วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เจ้าสาวผู้ครองราชย์คืออรุณรุ่งของวันใหม่

เจ้าสาวผู้ครองราชย์คืออรุณรุ่งของวันใหม่

คำเผยพระวจนะจาก วิคโทเรีย  บอยซัน

พวกคุณถูกลิขิตไว้เพื่อที่จะนำสวรรค์มาบนโลก!

ดิฉันได้เห็นในวิญญาณจิตของดิฉันถึง ประตูไม้โบราณซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬารบานหนึ่งตั้งอยู่ในสวรรคสถานทั้งหลายที่ทันใดนั้นมันก็เปิดออกกว้าง  ประตูบานนี้ได้ถูกปิดมาเป็นเวลานานแสนนานเหลือเกิน แต่ดิฉันสัมผัสได้ว่าทั่วทั้งสวรรค์นั้นต่างก็เฝ้ารอคอยการเปิดออกของมัน

ดิฉันรู้ได้ในวิญญาณจิตของดิฉันว่า พระกายของพระคริสต์นั้น ในที่สุด ก็พร้อมแล้วที่จะได้รับทรัพย์สมบัติอันมหาศาลที่ได้ถูกเก็บซ่อนเอาไว้หลังประตูใหญ่บานนี้  ถึงแม้ว่ามันจะมืดมิด และ ต้องห้าม มันก็ได้เก็บทรัพย์สมบัติอันยิ่งใหญ่เอาไว้  ในตอนแรก มันเปิดออกด้วยเสียงไม้แตกออดแอด แล้วลำแสงก็ได้เริ่มที่จะโผล่ออกมาจากหลังบานประตูนั้น ออกจากช่องว่างของบานประตูเก่าฝุ่นหนานี้ แสงสว่างที่ส่องสว่างมากยิ่งกว่าแสงใด ๆ ก็พุ่งออกมา นี่คือแสงแห่งแผ่นดินของพระเจ้า

เป็นความจริงโดยแท้ ที่แสงนี้ได้แบกเอาความจริงของเจ้าสาวแห่งสวรรค์ผู้ครองราชย์ ผู้เดินไปในชัยชนะของพระคริสต์อย่างผู้พิชิตโดยสมบูรณ์  โดยผ่านเจ้าสาวผู้งามเลิศนี้รัฐบาลและการปกครองของสวรรค์ก็จะออกมาสู่โลกนี้

เพราะว่าในที่สุด คำอธิษฐานทั้งหลายของสวรรค์ก็จะได้รับคำตอบแล้ว และคำเผยพระวจนะของพระคริสต์ใน ยอห์น 14.12 ก็จะถูกทำให้สำเร็จครบถ้วน ที่ว่า “คน​ที่​วางใจ​ใน​เรา​จะ​ทำ​กิจการ​ที่​เรา​ทำ​นั้น​ด้วย และ​เขา​จะ​ทำ​กิจ​ที่​ยิ่งใหญ่​กว่า​นั้น​อีก เพราะ​ว่า​เรา​จะ​ไป​หา​พระ​บิดา​ของ​เรา”  คริสตจักรของพระคริสต์ผู้พิชิต คือ เจ้าสาวผู้งามเลิศของพระองค์ ก็จะลุกขึ้นด้วยการฟื้นฟูในดวงใจของเธอ และเข้ามารับตำแหน่งอันคู่ควรของเธอ คือ เคียงข้างพระองค์  และเจ้าสาวของพระเยซูก็จะเรียนรู้ที่จะครองราชย์ร่วมกับพระองค์ในฤทธิ์เดชและสิทธิอำนาจอย่างแท้จริง

นี่คืออรุณรุ่งของวันใหม่สำหรับคริสตจักร!

ความสยองขวัญสำหรับนรก!

หากว่าพวกคุณได้ศึกษาชีวิตของพระเยซูคริสต์ พวกคุณก็จะพบว่า เป็นความจริงที่พระองค์เต็มไปด้วยความรักและพระเมตตายิ่ง  แต่พระองค์ก็ไม่ได้พะเน้าพะนอต่อเหล่าภูตผีปีศาจเลยแม้แต่น้อย  พระองค์ตำหนิพวกมัน  เมื่อพระองค์เผชิญหน้ากับกองกำลังของเหล่าภูตผีปีศาจ พระองค์ใช้สิทธิอำนาจเหนือพวกมัน  พระองค์ทรงครองราชย์ด้วยสิทธิอำนาจแห่งพระเมตตา และจะไม่ทรงยอมให้ศัตรูมารังแกหรือมาทำร้ายบรรดาคนเหล่านั้นผู้ที่พระองค์สนใจและเอาใจใส่เลยเด็ดขาด  พระองค์ไม่เคยพูดดี ๆ กับศัตรู หรือใช้เหตุผลกับพวกมัน  พระองค์เพียงแค่สั่งให้มันออกไปเสียให้พ้น

ไม่ว่าพระคริสต์เสด็จไปที่ไหนก็ตาม  พระองค์ทำให้กิจการทั้งหลายของความมืดนั้นต้องล้มเหลวและพังพินาศไป อีกทั้งยังเป็นเหตุให้เกิดความโกลาหลในค่ายของศัตรูเสมอ พระองค์ไม่เคยหยุดพักในการต่อสู้กับภูติผีที่มีอำนาจต่าง ๆ ของความมืดเลย  ที่ใดที่มีความเจ็บไข้ได้ป่วย ที่นั่นพระองค์ได้นำการเยียวยารักษามาให้  ที่ใดที่มีความบาปครอบครองอยู่แน่นหนา  ที่นั่นพระองค์ได้นำการเปิดเผยสำแดง และการช่วยกู้มาให้       ไม่มีภูตผีปีศาจตนใดจะอยู่รอดปลอดภัยใดได้ในที่ที่พระเยซูอยู่  เพราะว่าพระองค์ทรงใช้สิทธิอำนาจเหนือพวกมัน  เหล่าภูติผีปีศาจต่างก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อพระองค์เดินเข้ามาใกล้  พระองค์เองนั่นแหละที่เป็นความสยองขวัญสำหรับนรก!

ใช่แล้ว  ด้วยสิทธิอำนาจที่พระเยซูเดินอยู่ นรกจึงหวาดกลัวพระองค์  ก็ทำไมพวกมันจะไม่กลัวพระองค์ล่ะ ในเมื่อพระเยซูรู้แล้วว่าพระองค์เป็นใคร และพระองค์เป็นของใคร!

พระเยซูดำเนินชีวิตในอาณาจักรแห่งการอัศจรรย์  ชีวิตของพระองค์ถูกล้อมรั้วไปด้วยการอัศจรรย์หนึ่งตามด้วยการอัศจรรย์อีกอันหนึ่งอยู่ตลอดเวลา  พระองค์ล้วนแต่ทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจ และสิ่งต่าง ๆ ที่เหลือเชื่อ  ตาที่บอดแล้วกลับเปิดออกได้ ชายหลายคนผู้เป็นง่อยนานแล้วกลับเดินได้  คนที่ตายไปนานแล้วกลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา  เหล่าภูตผีปีศาจก็วิ่งหนีไปจากพระองค์  บรรดาคนโรคเรื้อนก็กลับสะอาดอีกครั้ง  พระองค์ได้ทำให้โลกนี้ยืนงง แล้วพระองค์ก็ได้ตั้งมาตรฐานไว้ให้กับพวกคุณและตัวดิฉันเองว่า พวกเราจำต้องเดินในฤทธิ์เดชและในสิทธิอำนาจแบบเดียวกันกับที่พระองค์ได้ทำแล้วนั้นด้วย

แผนการของพระคริสต์สำหรับพวกเรา ก็คือ กิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก!

หากว่าพวกคุณประหลาดใจเพราะการอัศจรรย์ต่าง ๆ ที่พระคริสต์ได้ทรงสำแดง และกิจการทั้งหลายที่พระองค์ได้ทรงกระทำบนโลกนี้  พวกคุณก็จงเตรียมตัวที่จะประหลาดใจหนักขึ้นไปอีกเถิด ก็เพราะว่าพระองค์ได้พูดไว้แล้วว่า พวกเราจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พระองค์ได้ทรงกระทำเอาไว้แล้วเสียอีก!  พระองค์ต้องการที่จะให้พวกเราทำให้มันยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีก  นี่แหละคือแผนการของพระองค์ที่มีไว้สำหรับพวกเรา  นี่แหละคือความคิดของพระองค์สำหรับพวกเรา คือ เพื่อจะทำการที่ยิ่งใหญ่ กิจที่เหลือเชื่อ  ที่น่าประหลาดใจ และสิ่งต่าง ๆ ที่อัศจรรย์  พระองค์ต้องการให้พวกเราอาศัยอยู่ในอาณาจักรแห่งการอัศจรรย์  พระองค์ต้องการให้พวกเราเป็นก่อกวนอาณาจักรของความมืดให้มากที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้

พระคริสต์ต้องการให้พวกเราเผชิญหน้ากับโรคร้ายต่าง ๆ แบบซึ่ง ๆ หน้า และนำเอาฤทธิ์เดชแห่งการเยียวยารักษาของพระองค์ไปยังที่ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการเยียวยารักษายิ่งนัก  และในที่ซึ่งมีกิจการของภูติผีปีศาจทำงานอยู่  พระองค์ปรารถนาที่จะให้พวกเราขับไล่มันออกไป  พระองค์ต้องการให้พวกเรารื้อลง ฉีกขาด และถล่มให้ราบคราบซึ่งป้อมปราการทั้งหลายของศัตรูนั้น

สวรรค์กำลังเฝ้ารอคอยอย่างกล้าหาญถึงการตื่นขึ้นของเจ้าสาวของพระคริสต์ผู้ครองราชย์ และสวรรค์ก็กำลังเปิดประตูทั้งหลายออกให้กับการเตรียมตัวของรัฐบาลและการปกครองของสวรรค์  นี่เป็นครั้งแรกในตลอดประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติที่พวกเราจะได้เห็นอาณาจักรทั้งสิ้นของสวรรค์สัมผัสแตะต้องแผ่นดินโลก  และพวกเราจำต้องไปให้ถึงระดับเดียวกับความคาดหวังของสวรรค์ด้วยการโอบกอดเอาสิทธิอำนาจและชัยชนะที่พระองค์ได้มอบให้กับพวกเราแล้วด้วยความเต็มใจ

พวกเราจะไม่ชูคอของพวกเราขึ้นเพราะความถ่อมใจที่จอมปลอม หรือ ยอมให้ความอับอายทำให้พวกเราอ่อนกำลังลงได้อีกต่อไป พวกเราจำเป็นที่จะต้องสลัดเอาการอยู่เฉย ๆ ไม่ต่อสู้ ไม่ดิ้นรนอะไร ทน ๆ ไปนั้นทิ้งไปเสียที  และเริ่มตระหนักได้แล้วถึงบทบาทของพวกเราในฐานะเจ้าสาวของพระองค์  พระองค์ได้ทรงลิขิตชีวิตของพวกเราเอาไว้แล้วเพื่อที่พวกเราจะครองราชย์เคียงข้างพระองค์ และดูแลโลกนี้อย่างที่พระองค์ทำ  ความชื่นชมยินดีของพระองค์นั้นอยู่ที่พวกเราแล้วเพื่อที่พวกเราจะได้เดินไปในสิทธิอำนาจแห่งพระเมตตาของพระองค์  และพัดไล่ความมืดไป และใส่ชีวิตลงไปด้วยความสว่างแทน  ในฐานะที่พวกเราเป็นคริสตจักรของพระองค์ และเป็นเจ้าสาวของพระองค์  นี่เป็นความชื่นชมยินดีของพวกเรา และเป็นความรับผิดชอบของพวกเราที่จะเฝ้าระวังและคอยจุดให้ไฟแห่งการฟื้นฟูทั้งหลายนั้นลุกโชติช่วงไปทั่วทั้งแผ่นดินโลก

ศัตรูมองเห็นอะไร เมื่อมันจ้องมาที่พวกเรา?

ศัตรูทำตัวยุ่งไปหมดด้วยการรังควานพระกายของพระคริสต์  มันได้พยายามที่จะทำให้พวกเราล้มลงด้วยการเพิ่มน้ำหนักของการกล่าวหา และการปรับโทษขึ้นอย่างมาก จนกระทั่งพวกเรารู้สึกอ่อนแอเกินไป และรู้สึกว่าตนไร้ความสามารถ  แต่ทว่า เหตุใดมันจึงทำเช่นนี้เล่า?  มันกลัวอะไรหรือ?  ทำไมมันกำลังพยายามอย่างหนักหน่วงที่จะปรับโทษพวกเรา และ พยายามเหลือเกินที่จะทำให้พวกเราเชื่อว่าพวกเรานั้นไม่มีฤทธิ์เดชอะไร?  ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า มันกลัวพวกเราอย่างหัวหดเลยทีเดียวนะสิ  มันกลัวจนตัวสั่น เพราะเพียงแค่คิดว่าถ้าหากว่าพวกเราค้นพบว่าแท้จริงพวกเรานั้นเต็มไปด้วยฤทธิ์เดชมากมายขนาดไหนแล้วละก็ พวกเราจะน่ากลัวสยดสยองสำหรับมันสักแค่ไหน  ดังนั้น ด้วยความกลัวเช่นนี้ มันจึงเห่าหอน และรังแกพวกเราอยู่เสมอ ๆ

ปีศาจมองเห็นอะไรในพวกเรากันหรือ จึงได้ทำให้มันกลัวหัวหดยิ่งนัก?  ก็มันมองเห็นความชอบธรรมของพระเจ้าและก็เห็นแหล่งแห่งฤทธิ์เดชทั้งสิ้นของสวรรค์ที่ไม่ได้ใช้ยังไงล่ะ  2 โครินธ์ 5.21 “พระ​เจ้า​ทรง​กระทำ​พระ​องค์​ผู้​ปราศจาก​บาป​ให้​เป็น​บาป1  เพื่อ​เรา เพื่อ​ใน​พระ​องค์ เรา​จะ​กลาย​เป็น​ความชอบ​ธรรม​ของ​พระ​เจ้า”  มันรู้ว่าคำเผยพระวจนะของพระคริสต์ปรากฏอยู่ต่อหน้ามัน และรู้ว่าในช่วงเวลาที่เหมาะสมคริสตจักรก็จะทะลุทะลวงออกมาเต็มด้วยฤทธิ์เดชและสิทธิอำนาจของเจ้าบ่าว คือองค์พระเยซูคริสต์จริงๆ!

ศัตรูกลัวพวกคุณจนแข็งกลายเป็นหินเลย พี่น้องที่รักยิ่ง จริงเลยค่ะ!  พวกคุณอาจจะมองดูตัวพวกคุณเองว่าไม่ได้เป็นคนสำคัญอะไร  แต่เชื่อดิฉันเถอะค่ะ พวกคุณเป็นผู้นั้นแหละที่นรกกลัวสุดขีด!  เมื่อพวกคุณยืนขึ้น นรกก็สั่นสะเทือน  เมื่อพวกคุณคุกเข่าลงอธิษฐาน มันก็เกิดการโกลาหล  และเมื่อพวกคุณพูดความจริงของพระเจ้าออกมาในสิทธิอำนาจของพระคริสต์ เหล่าภูติผีปีศาจต่างก็กรีดร้องและวิ่งกันอลหม่าน

ไม่มีวิสุทธิชนคนใดเป็น ตัวเล็ก ๆ ในแผ่นดินของพระเจ้า ที่นี่ไม่มีการเจิมแบบมือสอง  พวกเราแต่ละคนมีบทบาทสำคัญยิ่งในกองทัพของสวรรค์  พวกเราทุกคนจำเป็นต้องทำส่วนของพวกเราในการเข้าต่อสู้กับศัตรูและยึดพื้นที่ที่ที่องค์เจ้าชีวิตได้วางพวกเราเอาไว้แล้ว

พวกคุณมีความสำคัญยิ่งต่อแผ่นดินของพระเจ้า!  พระองค์ขาดพวกคุณไม่ได้!  พระเจ้าจำเป็นที่จะต้องให้พวกคุณใช้สิทธิอำนาจของสวรรค์ในการปกครองโลกนี้  ด้วยว่าฤทธิ์เดชของพระเจ้ามีช่องทางเข้ามาสู่แผ่นดินโลกนี้ได้ก็โดยผ่านตัวของพวกคุณ  และโดยการผ่านตัวของพวกคุณนั้น พระประสงค์ของพระองค์ก็จะถูกทำให้สำเร็จบนแผ่นดินโลกเหมือนกับที่ได้สำเร็จแล้วในสวรรค์ (มัทธิว 6.10)  ก็พวกคุณเองนั่นแหละ คือ ประตูที่สวรรค์ใช้เพื่อเข้ามาสัมผัสแตะต้องโลกนี้ได้!

พระคริสต์ได้ทำลายสิ่งที่ศัตรูได้ผูกมัดพวกเราเอาไว้แล้วโดยผ่านชัยชนะอย่างผู้พิชิตของพระองค์บนไม้กางเขนนั้น  พระองค์ได้ปลดเปลื้องอำนาจของศัตรูที่มันเคยมีเหนือพวกเรานั้นออกไปเสียแล้ว และได้ทรงมอบกุญแจทั้งหลายเพื่อที่จะเข้าไปสู่แผ่นดินสวรรค์นั้นให้กับพวกเราแล้ว  (โคโลสี 2.15 “พระ​เจ้า​ได้​ปราบปราม​พวก​ผู้​ครอบครอง​และ​พวก​ผู้​มี​สิทธิ​อำนาจ​ทั้งหลาย​จน​ต้อง​วาง​อาวุธ​ลง พระ​เจ้า​นำ​เขา​ไป​เป็น​เชลย​ใน​ขบวน​แห่​แห่ง​ชัย​ชนะ ทำ​ให้​พวก​นี้​อับ​อาย​ขาย​หน้า​ใน​ที่​สาธารณะ พระ​เจ้า​ทำ​อย่าง​นี้​ได้​เพราะ​ความ​ตาย​ของ​พระ​คริสต์”)  นี่แหละคือความจริงที่ว่า เราเป็นใคร  และพระองค์ได้ทรงกระทำอะไรบ้าง และ พวกเราจะทำอะไรต่อไป

นี่เป็นเวลาที่พวกเราจะยืนขึ้นในฐานะผู้ที่เราเป็นในพระคริสต์ และไม่ยอมให้ศัตรูทรมานพวกเราด้วยคำโกหกทั้งหมดของมันได้อีกต่อไปแล้ว  นี่คือเวลาที่อดีตนั้นต้องดำรงอยู่ในอดีต  และจะไม่อนุญาตให้ศัตรูมาคอยย้ำเตือนพวกคุณถึงอดีตเพื่อที่จะได้ขังพวกคุณไว้ในโซ่ตรวนนั้นได้อีกต่อไป  จงกระตุกโซ่ตรวนทั้งหลายแห่งการปรับโทษและความรู้สึกผิดออกเสียจากตัวของพวกคุณแล้วใช้มันรัดคอของศัตรูจนมันหายใจไม่ออกตายไปเสีย  พวกคุณนี่แหละ เป็น ความชอบธรรมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์  และพวกคุณนี่แหละที่จะทำกิจที่ยิ่งใหญ่ยิ่งนักอีกมากมาย

แสงที่ส่องเป็นลำยาวออกมาจากรอยแยกของบานประตูนั้นช่างส่องสว่างจ้ายิ่งนักจนผู้มองดูอาจตาบอดได้ และมันไม่ได้แค่เปิดแบบแง้ม ๆ เอาไว้เสียด้วย  แต่ขอตั้งใจฟังให้ดี บรรดาวิสุทธิชนทั้งหลาย  ประตูกำลังเปิดออกแล้ว  และพวกเราก็กำลังเริ่มต้นที่จะเห็นความจริงที่ว่า ก่อนหน้านี้ พวกเราไม่สามารถที่จะได้รับได้อย่างเต็มที่  แต่เวลานี้พวกเรามีสิทธิอำนาจในพระเยซูคริสต์ และสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำแล้วที่ไม้กางเขนนั้นก็เพื่อพวกเรา  ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อความรอดของพวกเราเท่านั้น แต่ได้ทรงประทานฤทธิ์เดชและสิทธิอำนาจให้กับพวกเราแล้วด้วย

พี่น้องที่รักยิ่ง ได้โปรดมองดูตัวของพวกคุณเองในฐานะเจ้าสาวผู้ครองราชย์ของพระองค์เถิด  พระคริสต์กำลังเปิดเผยสำแดงว่าแท้จริงพวกคุณเป็นใครในพระองค์มากยิ่งขึ้น  พวกคุณเองนั่นแหละที่พระองค์ได้เลือกสรรเอาไว้แล้วเพื่อที่จะครองราชย์เคียงข้างพระองค์ และเป็นประธาน มีอำนาจเหนือโลกนี้ด้วยความรักทั้งหมด และ ฤทธานุภาพทั้งสิ้นที่พระองค์มี  พวกคุณนี่แหละคือเจ้าสาวผู้ครองราชย์ของสวรรค์

เชิญมาร่วมกับดิฉันในเวลานี้ ในการวางเท้าของพวกคุณไว้ในรอยพระบาทของพระองค์ แล้วเดินไปในทั้งสิ้นที่พระองค์มีไว้ให้กับพวกคุณเถิด!

ได้โปรดอธิษฐานสิ่งนี้ร่วมกับดิฉันเถิด “ข้าแต่พระบิดาที่รัก  ลูกรับเอาของขวัญแห่งสิทธิอำนาจที่พระองค์ได้ซื้อเอาไว้แล้วเพื่อมอบให้กับลูก ซื้อเอาไว้ด้วยพระโลหิตอันประเสริฐของพระบุตรของพระองค์  ขอทรงสร้างลูกให้เป็นความสยองขวัญสำหรับนรก และเป็นความชื่นชมยินดีสำหรับสวรรค์  องค์เจ้าชีวิตเจ้าข้า  ลูกขอขอบพระคุณพระองค์ที่ลูกจะเดินไปในฤทธิ์เดชและสิทธิอำนาจของพระองค์”

ด้วยรักในพระคริสต์

Victoria  Boyson
Speaking Life Ministries
Email: victoria@boyson.org
ที่มา:http://www.elijahlist.com/words/display_word.html?ID=9966
เอ็ม สุรชัย แปล
13 มิถุนายน 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น