดพัก และทำวันนั้นให้เป็นวันกินเลี้ยงและวันยินดี

แต่พวกยิวที่อยู่ในสุสาชุมนุมกันในวันที่สิบสามและวันที่สิบสี่ และหยุดพักในวันที่สิบห้า ทำวันนั้นให้เป็นวันกินเลี้ยงและวันยินดี แต่พวกยิวในชนบท ที่อยู่ตามหัวเมืองที่ไม่มีกำแพง ถือวันที่สิบสี่ของเดือนอาดาร์เป็นวันแห่งความยินดีและกินเลี้ยง และถือเป็นวันรื่นเริง และเป็นวันที่เขาส่งของขวัญไปให้กันและกัน

เหตุฉะนั้นพวกยิวในชนบทที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ไม่ได้สู้รบกันวันที่สิบสี่ของเดือนอาดาร์จึงเป็นวันแห่งความยินดีและเฉลิมฉลองกินเลี้ยงกันดังที่กล่าวงไปข้างต้น ทั้งสองวันมีการเลี้ยงเฉลิมฉลองและมีความยินดีและจัดส่งของขวัญให้กันและกันและส่งมอบให้กับคนยากจน นี่เป็นวิธีปฏิบัติเพื่อให้มีความแน่ใจว่าทุกคนจะมีอาหารเพียงพอสำหรับเทศกาลงานฉลอง "ปูริม" และเพื่อสร้างมิตรภาพและความเป็นพี่น้องกันของชาวยิวในเวลานั้น เพราะชาวยิวบางส่วนก็ได้กระจัดกระจายออกไป ในขณะที่ทั่วจักรวรรดิชาวยิวกำหนดสิบสี่ Adar เป็นวันของการเฉลิมฉลอง,แต่ในชูชานพวกเขาเฉลิมฉลองในวันที่สิบห้าของ Adar เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่พวกเขาพัก
ปล. Shushan สถานที่ในเปอร์เซีย

ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย

 ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย มัทธิว อย่าต่อสู้คนชั่ว มธ. 5:39 ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแ...