ชัยชนะเหนือศัตรูที่ใหญ่โตนั้น
คำเผยพระวจนะจาก บาร์บี้ บรี้ธถิด
ศัตรูและความตายไล่ตามบรรดาคนบาป แต่คนชอบธรรมได้รับความสุขและความเจริญมั่งคั่งรุ่งเรือง อารมณ์ของพวกเราจะผลิตการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในแง่บวก หรือ แง่ลบก็ได้ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่รายล้อมรอบพวกเราอยู่ ชีวิตนั้นเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่จะรักพระเจ้าและรับใช้ผู้อื่น
รูธเป็นตัวอย่างที่ดีของการรับใช้ที่ถ่อมใจและได้มีชัยชนะเหนือศัตรูที่ใหญ่โตได้ แม้ว่ารูธเองเป็นคนโมอับแต่กลับพูดถ้อยคำแห่งความหวังอย่างไม่หยุดหย่อน และเธอเองก็ได้รับฤทธิ์เดชแห่งพระคุณที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอ โบอาสผู้เป็นคนไถ่และญาติของรูธเองนั้นเป็นชายผู้มั่งคั่ง เขาได้ประกาศิตเหนือบรรดาคนเกี่ยวทั้งหลายในทุ่งนาของเขาว่า “ขอพระยาห์เวห์ทรงอยู่ด้วยกับพวกท่านเถิด” (นางรูธ 2:4) เมื่อโออาสได้เห็นรูธ เขาก็สอบถามว่า “หญิงสาวคนนี้เป็นคนของใคร?” (นางรูธ 2:5) เพราะว่ารูธได้ยืนอยู่ในทุ่งนานั้น พระเจ้ามองหาบรรดาผู้หญิงที่ยืนโดดเด่นอยู่ ปีเดือนที่ดีที่สุดมากมายของพวกเรานั้นอยู่เบื้องหน้าพวกเราแล้ว เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยกับพวกเรา การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายในแง่บวกจะนำความสำเร็จมา สิ่งที่ศัตรูทำนั้นก็จะยิ่งเป็นเหตุให้พวกเราได้รับกำลัง และจะกลับเป็นแรงส่งให้พวกเราเรียนรู้ที่จะมุ่งหน้าต่อไปในพระเจ้าให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
บรรดาประตูทั้งหลายแห่งโอกาส
นางรูธเกาะติดนาโอมีไว้แน่น และได้เอาชนะความเศร้าเสียใจและความทุกข์ร้อนอย่างหนัก โอรปาห์ แปลว่า “ผู้ว่องไวในการหนีไป” จูบลาโอกาสที่จะได้มีชีวิตอย่างพระเจ้า เพราะว่าเมื่อมีโอกาส โอรปาห์ก็เลือกเอาความสะดวกสบายที่คุ้นเคยแทน เธอวิ่งกลับไปสู่พระที่ตายแล้วของเธอ ทิ้งความรอดไปเสีย ความกลัวขัดขวางศักยภาพของพวกเราด้วยการเป็นเหตุให้พวกเราตกอยู่ในสถานการณ์ในแง่ลบของปัจจุบัน ในทางตรงกันข้าม นางรูธรวบรวมเอาความสามารถทั้งหมดที่พระเจ้าได้มอบให้กับเธอ และความรักที่เธอมีต่อนาโอมี เธอได้เดินผ่านประตูแห่งโอกาสเพื่อตั้งใจที่จะเอาชนะอุปสรรคไปให้ได้
ท่าทีในแง่บวกให้พละกำลังแก่พวกเราที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ด้วยการจัดการความคิดของพวกเราและการเคลื่อนไปในพระวิญญาณ พวกเราก็จะพบหนทางต่าง ๆ ที่จะเนรมิตสร้างคำตอบสำหรับปัญหาต่าง ๆ ได้ พระเจ้ามีแผนการที่จะทำให้พวกเราเจริญมั่งคั่งรุ่งเรือง (เยเรมีย์ 29:11) ดังนั้น จงขยันขันแข็งในการเสาะหาหัวใจของพระเจ้าในทุก ๆ เรื่อง จงทำงานหนักและแก้ปัญหาเมื่อมันเกิดขึ้น การตั้งพระประสงค์ของพระเจ้าเอาไว้ก่อนสิ่งอื่นใดในชีวิตของพวกเราก็จะทำให้พวกเรามั่นใจได้ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นเป็นแน่ (มัทธิว 6:33) และการดำรงอยู่ในพระพักตร์ของพระองค์นั้น ก็จะพัฒนาความสัมพันธ์สนิทอย่างลึกซึ้งกับพระองค์ ซึ่งจะทำให้พวกเรานั้นสามารถที่จะแบกเอาบรรยากาศของพระองค์เข้ามาสู่โลกนี้ พระพักตร์ของพระองค์กระทำให้หนทางของพวกเรานั้นตรงแน่วไป
นางรูธตัดสินใจแล้วที่จะเสาะหาความโปรดปรานเพื่อที่จะเจริญมั่งคั่งรุ่งเรือง แล้วเธอก็ทำได้สำเร็จ แล้วพวกเราจะเจริญมั่งคั่งรุ่งเรืองได้อย่างไร? ในเมื่อการปรับโทษ ความกลัว หรือ ความคิดเห็นในแง่ลบเข้ามาสู่จิตใจของพวกเรา เหวี่ยงเราให้ล้มลง จงหลีกเลี่ยงจากคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ทำให้ผู้พูดสนุกสนาน และการตีค่าสิ่งต่าง ๆ เพราะความอิจฉา จงปฏิเสธที่จะฟังคำโกหกที่กล่าวโทษที่มาจากศัตรู เพราะว่า “เหตุฉะนั้นจึงไม่มีการลงโทษ บรรดาผู้ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์” (โรม 8.1) มีแต่ความรัก ความหวัง และพระคุณเท่านั้น
ความคิดเนรมิตภาพในแง่บวกต่าง ๆ ในจิตใจซึ่งก่อสร้างโลกที่พวกเราอาศัยอยู่นี้ ถ้อยคำนั้นก็เป็นดั่งอิฐก่อที่มาจากความคิดของพวกเรา ถ้อยคำของพวกเรานั้นถ้าไม่ดึงผู้คนเข้ามาถึงพวกเรา มันก็จะผลักไสพวกเขาออกไปให้ไกล ถ้อยคำนั้นสร้างเราให้เป็นบุคคลอย่างที่พวกเราเป็นทุกวันนี้และบุคคลผู้ที่พวกเรากำลังจะเป็นในวันพรุ่งนี้ด้วย แต่รูธตอบว่า “ขอแม่อย่าวิงวอนให้ลูกจากแม่หรือเลิกตามแม่กลับไปเลย เพราะแม่จะไปไหนลูกจะไปด้วย และแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนลูกก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ชนชาติของแม่จะเป็นชนชาติของลูก และพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของลูก” (นางรูธ 1:16-17) จงตัดสินใจและจงตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะทำให้การทรงเรียกและลิขิตชีวิตของพวกคุณนั้นสำเร็จจงได้
พวกคุณเป็นใครในชั่วโมงที่มืดมิดของพวกคุณ?
จงอาบน้ำ ทาน้ำมันหอม สวมเครื่องแต่งกายแล้วลงไปที่ลานนวดข้าว แต่อย่าให้ท่านรู้ว่าเจ้าอยู่ที่นั่นจนกว่าท่านจะรับประทานและดื่มเสร็จแล้ว ท่านนอนที่ไหนจงสังเกตไว้ให้ดี แล้วจงไปเปิดผ้าคลุมเท้าขึ้นและจงนอนที่นั่น ต่อไปท่านจะบอกเจ้าเองว่าเจ้าต้องทำอะไร” นางตอบว่า “ลูกจะทำตามที่แม่บอกทุกอย่าง” พอถึงเที่ยงคืน โบอาสก็ตกใจตื่นพลิกตัว ดูสิ มีผู้หญิงนอนอยู่ที่เท้าของท่าน ท่านจึงถามว่า “เจ้าเป็นใคร?” นางตอบว่า “ดิฉันคือรูธคนใช้ของท่านค่ะ ขอให้ท่านกางชายเสื้อคลุมของท่านห่มสาวใช้ของท่านด้วย เพราะท่านเป็นญาติสนิท” (นางรูธ 3:3-4, 8-9)
นางรูธเข้ามาในฉากเป็นดั่งทาสผู้ถ่อมตัวลง เธอมิได้เสาะหาหน้าของโบอาส แต่พักพิงอยู่แทบเท้าของเขาแทน ในวิธีการเดียวกัน พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองแก่พวกเราในชั่วโมงที่มืดมิดที่สุดของพวกเรา ในขณะที่พวกเราเสาะหาพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ พระองค์ก็จะบอกพวกเราอีกครั้งหนึ่งว่าพวกเราจะต้องทำอะไรบ้าง “ทาส” หมายถึง คนที่ถูกทำให้เป็นผู้อยู่ภายใต้อีกคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้นมัสการ เอกอัครราชทูต รัฐมนตรี หรือ ผู้นำสาส์นอย่างเป็นทางการ “ลานนวดข้าว” นั้นเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งการแตกสลายของสิ่งที่ว่างเปล่า คนที่แตกสลายจะฟังเสียงของพระเจ้าและจำทำทุกสิ่งที่พระองค์บัญชา
ดวงตาของพระเจ้ากำลังเสาะหา
ดวงตาของพระเจ้ากำลังเสาะหาบรรดาผู้ที่มีหัวใจทาส เพื่อที่จะให้กำลังและเลื่อนขั้น 2 พงศาวดาร 16:9 “เพราะว่าพระเนตรของพระยาห์เวห์สอดส่อง (ไปมา) อยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งหมด เพื่อให้กำลังกับ คนเหล่านั้นที่จริงใจต่อพระองค์” พวกเราไม่สามารถทำสิ่งได้เลยด้วยเนื้อหนังและกำลังหรือความสามารถทั้งหลายของพวกเราเอง ด้วยว่าความสำเร็จของพวกเรานั้นมาได้โดยพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และความโปรดปรานฉายส่องเหนือพวกเรา
“เหล่าบรรพบุรุษพิชิตดินแดนได้ มิใช่ด้วยดาบ มิใช่ด้วยกำลังของตนจึงมีชัย แต่โดยพระหัตถ์ขวาโดยพระกรของพระองค์ โดยความสว่างแห่งพระพักตร์พระองค์ เพราะทรงรักท่านเหล่านั้น” สดุดี 44:3
รูธเป็นภาพอันทรงพลังของคริสตจักรทุกวันนี้ นางรูธรู้ว่าตนเป็นเพียงหญิงม่ายผู้ห่างไกลจากพระเจ้าและอาศัยอยู่ในประเทศที่เต็มไปด้วยความบาปและไม่นับถือพระเจ้าที่เรียกว่า โมอับ ไม่มีผู้ใดสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือเธอ เธอไร้ซึ่งความหวังที่จะมีอนาคตที่เจริญรุ่งเรือง แต่พระเจ้าได้เชื้อเชิญเธอให้ทิ้งทุกสิ่งซึ่งเธอคุ้นเคยไว้ข้างหลัง นาโอมี แปลว่า “ความพึงพอใจ ผู้เป็นที่รักยิ่ง” แม่สามีของเธอ เป็นภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์ นาโอมีได้ยินว่าการกันดารอาหารนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว องค์เจ้าชีวิตได้เยี่ยมเยียนประชากรของพระองค์อีกครั้งด้วยการให้พวกเขามีขนมปังในเบ็ธเลเฮ็ม ซึ่งแปลว่า “บ้านขนมปัง” ดังนั้น นาโอมีจึงออกจากดินแดนโมอับ ซึ่งหมายถึง “บาปที่เกิดจากการร่วมเพศกับบิดา” เพื่อกลับไปสู่ดินแดนยูดาห์ ที่แปลว่า “สถานที่แห่งการสรรเสริญ” ซึ่งที่นี่เอง โอเบดได้ถือกำเนิดขึ้น ชื่อของเขาหมายถึง “หัวใจทาส”
พระเจ้าทรงซ่อนพระองค์ในความมืดมิด
รูธ แปลว่า “ผู้เป็นมิตร อบอุ่น ต้อนรับ” ยอมรับคำเชิญของพระเจ้า และได้เกาะติดพระองค์ไว้แน่น พระเจ้าได้กลายมาเป็นความปรารถนาที่เธอขาดไม่ได้ พระองค์กลายมาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ นางรูธได้ไว้วางใจพระเจ้าแม้ว่ามันดูจะเป็นไปไม่ได้ เธอได้พัฒนาความสัมพันธ์อันสนิทสนมกับพระองค์ และได้วางความหวังของเธอเอาไว้ในพระเจ้าในชั่วโมงที่มืดมิดที่สุดของเธอ แต่รูธตอบว่า “ขอแม่อย่าวิงวอนให้ลูกจากแม่หรือเลิกตามแม่กลับไปเลย เพราะแม่จะไปไหนลูกจะไปด้วย และแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนลูกก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ชนชาติของแม่จะเป็นชนชาติของลูก และพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของลูก” (นางรูธ 1:16)
ถ้อยคำจากริมฝีปากของนางรูธได้เนรมิตสร้างชีวิตที่มีชัยชนะและใหม่เอี่ยมให้กับเธอ ความอุทิศทุ่มเทอันกล้าหาญของเธอและความเต็มใจแบบสมัครใจของเธอที่จะเดินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ไปนั้นได้ยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนค่ำคืนที่มืดมิดในวิญญาณจิตของเธอนั้นกลับกลายเป็นวันใหม่อันสดใสที่รุ่งอรุณได้ขึ้นมาแล้วที่ปลายขอบฟ้าแห่งอนาคตของเธอ
ถ้อยคำของรูธได้เปลี่ยนชีวิตของเธอ เมื่อนางรูธและนาโอมีได้มาถึงเบ็ธเลเฮ็ม ทั้งเมืองก็ปั่นป่วน เมื่อพระเยซูผู้เป็นอาหาร (ขนมปัง) แห่งชีวิต แตกสลาย (ถูกหัก) และแจกจ่ายออกไป พระพักตร์ของพระองค์ก็จะเขย่าสถานที่นั้น ๆ และฤทธิ์เดชของพระองค์จะมีเสียงอื้ออึงไปทั่ว การเปิดเผยสำแดงองค์ผู้เป็นพระวาทะแห่งชีวิตจะนำการกันดารอาหารแห่งการไม่ได้ยินพระวจนะขององค์เจ้าชีวิตมาสู่จุดจบ นั่นคือหูทุกหูจะถูกทำให้เปิดออกกว้าง
ความมืดมิดในโลกนี้เรียกพวกเราให้เข้าไปสู่ลานนวดข้าว พระเจ้าทรงซ่อนพระองค์ในความมืดมิด เมื่อพวกเราออกจากลานนวดข้าว พระคำของพระเจ้าก็จะปลดปล่อยแสงสว่างยิ่งใหญ่ภายในพวกเรา ทุกคนจะได้เห็นพระสิริขององค์เจ้าชีวิตปกคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดินโลก พระกิตติคุณแห่งแผ่นดินของพระเจ้าจะถูกประกาศออกไปด้วยความกล้าหาญ ด้วยหมายสำคัญ ด้วยการอัศจรรย์ และสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ก็จะมีให้เห็น จะไม่มีที่ใดที่จะว่างพอที่จะรองรับกลุ่มคนจำนวนมากมายมหาศาลที่จะแห่แหนกันเข้ามา จนพวกเขาก็จะเริ่มที่จะรื้อหลังคาออกเพื่อที่จะเข้ามาสู่พระพักตร์อันทรงพระสิริของพระเจ้าได้
รูธไม่ได้ตัดสินใจที่จะติดตามพระวิญญาณบริสุทธิ์เพราะสิ่งที่เธอมองเห็น แต่จากสิ่งที่เธอรู้สึกในหัวใจของเธอโดยผ่านความเชื่อ ความเชื่อในพระเจ้าของนางรูธนั้นได้นำเธอออกมาจากสถานภาพอันน่าสงสารเนื่องจากความขัดสนยากจนเข้าไปสู่ความมั่งคั่งและการไหล่บ่าของพระพร หัวใจทาสที่ถ่อมของเธอนั้นได้ทำให้เธอสามารถได้รับมรดกแห่งการไถ่ทั้งสิ้นที่โบอาสได้มอบให้กับเธอ การเลือกต่าง ๆ ของพวกเราในชีวิตนี้จะตัดสินชีวิตที่พวกเราจะอยู่ต่อไป
ทางเดียวที่จะขึ้นได้ก็คือลงเสียก่อน!
วิธีและหนทางต่าง ๆ ของพระเจ้านั้น สูงกว่าวิธีและหนทางของมนุษย์ยิ่งนัก หนทางแห่งการเพิ่มพูนและมีเหลือเฟือนั้นจะสามารถค้นพบได้ก็ด้วยการเดินไปบนหนทางแคบแห่งความถ่อมใจเสียก่อน พวกเรามักจะลืมไปว่า ทางเดียวที่จะขึ้นได้ก็คือลงเสียก่อน พวกเราถูกเรียกมาเพื่อที่จะคงอยู่ในสถานะที่พึ่งพิงพระเจ้าทั้งหมดทั้งสิ้น พวกเราทำสิ่งนี้ได้โดยการน้อมตัวลงอยู่ภายใต้พระหัตถ์แห่งการปกป้องของพระเจ้า พระองค์เพียงผู้เดียวที่รู้เวลาแห่งการยกพวกเราขึ้น
จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ และคนทั้งหลายที่เข้าไปทางนั้นมีมาก เพราะประตูที่แคบและทางที่ลำบากนั้นนำไปสู่ชีวิต และพวกที่หาพบก็มีน้อย มัทธิว 7:13-14
เมื่อนาโอมีเดินทางกลับไปยังเบ็ธเลเฮ็ม เธอได้บอกเพื่อน ๆ ของเธอให้เรียกเธอด้วยชื่อ “มารา” ซึ่งแปลว่า “ขมขื่น” เพราะว่าเธอรู้สึกว่าองค์เจ้าชีวิตได้ปฏิบัติต่อเธอด้วยความโหดร้าย นางรูธ 1:21 “นาโอมีตอบเขาว่า “ขออย่าเรียกฉันว่านาโอมี1 เลย ขอเรียกฉันว่า มารา เถอะ เพราะว่าองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ได้ทรงทำให้ชีวิตฉันขมขื่นยิ่งนัก เมื่อฉันจากเมืองนี้ไป ฉันมีทุกอย่างครบบริบูรณ์ พระยาห์เวห์ทรงพาฉันกลับมาตัวเปล่า จะเรียกฉันว่านาโอมีทำไมเล่า? ในเมื่อพระยาห์เวห์ทรงให้ฉันทุกข์ใจ และองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงให้ฉันต้องประสบเหตุร้ายเช่นนี้” เมื่อพวกเราทำตัวของพวกเราให้ว่างเปล่า (ไม่เหลืออะไร) นั่นก็เป็นการอนุญาตให้พระเจ้าเติมพวกเราให้เต็มด้วยพระสิริของพระองค์ได้ พวกเราถูกเรียกมาเพื่อที่จะถ่อมตัวของพวกเราลงภายใต้พระหัตถ์ของพระเจ้า แต่ก็มีบางครั้ง ที่พระเจ้าอนุญาตให้คนอื่นปฏิเสธพวกเรา หรือ ทำให้พวกเราต้องอับอายอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าสาธารณชน การตอบสนองในความรักต่อการปฏิเสธของพวกเขานั้นก็จะนำการเลื่อนขั้นให้ทลุทะลวงออกมา การเดินทางของนาโอมีและนางรูธได้นำพวกเขาจากหนทางกว้างแห่งความตายในดินแดนโมอับไปสู่ประตูคับแคบ คือ ช่องคลอดแห่งชีวิต ในเบ็ธเลเฮ็ม
รูธได้มาถึงในช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวข้าวบาร์เล่ย์ พวกปุโรหิตได้ถวายข้าวบาร์เล่ย์เป็นธัญบูชาแห่งความแคลงใจเมื่อสามีหรือภรรยาสงสัยว่าคู่ครองของตนจะคบชู้ (กันดารวิถี 5.11-31) รูธได้เสี่ยงที่จะสูญเสียชื่อเสียงของเธอด้วยการนอนลงที่เท้าของชายผู้มิได้เป็นสามีของเธอ ด้วยความหวังว่าเขาจะปกคลุมเธอด้วยพระคุณและแต่งงานกับเธอ ใน นางรูธ 3:14 โบอาสแนะนำรูธว่า “อย่าให้ใครรู้ว่า มีผู้หญิงมาที่ลานนวดข้าวนี้เลย ทั้งชายและหญิงมากมายก็กำลังผ่านมาที่ลานนวดข้าวเพื่อที่จะยิ่งมีผลผลิตมากขึ้น เมื่อพวกเราตกหลุมรักกับองค์พระผู้ไถ่อย่างขาดพระองค์ไม่ได้เลย พวกเราก็จะต้องเต็มใจที่จะเสี่ยงการต้องสูญเสียชื่อเสียงของพวกเราเพื่อที่พวกเราจะเข้ามาอยู่ภายใต้ผ้าคลุมแห่งพระสิริของพระองค์ได้
โบอาสได้ขอให้รูธเอาผ้าคลุมของเธอมาให้เขา แล้วเขาก็เทข้าวบาร์เล่ย์หกทะนานใส่ลงไปในผ้าคลุมหน้านั้น นี่เป็นปริมาณถึงสองเท่าของข้าวบาร์เล่ย์ที่เธอเก็บจากที่หล่นตามขอบนาได้ด้วยตัวของเธอเอง รูธได้ก้าวจากสถานที่แห่งความอ่อนแอ เก็บข้าวที่ตกหล่นอยู่ตามขอบนา มาสู่การพักผ่อนที่เท้าแห่งกำลังและการจัดเตรียมไว้ให้ของโบอาส รูธได้ยอมเสี่ยงทั้งหมดทั้งสิ้นที่เธอมีด้วยการนอนลงบนพื้นของลานนวดข้าวที่ทั้งแข็งกระด้างและเย็นจัด รูธได้รับการไถ่และซื้อคืนเมื่อเธอได้ให้ทั้งหมดทั้งสิ้นที่เธอมี
ชื่อของโบอาส หมายถึง “กำลังที่มั่นคง รวดเร็ว และแข็งแกร่ง” เขาได้ให้รูธได้มีที่พักที่ปลอดภัย มีสิ่งต่าง ๆ ที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ และมีการปกป้องพิทักษ์รักษา อีกทั้งการที่เขาได้เลือกเธอออกจากบรรดาหญิงสาวทั้งหมดนั้น "แต่โบอาสตอบนางว่า “ทุกอย่างที่เจ้าได้ปฏิบัติต่อแม่สามีของเจ้า ตั้งแต่สามีของเจ้าสิ้นชีวิตแล้วนั้น มีคนมาเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว เจ้ายอมจากบิดามารดาและบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้า มาอยู่กับชนชาติที่เจ้าไม่รู้จักมาก่อน ขอพระยาห์เวห์ทรงตอบแทนการกระทำของเจ้า และขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล ซึ่งเจ้าเข้ามาพึ่งพระบารมีของพระองค์นั้น ประทานบำเหน็จบริบูรณ์แก่เจ้า" (นางรูธ 2:11-12)
สถานที่พักอันเงียบสงบของรูธและความไว้วางใจในองค์เจ้าชีวิตของเธอผู้เป็นดั่งแหล่งแห่งชีวิตของเธอนั้นได้นำเธอเข้าไปสู่การเล้าโลมและความอบอุ่นจากเตียงแห่งการสมรสที่ทั้งมั่นคงและปกป้องของโบอาส จากทาสีผู้ต่ำต้อยกลายมาเป็นนายหญิงที่เต็มไปด้วยสง่าราศีเจ้าของที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาล โบอาส ชายผู้เป็นเจ้าของนา ได้รับรูธมาเป็นภรรยาของเขาและได้สนับสนุนเธอผดุงชีวิตเธออย่างมากมายล้นเหลือยิ่งนัก องค์เจ้าชีวิตได้ให้ลูกชายคนหนึ่งแก่เธอ ชื่อ โอเบด ซึ่งชื่อของเขามีความหมายว่า “ผู้ที่มีหัวใจทาส” เมื่อพวกเรา ผู้เป็นดั่งเจ้าสาวของพระคริสต์ ได้คลอดหัวใจทาส พระเจ้าจะไว้วางใจพวกเราด้วยส่วนแบ่งสองเท่าแห่งการเพิ่มพูนยิ่งขึ้น
เจ้าสาวก็เตรียมตัวของเธอไว้พร้อมแล้ว
นี่เป็นเวลาแห่งการชำระ และการสวมผ้าคลุมอีกครั้ง ในการเจิมอันสดใหม่แห่งพระสิริของพระองค์ รูธได้ไปยังลานนวดข้าว สถานที่แห่งการเผชิญหน้าและการแตกเพื่อแยกเอาเปลือกที่แข็งกระด้างนั้นออกไปเสีย หลังจากลมแห่งพระวิญญาณพัดแกลบไปหมดแล้ว ข้าวสารที่บริสุทธิ์ก็จะคงเหลืออยู่ เมื่อพวกเราหว่านลงไปด้วยข้าวสารบริสุทธิ์ พวกเราก็จะมีการเก็บเกี่ยวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด จงขอการมีความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์เถิด
“ข้าพเจ้าให้ท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริง แต่พระองค์ผู้จะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ พระองค์ทรงถือพลั่วอยู่ในพระหัตถ์แล้ว และจะทรงชำระลานข้าวของพระองค์ให้ทั่ว พระองค์จะทรงรวบรวมเมล็ดข้าวของพระองค์ไว้ในยุ้งฉาง แต่พระองค์จะทรงเผาแกลบด้วยไฟที่ไม่มีวันดับ” มัทธิว 3:11-12
มันเป็นเวลาแห่งการนวดข้าว จงขอการดำเนินการได้แล้ว และ การเผชิญหน้าใหม่ จงขอการปกคลุมความเปลือยเปล่า (เพราะไม่มีอะไรเหลือแล้ว) นี้ และขอประทานดวงตาที่จะมองเห็นพระพักตร์อันทรงพระสิริของพระองค์ อีกทั้งหูที่จะได้ยินพระสุรเสียงอันไพเราะของพระองค์ พวกเราก็จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในระดับใหม่ เมื่อพวกเราล้างชำระตัวในพระวจนะแห่งชีวิต เจ้าสาวก็เตรียมตัวของเธอไว้พร้อมแล้ว ศัตรูที่ใหญ่โตนั้น อีกทั้งความยากลำบากทั้งหลาย และความมืดมิดแห่งคำคืนนั้นควรจะดึงพวกเราให้เข้าไปใกล้พระเจ้ามายิ่งขึ้นไปอีก
รูธได้ติดตามนาโอมีไปทุกหนทุกแห่งที่เธอไป และได้รับการทรงจัดเตรียมอย่างเหลือล้นของพระเจ้า นางรูธได้ติดตามสติปัญญาของพระเจ้าเพื่อที่เธอจะกลายมาเป็นผู้ที่เกิดผลและเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ นางรูธพบความโปรดปรานและพระคุณในสายพระเนตรขององค์เจ้าชีวิตผู้เป็นเจ้าของนา ถ้อยคำที่เธอได้ประกาศิตเอาไว้ได้สถาปนาหนทางแห่งความเจริญรุ่งเรืองสำหรับเธอเพื่อที่จะได้ดำเนินไป เธอได้เลือกที่จะลุกขึ้นเหนือความเจ็บปวดของเธอในอดีต และลุกขึ้นเหนือสถานการณ์รายล้อมที่ทำลายร้างนั้นเพื่อที่จะกลายเป็นผู้ที่เกิดผลได้ โบอาสได้ปกคลุมรูธเอาไว้ เขาได้ปกป้อง ได้รัก และได้ดูแลเธอ เหมือนดังที่องค์เจ้าชีวิตจะปกคลุมพวกเราเอาไว้ภายใต้ร่มปีกแห่งรักอันอบอุ่นและคุ้มครองของพระองค์ "ขอทรงรักษาข้าพระองค์ดังแก้วตา ขอทรงซ่อนข้าพระองค์ไว้ใต้ร่มปีกของพระองค์ " (สดุดี 17:8)
Barbie L. Breathitt
Breath of the Spirit Ministries, Inc.
Email: Barbie@BreathOfTheSpiritMinistries.com
ที่มา : http://www.elijahlist.com/words/display_word.html?ID=9845
เอ็ม สุรชัย แปล
16 มิถุนายน 2011
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
คริสเตียนกับงานรับใช้เป็นอะไรที่คู่กัน เมื่อเป็นคริสเตียนเราต้องรับใช้ เราเองก็ต้องมีเป้าหมายในการรับใช้ตามของประทานทางใดทางหนึ่ง หลายคนไม...
-
YAHWEH Rapha ยาห์เวห์ ราฟา (เราเป็นพระเจ้าแพทย์ของเจ้า) สวัสดีครับพี่น้องที่รักในพระคริสต์ วันนี้เมื่อได้เข้าสู่เดือน Iyar หรือ อิยาห์...
-
ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย มัทธิว อย่าต่อสู้คนชั่ว มธ. 5:39 ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น