ปัญญาจารย์ 1:18
สติปัญญาคือความทุกข์หรือ
ปญจ. 1:18 เพราะเมื่อมีสติปัญญามากขึ้น ก็มีความทุกข์ระทมมากขึ้น และบุคคลที่เพิ่มความรู้ก็เพิ่มความเศร้าโศก
ปญจ. 1:18 For in much chochmah is much grief: and he that increases da'at increases sorrow.
จากพระคัมภีร์ตอนนี้ คริสเตียนและพระคัมภีร์ถูกโจมตีว่า มิน่าล่ะ พวกคริสเตียนถึงงมงายและยึดถือแต่หนังสือเก่าๆเล่มเดียว เพราะพระเจ้าไม่สนับสนุนให้มีความรู้นี่เอง
Chokhmah = ความฉลาด ("Wisdom"; חכמה) (or chochmah or hokhmah)
http://en.wikipedia.org/wiki/Chokhmah_%28Kabbalah%29
da'at หรือ Daas = ความรู้ ("Knowledge", Hebrew: דעת [ˈdaʕaθ])
http://en.wikipedia.org/wiki/Da%27at
ทั้งสองคำนี้อาจจะแปลออกมาเหมือนไม่มีอะไร แต่ในรากศัพท์เดิมมันไปเกี่ยว ความเชื่อแบบ Kabbalah ซึ่งในความหมายผมจะไม่เจาะลึกแต่ความเชื่อแบบคับบาล่าห์ บางอย่างก็ไม่ผิดแต่บางอย่างก็หลุดไปเหมือนกัน คับบาล่าห์ นั้นเป็นระบบความคิดที่เป็นปริศนาของชาวฮีบรูโบราณ โดยมีรากศัพท์มาจากคำว่า Qibel หมายถึง การได้รับการถ่ายทอดผ่านปากต่อปากมาเป็นระยะเวลานาน (To receive by oral) คับบาลาห์คือชุดของคำสอนลึกลับที่บางคำสอนเกี่ยวข้องกับเวทมนต์ด้วย สะกดได้หลายแบบ Kabala, Kabbala, Kabbalah, Cabala, Cabbala, Cabbalah
บทความนี้เหมาะสำหรับผู้เชื่อที่อ่านแล้วยังไม่เข้าใจบริบทพระคัมภีร์ แต่ไม่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการโจมตีและหาจุดอ่อนจากพระคัมภีร์
ซึ่งในฉบับรากฮีบรู
18 For in much chochmah is much grief: and he that
increases da’at (2) increases sorrow.
มีคำอธิบาย ด้านล่างว่า (2) Worldly knowledge “ความรู้ทางโลก”
ในเว็บไซต์ http://th.w3dictionary.org/index.php?q=worldly
worldly (เวิร์ลดฺ'ลี)
โลก, โลกมนุษย์, โลกียวิสัย, ทางโลก, ช่ำชองโลก, สังคมโลก
knowledge (นอล'ลิดจฺ)
n. ความรู้, ความคุ้นเคย, การเข้าใจ, ความตระหนัก, ข่าว
ปญจ. 1:16 ข้าพเจ้ารำพึงว่า “ดูซิ ข้าพเจ้ามีสติปัญญามากยิ่ง มากกว่าทุกคนที่ครองอยู่เหนือกรุงเยรูซาเล็มก่อนข้าพเจ้า และข้าพเจ้าเจนจัดในสติปัญญาและความรู้อย่างยิ่ง”
ปญจ. 1:17 ข้าพเจ้าก็ตั้งใจเข้าใจสติปัญญา เข้าใจความบ้าบอและความเขลา ข้าพเจ้าค้นพบว่าเรื่องนี้ก็เป็นแต่กินลมกินแล้งด้วย
ซาโลมอนมีสติปัญญามากมาย ชื่อของเขาคือ ปัญญา พระองค์มีสติปัญญามากกว่าคนในโลกในยุคนั้น แม้แต่พวกอียิปต์ซาโลมอนทรงค้นพบว่า ความรู้และสติปัญญาทั้งหมดที่พระองค์มีอยู่ จะไม่มีความหมายเลย ถ้าหากพระองค์ไม่รู้จักกับพระผู้เจ้า (พระยาห์เวห์) นานไปเมื่อพระองค์เติบโตขึ้น พระองค์ทรงลืมความรู้ในเรื่องของพระเจ้า ทรงลืมว่าพระเจ้าช่วยและประทานอะไรให้พระองค์ และเริ่มต้นหันนมัสการพระเทียมเท็จ ใน 1พงศ์กษัตริย์ 11:1-13 ความรู้ความสามารถและ สติปัญญาของพระองค์ไม่สามารถเติมความว่างเปล่าให้ชีวิตของพระองค์ให้เต็มได้ ในที่สุดพระองค์ก็ทรงตระหนักว่า พระองค์ทรงเดินออกไปนอกเส้นทางที่พระเจ้าทรงกำหนด นอกพระทัยของพระเจ้า พระองค์ต้องทรงถ่อมพระทัยลงต่อพระพักตร์พระเจ้ากลับใจใหม่ และกลับมาติดสนิทกับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงค้นพบว่าสติปัญญาตามอย่างโลกนั้นไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับชีวิตมนุษย์ได้ บางครั้งยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งมีแต่ความว่างเปล่า
จากพระวจนะตอนนี้ผมเชื่อว่าพระเจ้าสอนเราเพื่อที่เราจะไม่แสวงหาความรู้และสติปัญญาทางโลกมากมายก่ายกอง ไม่ใช่ว่าไม่ต้องเรียนหนังสือ แต่ไม่แสวงหาสติปัญญาทางโลกและความรู้ในโลกมากกว่าที่จะแสวงหาพระวจนะที่มีชีวิตและพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
แม้คริสเตียนเองถ้าแสวงหาเรียนรู้มากมาย อาจจะตกไปอยู่ในความเชื่อแบบ kabbalah โดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้ ยิ่งรากศัพท์ที่มาจาก ความเชื่อแบบ kabbalah ด้วยแล้ว บางครั้งความรู้ความสามารถอาจจะไม่สำคัญมากเท่าเราใกล้ชิดและแสวงพระเจ้าของเราซึ่งนี่ต่างหากที่คือชีวิต
ปล. บทความนี้เขียนขึ้นด้วยระยะเวลาอันสั้น เพราะเห็นคำถามนี้จึงรวบรวมเท่าที่พอจะเขียนแบ่งปันได้ ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอพระเจ้าอวยพระพร
ชาโลม
Ktm.worship
ขอบคุณมากครับ
ตอบลบบางอย่างลึกมากไปโดยคนเรียนยังเป็นเด็กอยู่ อาจจะหลงไปเลยก็ได้