Sukkot
เทศกาลอยู่เพิง
เทศกาลแห่งพลับพลา
สู่เทศกาลข้สามัคคีธรรมกับพระเจ้า เป็นการฟื้นฟู
เทศกาลแห่งพลับพลาคือสัปดาห์แห่งการเฉลิมฉลองความยินดี
ชื่นชมยินดี !
เป็นภาพที่พระเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์
เป็นการสำแดงการไหลล้นออกมาด้วยความชื่นชมยินดี
ในที่ประทับของพระเจ้า
คำภาษาฮิบรูเป็นพลับพลา sukkah . หมายความว่า " กระท่อม หรือเต็นท์." คำกรีกสำหรับพลับพลาเป็น sk'en'e ซึ่งยังหมายถึง "เต็นท์กระท่อมหรือที่อยู่อาศัย."
ลนต. 23:24 “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด เจ้าทั้งหลายจงถือเป็นวันหยุดพักสงบวันหนึ่ง เป็นวันประชุมบริสุทธิ์ ประกาศเป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร
ฉธบ. 16:13 “ท่านจงถือเทศกาลอยู่เพิงเจ็ดวัน เมื่อท่านเก็บรวบรวมพืชผลของท่านจากลานนวดข้าว และจากบ่อย่ำองุ่นของท่านแล้ว
บริบท พลับพลาในพันธสัญญาใหม่ ( Brit Hadashah )
1.พระเยซู (Yeshua) บังเกิดในเพิงในเทศกาลอยู่เพิงและอยู่ท่ามกลางเรา
ยน. 1:14 พระวาทะทรงเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิริของพระองค์ คือ พระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง
2. เปโตร (Kefa) พูดถึงร่างกายของเขาว่าคือพลับพลา
2ปต. 1:13 ตราบที่ข้าพเจ้ายังอยู่ในกายนี้ ข้าพเจ้าเห็นสมควรที่จะฟื้นความจำพวกท่าน
2ปต. 1:14 เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าอีกไม่นานข้าพเจ้าก็จะตาย ดังที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้ทรงแจ้งแก่ข้าพเจ้าแล้ว
3.อัครทูตเปาโลบอกกับเราว่าร่างกายของเราบนโลกนี้เป็นบ้านชั่วคราว
2คร. 5:1 เพราะเรารู้ว่าถ้าเรือนกายบนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ถูกทำลายไป เราก็ยังมีที่อาศัยซึ่งมาจากพระเจ้า ที่ไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์ และอยู่อย่างถาวรนิรันดร์ในสวรรค์
2คร. 5:2 เพราะว่าในร่างกายนี้ เราคร่ำครวญและปรารถนาจะสวมใส่ที่อาศัยของเราที่มาจากสวรรค์
2คร. 5:3 เพราะเมื่อสวมแล้ว เราก็จะไม่เปลือย
2คร. 5:4 เพราะว่าเราที่อยู่ในเรือนกายนี้คร่ำครวญและเป็นทุกข์หนัก ไม่ใช่เพราะปรารถนาจะอยู่ตัวเปล่า แต่ปรารถนาจะสวมใส่กายใหม่ เพื่อกายที่ต้องตายนั้นจะถูกกลืนโดยชีวิตอมตะ
2คร. 5:5 แต่พระเจ้าทรงเป็นผู้เตรียมเราไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ และพระองค์ประทานพระวิญญาณเป็นมัดจำแก่เรา
4.พลับพลาของโมเสส (Moshe) เป็นเต็นท์ของที่อยู่อาศัย
กจ. 7:44 “บรรพบุรุษของเราเมื่ออยู่ในถิ่นทุรกันดารก็มีเต็นท์แห่งสักขีพยาน ตามที่พระองค์ทรงสั่งไว้เมื่อตรัสกับโมเสสว่าให้ทำเต็นท์ตามแบบที่ได้เห็น
ฮบ. 9:2 เพราะว่าพลับพลาจัดเตรียมเสร็จแล้วในห้องชั้นนอกนั้น มีคันประทีป โต๊ะ และขนมปังเฉพาะพระพักตร์ ห้องนี้เรียกว่า วิสุทธิสถาน
ฮบ. 9:3 และข้างหลังม่านชั้นที่สองมีห้องซึ่งเรียกว่า อภิสุทธิสถาน
ฮบ. 9:4 ห้องนั้นมีแท่นทองคำสำหรับเผาเครื่องหอม และมีหีบพันธสัญญาหุ้มด้วยทองคำทุกด้าน ภายในนั้น มีโถทองคำบรรจุมานา มีไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูม และมีแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญา
ฮบ. 9:5 เหนือหีบนั้น มีตัวเครูบแห่งพระสิริ กางปีกคลุมพระที่นั่งกรุณานั้น สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจพรรณนาให้ละเอียดตอนนี้ได้
ฮบ. 9:6 เมื่อจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างนั้นแล้ว พวกปุโรหิตก็เข้าไปในห้องชั้นนอกนั้น ทุกครั้งที่ประกอบศาสนพิธี
ฮบ. 9:7 แต่ในห้องที่สองนั้นมีมหาปุโรหิตผู้เดียวเท่านั้นที่เข้าไปได้ปีละครั้งและต้องนำเลือดเข้าไปถวายเพื่อตัวเอง และเพื่อบาปที่ประชาชนทำโดยไม่เจตนาด้วย
ฮบ. 9:8 โดยสิ่งนี้เอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงทรงสำแดงว่า ทางที่นำเข้าสู่สถานศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่เปิด ตราบใดที่ห้องชั้นนอกนั้นตั้งอยู่
5.อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ อาศัยอยู่ในเต็นท์
ฮบ. 11:8 โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮัมได้รับการทรงเรียกให้ออกเดินทางไปยังที่ที่ท่านจะรับเป็นมรดก ท่านก็เชื่อฟังและเดินทางออกไปโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
ฮบ. 11:9 โดยความเชื่อ ท่านได้อาศัยในแผ่นดินแห่งพระสัญญาเหมือนเป็นคนต่างด้าว โดยพักอยู่ในเต็นท์ร่วมกับอิสอัคและยาโคบผู้เป็นทายาทตามพระสัญญาเดียวกันนั้น
6.พลับพลาของดาวิดเป็นเต็นท์หรือที่อยู่อาศัย
กจ. 15:16 ‘ภายหลังเราจะกลับมา และเราจะสร้างพลับพลาของดาวิดซึ่งพังลงแล้วขึ้นใหม่ ที่ย่อยยับนั้นเราจะก่อขึ้นอีก และจะตั้งขึ้นใหม่
อมส. 9:11 “ในวันนั้น เราจะยกเรือนของดาวิดที่ล้มลงแล้วนั้น ตั้งขึ้นใหม่ และซ่อมส่วนต่างๆ ที่ชำรุด และยกที่ปรักหักพังขึ้น และสร้างใหม่อย่างในสมัยโบราณ
และพลับพลานี้เป็นวิหารของซาโลมอน
1พกษ. 5:2 และซาโลมอนได้ส่งพระดำรัสไปยังฮีรามว่า
1พกษ. 5:3 “ท่านคงทราบอยู่แล้วว่า ดาวิดพระราชบิดาของเราไม่ทรงสามารถสร้างพระนิเวศ สำหรับพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ได้ เพราะสงครามล้อมรอบพระองค์อยู่ จนกว่าพระยาห์เวห์จะทรงปราบศัตรูให้อยู่ใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์
1พกษ. 5:4 แต่บัดนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงให้ข้าพเจ้าได้หยุดพักรอบด้าน ปฏิปักษ์หรือเหตุร้ายก็ไม่มี
1พกษ. 5:5 ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงประสงค์จะสร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ดังที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้กับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘บุตรชายของเจ้า ผู้ที่เราจะตั้งไว้บนบัลลังก์แทนเจ้า จะสร้างพระนิเวศสำหรับนามของเรา’
1พกษ. 8:1 แล้วซาโลมอนทรงเรียกพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอล และบรรดาหัวหน้าของเผ่าต่างๆ คือพวกเจ้านายของตระกูลคนอิสราเอลมาประชุมในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะนำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ขึ้นมาจากนครดาวิดคือศิโยน
1พกษ. 8:2 และผู้ชายทั้งหมดของอิสราเอลก็ประชุมกับพระราชาซาโลมอน ณ การเลี้ยงในเดือนเอธานิม คือเดือนที่เจ็ด
1พกษ. 8:3 พวกผู้ใหญ่ทั้งสิ้นของอิสราเอลมา และพวกปุโรหิตก็ยกหีบ
1พกษ. 8:4 และเขาทั้งหลายนำหีบของพระยาห์เวห์ และเต็นท์นัดพบ อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่บริสุทธิ์ทุกอย่าง ซึ่งอยู่ในเต็นท์ขึ้นมา พวกปุโรหิตและพวกเลวีได้นำของเหล่านี้ขึ้นมา
1พกษ. 8:5 และพระราชาซาโลมอน และชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นที่ได้ประชุมกันกับพระองค์ อยู่กับพระองค์ต่อหน้าหีบ ได้ถวายแกะและวัวมากมาย จนไม่สามารถนับจำนวนหรือคิดคำนวณได้
1พกษ. 8:6 แล้วปุโรหิตก็นำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์มายังที่ตั้งของหีบ ในห้องชั้นในสุดของพระนิเวศ คือในอภิสุทธิสถาน ภายใต้ปีกของเครูบ
1พกษ. 8:7 เพราะเครูบนั้นกางปีกทั้งคู่ออกเหนือที่ตั้งของหีบ เครูบจึงคลุมอยู่เหนือหีบ และไม้คานของหีบ
1พกษ. 8:8 คานหามของหีบนั้นยาวมาก จึงเห็นปลายคานหามได้จากวิสุทธิสถาน ซึ่งอยู่หน้าห้องชั้นในสุด แต่ไม่อาจมองเห็นจากภายนอก และคานหามก็ยังอยู่ที่นั่นจนทุกวันนี้
1พกษ. 8:9 ไม่มีสิ่งใดในหีบนอกจากศิลาสองแผ่น ซึ่งโมเสสใส่ไว้ ณ ภูเขาโฮเรบ เมื่อพระยาห์เวห์ทรงทำพันธสัญญากับคนอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
1พกษ. 8:10 และต่อมาเมื่อพวกปุโรหิตออกมาจากวิสุทธิสถาน เมฆก็เต็มพระนิเวศของพระยาห์เวห์
1พกษ. 8:11 จนพวกปุโรหิตไม่อาจยืนปรนนิบัติอยู่ได้เพราะเมฆนั้น เพราะพระสิริของพระยาห์เวห์เต็มพระนิเวศของพระยาห์เวห์
1พกษ. 8:12 แล้วซาโลมอนตรัสว่า “พระยาห์เวห์ตรัสว่า พระองค์จะประทับในความมืดทึบ
1พกษ. 8:13 แท้จริง ข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศที่โอ่อ่าตระการตาสำหรับพระองค์ เป็นสถานที่เพื่อพระองค์จะสถิตอยู่เป็นนิตย์”
1พกษ. 8:14 แล้วพระราชาทรงหันมา และทรงอวยพรชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมด ขณะที่ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดยืนอยู่
1พกษ. 8:15 พระองค์ตรัสว่า “สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงสัญญากับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าด้วยพระโอษฐ์ และทรงให้สำเร็จด้วยพระหัตถ์ พระองค์ตรัสว่า
1พกษ. 8:16 ‘ตั้งแต่วันที่เราได้นำอิสราเอลประชากรของเราออกจากอียิปต์ เราไม่ได้เลือกเมืองไหนจากเผ่าใดในอิสราเอลเพื่อจะสร้างนิเวศ เพื่อนามของเราจะอยู่ที่นั่น แต่เราได้เลือกดาวิด ให้อยู่เหนืออิสราเอลประชากรของเรา’
1พกษ. 8:17 ดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าจึงตั้งพระทัยที่จะสร้างพระนิเวศ สำหรับพระนามแห่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล
1พกษ. 8:18 แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘ที่เจ้าตั้งใจสร้างนิเวศสำหรับนามของเรานั้น เจ้าก็ทำดีอยู่แล้ว ในเรื่องความตั้งใจของเจ้า
1พกษ. 8:19 อย่างไรก็ตาม เจ้าจะไม่ได้สร้างนิเวศ แต่บุตรชายผู้เกิดจากเจ้าจะสร้างนิเวศสำหรับนามของเรา’
1พกษ. 8:20 บัดนี้พระยาห์เวห์ทรงให้พระสัญญาของพระองค์ที่ตรัสนั้นสำเร็จ เพราะข้าพเจ้าได้ขึ้นมาแทนดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้า และนั่งอยู่บนบัลลังก์ของอิสราเอล ดังที่พระยาห์เวห์ได้ทรงสัญญาไว้ และข้าพเจ้าได้สร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
1พกษ. 8:21 ที่นั่นข้าพเจ้าได้กำหนดที่วางหีบ และภายในหีบบรรจุพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์ทรงทำกับบรรพบุรุษของเรา เมื่อทรงนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์”
7.พระเยซูเข้าสู่พระวิหารในเทศกาลอยู่เพิง (Sukkot)
ยน. 7:2 ขณะนั้นใกล้จะถึงเทศกาลอยู่เพิงของพวกยิวแล้ว
ยน. 7:27 แต่เรารู้แล้วว่าคนนี้มาจากไหน เพราะเมื่อพระคริสต์เสด็จมา จะไม่มีใครรู้เลยว่าพระองค์มาจากไหน”
ยน. 7:28 แล้วพระเยซูก็ทรงประกาศขณะทรงสั่งสอนอยู่ที่บริเวณพระวิหารว่า “พวกท่านรู้จักเราและรู้ว่าเรามาจากไหน เราไม่ได้มาตามลำพังเราเอง แต่พระองค์ผู้ทรงใช้เรามานั้นสัตย์จริงและพวกท่านไม่รู้จักพระองค์
ยน. 7:29 เรารู้จักพระองค์ เพราะเรามาจากพระองค์และพระองค์ทรงใช้เรามา”
8.พระคัมภีร์พูดถึงพลับพลาสวรรค์
ฮบ. 8:1 สรุปประเด็นสำคัญของเรื่องที่เราพูดอยู่นี้คือ เรามีมหาปุโรหิตอย่างนี้ ผู้ประทับเบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้าในสวรรค์
ฮบ. 8:2 เป็นผู้ปฏิบัติกิจในสถานศักดิ์สิทธิ์และในพลับพลาแท้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตั้งไว้ ไม่ใช่มนุษย์ตั้ง
วว. 13:6 มันเปิดปากของมันพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า พูดหมิ่นประมาทต่อพระนามของพระองค์ ต่อสถานที่สถิตของพระองค์ และต่อพวกที่อยู่ในสวรรค์
วว. 15:5 หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นพระวิหารคือเต็นท์แห่งสักขีพยานในสวรรค์เปิดออก
และพลับพลาสวรรค์นี้จะมาถึงโลก
วว. 21:1 และข้าพเจ้าเห็นฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะว่าฟ้าสวรรค์เดิมและแผ่นดินโลกเดิมนั้นหายไปแล้ว และทะเลก็ไม่มีอีกต่อไป
วว. 21:2 และข้าพเจ้าได้เห็นนครบริสุทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้เตรียมพร้อมเหมือนอย่างเจ้าสาวที่แต่งตัวไว้สำหรับสามี
วว. 21:3 ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระที่นั่งว่า “นี่แน่ะ ที่ประทับของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว และพระองค์จะประทับกับเขาทั้งหลาย พวกเขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ พระเจ้าเองจะสถิตกับเขา และจะทรงเป็นพระเจ้าของเขา
9.พระเยซูเป็นความจริงเป็นพลับพลาของพระเจ้า
ฮบ. 9:11 แต่เมื่อพระคริสต์เสด็จมาในฐานะมหาปุโรหิตแห่งบรรดาสิ่งประเสริฐซึ่งมาถึงแล้ว พระองค์ก็เสด็จเข้าไปสู่พลับพลาที่ใหญ่และสมบูรณ์ยิ่งกว่าแต่ก่อน (ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ คือไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างของโลกนี้)
เทศกาลอยู่เพิงเป็นเทศกาลสุดท้ายในเทศกาลเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ปรากฏในพระคัมภีร์ และเป็นเทศกาลสำคัญที่สุด เพราะเป็นการปิดท้าย วัฏจักรการเก็บเกี่ยว โดยที่เป็นเทศกาลสุดท้ายของฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังเป็นเทศกาลจารึก 3 เทศกาลที่ฉลองกันในเยรูซาเล็ม ถัดจากเทศกาลปัสกา(เพสะห์)และเพ็นเทคอสต์(ชาวูโอต)
คำว่า “พลับพลา” (อยู่เพิง) ในภาษาฮีบรู คือ สุคคท “Sukkot”(เอกพจน์คือ : sukah อ่านว่า สุคาห์) ซึ่งหมายถึงเพิงพักหรือที่พักอาศัยชั่วคราว
พระคัมภีร์ไบเบิลภาษาละตินใช้คำว่า “tabernacula” ซึ่งภาษาอังกฤษยืมมาใช้ว่า “tabernacles” เทศกาลนี้บางครั้งรู้จักกันว่าเป็น “ฤดูกาลแห่งความชื่นชมยินดีของเรา” ภาษาฮีบรูว่า “Z’man Simchateinu” เนื่องจากเทศกาลนี้เป็นเครื่องหมายถึงการเก็บเกี่ยวผลไม้ในเดือนกันยายน/ตุลาคม ของแต่ละปี จึงมักรู้จักกันในนามของ “เทศกาลการรวบรวมผลิตผล” ด้วย
พระเยซูทรงมาเป็นมนุษย์ (เพิง) เป็นวิหารที่ทรงประทับของพระยาห์เวห์ เมื่อเราได้เชื่อมต่อกับพระเยซูเราเป็นร่างกายพระองค์เป็นศีรษะ (เราจึงเป็นวิหารด้วย)
เทศกาลนี้จะเริ่มขึ้น 5 วันหลังจาก Yom Kippur (วันลบมลทินบาป) ในวันที่ 15 เดือนทิชรี และมีการฉลองกัน 8 วัน จนถึงวันที่ 22 เดือนทิชรี (ปี 2012 ตรงกับวันที่ 1-7ต.ค.โดยจะเริ่มตอนเย็นวันที่ 30 ก.ย.รวมเป็น 8วัน)
เทศกาลนี้เป็นการเฉลิมฉลองในพระวิหารของเยรูซาเล็มนี้จะมีประชาชนชาวยิวทั่วอิสราเอลและที่อยู่นอกดินแดนอิสราเอลเข้ามาร่วมด้วย ผู้เดินทางหลายพันคนจะเนืองแน่นเต็มท้องถนนต่าง ๆ ในเยรูซาเล็ม
เทศกาลที่สำคัญนี้มีลักษณะพิเศษ 3 ประการ
1.มีการถวายสัตวบูชาจำนวนมากตลอดเทศกาล วัว 70 ตัว แกะผู้ 14 ตัว ลูกแกะ 98 ตัว แพะ 7 ตัว และเครื่องบูชาที่เป็นเครื่องดื่มและธัญพืชรวมทั้งเครื่องถวายบูชาประจำวัน !
2.มีคันประทีบ(Menorah)ใหญ่ 4 อัน ในลานสตรีที่พระวิหารจะถูกจุดสว่างตลอดเทศกาล
3.มีพิธีกรรมอันเรียกกันว่าพิธีหลั่งน้ำเพื่อครัวเรือน (House of Water Pouring Ceremony) ภาษาฮีบรู : Beit She’ubah ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญสำหรับผู้เชื่อในพระเยซู
คนยิวในปัจจุบันฉลองเทศกาลอยู่เพิงนี้อย่างไร
ครอบครัวจะสร้างเพิง (Sukkah) ในสวนหรือบริเวณบ้าน พวกเขาจะกินอาหารที่เสิร์ฟอยู่ภายใต้ Sukkah พ่อจะอ่านโทราห์และ ชี้ให้ดูดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน และยกเรื่องพันธสัญญาของอับราฮัมมาเล่าให้ลูกๆ ฟัง ครอบครัวจะร้องเพลงและเต้นรำเพราะเป็นฤดูกาลแห่งความร่าเริงยินดี ! ครอบครัวส่วนมากตกแต่งด้วยกิ่งไม้เช่น กิ่งใบปาล์ม (lulav) ไม้หอม และกิ่งต้นน้ำมันเขียว และผลส้ม เป็นการขอบพระคุณพระเจ้า
ข้อสังเกตคือการให้ความสำคัญกับครอบครัว เป็นช่วงเวลาพักสงบ ใช้เวลาสังสรรค์กับครอบครัว
เทศกาลนี้เป็นการเตือนใจชาวยิวถึงการปกป้องของพระเจ้า ในช่วงที่บรรพบุรุษของเขาต้องเร่ร่อนในถิ่นทุรกันดารในช่วงอพยพออกจากอียิปต์ เทศกาลนี้จึงเล็งถึงพระสิริของพระเจ้าที่อยู่กับพวกเขาทุกหนทุกแห่ง
ในวันที่ 8 (7ต.ค.12) เรียกว่า “ชิมหัตโทราห์” (Simehat Torah) หมายถึง “ชื่นชมยินดีในโทราห์” คนยิวจำนวนมากเต้นรำด้วยถือหนังสือม้วนโทราห์ อ่านตั้งแต่ปฐมกาลข้อแรก และข้อสุดท้ายของเฉลยธรรมบัญญัติ เพื่อแสดงว่าพระวจนะของพระเจ้าไม่มีวันสิ้นสุด
มีการนมัสการอย่างชื่นชมยินดีในธรรมศาลา(synagogue)หรือที่กำแพงตะวันตก(western wall)
สิ่งสำคัญของเทศกาลอยู่เพิงคือ เป็นเทศกาลแห่งการประสูติของพระเยซูคริสต์!
จากคำสอนใน Issachar school 1 โดย Dr.Robert Heidler ทำให้เราเข้าใจว่า "เทศกาลอยู่เพิงเปิดเผยถึงพระลักษณะและพระราชกิจของพระเยซู ที่เป็นเพิงแห่งพระสิริท่ามกลางเรา!" เพราะว่า เป็นช่วงเวลาแห่งการประสูติของพระเยซูคริสต์! ไม่ใช่ 25 ธันวาคม แน่นอน! ดังเหตุผลต่อไปนี้ (ดูจากรูปภาพประกอบเพื่อเข้าใจง่ายขึ้น)
คนเลี้ยงแกะไม่ได้เลี้ยงแกะในเดือนธันวาคม ลูกา 1:5 เศคาริยาห์ พ่อของยอห์นบัพติศโต เป็นปุโรหิตในเดือนอาวียาห์(Avivah) หรือเดือนสิวาน(Sivan) อลิซาเบธตั้งครรภ์ยอห์น อยู่ในเดือน มิถุนายน ดังนั้นนางมารีย์ตั้งครรภ์พระเยซูหลังจากนั้น 6 เดือน อยู่ในประมาณเดือน ธันวาคม
ดังนั้น พระเยซูเกิดในเดือนนี้ คือ กันยายน-ตุลาคม แน่นอน!(คือวันที่ 15 เดือนทิชชี)
- ทูตสวรรค์ปรากฎในช่วง 12-18 สิวาน (มิถุนายน)
- อลิซาเบธตั้งครรภ์ช่วงนี้ 25 สิวาน (285 วัน)
กำหนดเวลาตั้งครรภ์โดยประมาณ
- ยอห์นบัพติศโต เกิด15 นิสาน (ช่วงปัสกาเม.ย.-พ.ค.)
ลูกา 1:26 อลิซาเบธท้องได้ 6 เดือน มารีย์ตั้งครรภ์
ในวันที่ 25 ของเดือน คิสเลฟ (ธันวาคม) เทศกาล ฮานูก้า (เทศกาลแสงสว่าง)โดยปกติจะตั้งครรภ์ 9 เดือน (ประมาณ285 วัน) พระเยซูน่าจะประสูติ ในช่วงวันที่15ของเดือนทิชรี (ตรงกับเทศกาลอยู่เพิง)ในพระคัมภีร์ ยอห์น 1:14 กล่าวว่า พระวาทะได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเรา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง เราทั้งหลายได้เห็นพระสิริของพระองค์ คือพระสิริอันสมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา
ตอนที่มารีมาถึงเบธเลเฮ็ม ช่วงนั้นเป็นเทศกาลอยู่เพิง ยอห์นอธิบายการประสูติของพระเยซูอย่างนี้..
ยน.1:14 “พระวาทะได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเราและเราทั้งหลายได้เห็นพระสิริของพระองค์”
ลก.2:12 12 นี่จะเป็นหมายสำคัญสำหรับพวกท่าน คือท่านจะพบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า” มารีย์มีบุตรชายและวางบุตรชายนั้นในรางหญ้า คำภาษากรีกคือ phatne แปลว่า รางหญ้า, โรงเก็บสัตว์ คอกสัตว์แบบชั่วคราว คำฮีบรูที่เหมือนกับ phatne : SUKKAH (พลับพลา/เพิง)
คำนี้พบครั้งแรกใน ปฐก.33:17 ยาโคบสร้างเพิง sukkah ให้สัตว์ของเขา
ช่วงเวลาระหว่างเทศกาลอยู่เพิง เป็นเทศกาลใหญ่ที่มีผู้คนเดินทางมาพักแรมเพื่อฉลองเทศกาลนี้ จุึงไม่มีห้องว่างในโรงแรม แต่เพิง (sukkah) มีอยู่ทั่วไปหมด ดังนั้นนางมารีย์และโยเซฟจึงไม่มีที่พักในโรงแรม ต้องไปพักที่โรงนา และประสูติพระเยซูคริสต์ในรางหญ้า
ในเทศกาลอยู่เพิงนั้นเอง ที่พระสิริของพระเจ้ามาปรากฏในเพิง และพระเยซูพระเมสสิยาห์ทรงบังเกิด !
สำหรับในวันที่ 25 ธ.ค.นั้นเป็นเทศกาลคริสต์มาสที่โรมันได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลอง คำว่า "คริสต์มาส" เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" ซึ่งพบครั้งแรกในเอกสารโบราณที่เป็นภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1038 และในปัจจุบันคำนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas
(ข้อมูลเรื่อง เทศกาล Christmas จาก สารานุกรม Wikipedia บันทึกไว้ว่า เทศกาล Christmas หรือ X’Mas ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี ตามหลักฐานในพระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในสมัยที่จักรพรรดิซีซาร์ ออกุสตุส แห่งจักรวรรดิโรมัน ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยฝ่ายคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรียก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งอาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร)
นักประวัติศาสตร์ได้วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน กำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยะเทพ ตั้งแต่ปี ค.ศ.274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูซึ่งเปรียบเสมือนความสว่างของโลก และเหมือนดวงจันทร์เป็นความสว่างในตอนกลางคืนแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64-313 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปี ค.ศ.330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย)
ในครั้งนี้เราพอจะเข้าใจแล้วว่า พระเยซูคริสต์ ทรงเป็นอิมมานูเอล คือเพิงแห่งพระสิริที่อยู่ท่ามกลางเรา!
สิ่งนี้ช่วยให้เราเข้าใจ ยน.7:37-39
ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลซึ่งเป็นวันใหญ่นั้นปุโรหิตจะนำเอาน้ำจากสระสิโลอัม มาเทบนแท่นบูชา ปุโรหิตจะยกน้ำขึ้นแล้วเท ฝูงชนจะอยู่ในความเงียบสงบ พระเยซูทรงยืนและประกาศว่า “ถ้าผู้ใดกระหายผู้นั้นจงมาหาเราและดื่ม ผู้ที่วางใจในเรา แม่น้ำที่มีน้ำธำรงชีวิต จะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น" นั่นคือเป้าหมายของพระเยซูชีวิตที่ไหลล้น
นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้กับเราในทุก ๆ ปี พระเจ้าต้องการให้ประสบการณ์อันสดใหม่ของชีวิตที่ไหลล้นของพระองค์กับเรา พระองค์ต้องการจะเติมเราด้วยพระสิริของพระองค์ น้ำองุ่นใหม่แห่งพระวิญญาณ พระเยซูมาในโลกนี้เพื่ออยู่กับเรา เวลานี้พระองค์เชื้อเชิญให้เราอยู่กับพระองค์
พระเยซูปรารถนาจะเลี้ยงฉลองกับเรา เชื้อเชิญพระองค์มาที่พลับพลาของคุณในปี
ยน.7:37-38 “ในวันสุดท้ายของเทศกาล พระเยซูตรัสเสียงดังว่า “ถ้าผู้ใดกระหาย ให้เขาเข้ามาและดื่มเถิด! ผู้ใดก็ตามที่เชื่อในเรา สายธารซึ่งมีน้ำที่ให้ชีวิตจะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น!”
เราเฉลิมฉลองเทศกาลอยู่เพิงอย่างไร ?
ลนต.23:24-43 “...วันที่ 15 ของเดือนที่ 7 เป็นวันเริ่มเฉลิมฉลอง เทศกาลอยู่เพิงขององค์พระผู้เป็นเจ้า และให้ฉลองไปจนครบ 7 วัน...เป็นการประชุมศักดิ์สิทธิ์ และนำเครื่องบูชาด้วยไฟมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
สร้าง “เพิงชั่วคราว” (Sukkah-ที่พักชั่วคราว) พักอยู่ในเพิงเจ็ดวัน...เพื่อลูกหลานของเจ้าจะรู้ว่าได้ให้ชนอิสราเอล
พระเจ้าตรัสกับว่า “สร้างเพิง สำหรับเราด้วย ! พระเกียติสิริของพระเจ้าลงมาและอยู่ท่ามกลางพวกเขา
ในเทศกาลอยู่เพิงในปีนี้ เราจึงต้องจัดเตรียมบ้านของเราให้เป็นที่ประทับแห่งเพิงพระสิริพระเจ้า และฉลองเทศกาลนั้น โดยตั้งเวลานัดพบกับพระองค์ เพื่อเราจะพักสงบในร่มเงาแห่งพระสิริ!
การเฉลิมฉลองเทศกาลอยู่เพิง
1.เวลาแห่งการระลึกถึง!
พลับพลาของพระเจ้าอยู่ด้วยกับประชากรของพระองค์!
...ในถิ่นทุรกันดาร ! ...ในพระเยซูคริสต์ ! ...ในชีวิตของท่าน !
2. เป็นเวลาแห่งความเพลิดเพลิน !
เฉลิมฉลองด้วยความสนุกสนานกับพระเจ้า!
เลวีนิติ 23:40 – ชื่นชมยินดีต่อหน้าพระเจ้าของเจ้า 7 วัน
เฉลยธรมมบัญญัติ 16:14-15 – “จงชื่นชมยินดีในเทศกาลของเจ้า...
เพื่อพระเจ้าของเจ้าจะอวยพรเจ้า...
และให้ความชื่นชมยินดีของเจ้ามีเต็มเปี่ยม...”
3. เตรียมของถวาย !
โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบพระคุณพระเจ้า!
เฉลยธรรมบัญญัติ 16:16-17 – “อย่าให้ผู้ใดเข้าเฝ้าพระเจ้ามือเปล่า:
แต่ละคนจงนำของถวายมาตามสัดส่วนที่พระยาห์เวห์
พระเจ้าของท่านทรงอวยพรท่าน”
4. เวลาแห่งความคาดหวัง !
พระเจ้าเรียกออกมาเพื่อพระเกียรติสิริของพระเจ้า เข้ามาสู่
พลับพลาด้วยกันกับเราอีกครั้งหนึ่ง!
“ในวันสุดท้ายของเทศกาล พระเยซูตรัสเสียงดังว่า
“ถ้าผู้ใดกระหาย ให้เขาเข้ามาและดื่มเถิด! ผู้ใดก็ตามที่เชื่อในเรา
สายธารซึ่งมีน้ำที่ให้ชีวิตจะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น!”
ยอห์น 7:37-38
จัดเวลาอยู่ในเพิงกับพระเจ้า จัดเวลาพบกับพระองค์
จัดเวลาพักผ่อนกับพระคำของพระองค์
จัดเวลาด้วยกันกับครอบครัวและเพื่อน ๆ
แบ่งปันคำพยานและความดีของพระเจ้า!
กินอาหารโปรดด้วยการขอบพระคุณพระองค์
เฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีเด็ก ๆ นำมาร่วมกัน...
ยิ่งกว่านั้นอีกเทศกาลนี้เป็น
เทศกาลของคริสเตียน!!
เหตุผลที่คริสเตียนควรเข้าเทศกาล
ที่มา : Dr.Robert Heidler, Glory of Zion International Ministries
http://www.hebroots.org
http://pattamarot.blogspot.com/2012/09/blog-post_27.html
http://missionkorat.blogspot.com/2011/10/blog-post_7242.html#more
ขอพระเจ้าอวยพระพร
ชาโลม
ktm.worship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น