กล้าหาญในพระคริสต์
เราให้คำจำกัดความของคำว่า กล้าหาญ ว่าอย่างไร คือการเหมือนนักเลงไม่กลัวใคร หรือปากดีว่าใครต่อใคร หรือตัดสินใครต่อใครโดยไม่เกรงกลัวอะไรหรือไม่ หลายครั้งที่คนเราให้ความหมายคำจำกัดความของคำว่ากล้าหาญผิดเพี้ยนไป
ความกล้าหาญไม่ใช่ความอวดดีเพื่อตัวเอง ไม่ได้หมายถึง ช่วงภาวะที่ปราศจากความกลัว แต่ความกล้าหาญคือการยินดีที่จะทำและเดินหน้าต่อไปทั้งๆที่รู้สึกกลัวในผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
แม้ในสิ่งนั้นจะต้องเสียสละแม้เลือดเนื้อ ชีวิต
2 ทิโมธี [1:7] เพราะว่าพระเจ้ามิได้ทรงประทานจิตที่ขลาดกลัวให้เรา แต่ได้ทรงประทานจิตที่กอปรด้วยฤทธิ์ความรัก และการบังคับตนเองให้แก่เรา
ในสำนวน NIV กล่าวว่า แต่ทรงประทานใจอันเปี่ยมด้วยความเข้มแข็ง
ในตอนนี้เปาโลกล่าวถึงคุณสมบัติของผู้นำที่เกิดผลสามประการ คือ
- ต้องมีฤทธิ์อำนาจ
- ความรัก
- และวินัยในตนเอง
สิ่งเหล่านี้เราสามารถมีได้เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในเรา เราจึงต้องกล้าหาญและกล้าที่จะฟังเชื่อฟังพระองค์และเดินตามการทรงนำของพระองค์ในทุกๆวัน เพื่อที่ชีวิตของเราจะสำแดงคุณลักษณะเหล่านี้ได้เต็มที่มากขึ้น เราต้องมีผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิต
กาลาเทีย [5:22] ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ
กาลาเทีย [5:23] ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย
เมื่อเปาโลเขียนจดหมายถึงทิโมธี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรับใช้ของท่าน เปาโลได้แนะนำทิโมธีให้กล้ายืนหยัดอยู่ฝ่ายพระคริสต์อย่างเปิดเผย แม้ว่าความกล้านั้นจะทำให้ตัวท่านต้องติดคุกและเจอกับความยากลำบากก็ตาม จงยืนหยัดอยู่ฝ่ายพระคริสต์
เมื่อเราเชื่อพระเจ้าและตัดสินใจเชิญพระองค์มาสถิตในเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วนั้น พระองค์ก็มีพระประสงค์ให้ผู้เชื่อทุกคนสำแดงชีวิตเช่นพระองค์ และเมื่อเราต้องทนทุกข์ในบางสิ่งเพื่อพระองค์อย่างเปิดเผยนั้น เราเองต้องอาศัยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในเรา
หลายครั้งที่เดียวที่เราเองไม่ได้ยืนหยัดเพื่อพระคริสต์เพราะความกลัว ความกลัวอาจจะไม่ใช่อุปสรรคที่สำคัญที่สุดเท่ากับการขาดความกล้าหาญที่จะเดินหน้าต่อไปทั้งที่ยังกลัวอยู่
วันนี้เรายืนหยัดเพื่อพระเจ้ามากแค่ไหน ชีวิตในโลกนี้สำคัญมากไปกว่าพระคริสต์หรือไม่เมื่อเราจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลกเราต้องไม่เป็นเหมือนโลกนี้ และนั่นเราต้องมีความกล้าหาญ
ในพระวจนะมีหลายครั้งที่พระเจ้าตรัสว่า จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อยู่หลายครั้ง
เฉลยธรรมบัญญัติ [31:6] จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิดอย่ากลัวหรืออย่าครั่นคร้ามเขาเลย เพราะว่าผู้ที่ไปกับท่านคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย"
เราเองไม่ได้ไปคนเดียว ฉะนั้นเราต้องมั่นใจว่าพระเจ้าจะนำเราไปด้วย พระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ปล่อยเราเองต้องล้มเหลว แต่มันอยู่ที่เราจะกล้าหาญมากเพียงไร คำว่าอย่ากลัวเลยที่พระเจ้าตรัส ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะเอาความกลัวทั้งหมดออกไปจากชีวิตได้ แต่อยู่ที่เราต้องกล้าหาญและกระโดดออกมาอยู่เหนือความกลัวนั้น
เฉลยธรรมบัญญัติ [31:7] แล้วโมเสสเรียกโยชูวาเข้ามาและกล่าวแก่ท่านต่อหน้าคนอิสราเอลว่า "จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิดเพราะท่านจะต้องไปกับชนชาตินี้เข้าไป ในแผ่นดินซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เขา ท่านจงให้เขาได้เข้ายึดครองแผ่นดินนั้น
อุปสรรคข้างหน้าจะเป็นตัวหยุดเราเพื่อไม่ไห้เราก้าวเข้าไปสู่สิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมในชีวิตและสิ่งที่ดีมากมายที่รอคอยเราอยู่ หลายครั้งมักมีกำแพงแห่งความกลัวซึ่งทำให้เราไม่อยากจะก้าวเดินต่อไป แต่วันนี้พระเจ้าบอกคุณว่า จงเดินหน้าต่อไปและเข้าไปยึดครองแผ่นดินนั้น เพราะนั้นคือพระสัญญาของพระองค์ สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือ จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
เฉลยธรรมบัญญัติ [31:23] พระองค์ตรัสสั่งโยชูวาบุตรนูนว่า "จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิดเพราะเจ้าจะนำคนอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเรา ปฏิญาณว่า จะให้แก่เขาเราจะอยู่กับเจ้า"
ความกล้าหาญจะเป็นบททดสอบสำคัญของคุณ ปัญหาที่ใหญ่ไม่ได้มีให้กลัว แต่มีให้ลุย ลุยโดยมีพระเจ้าเป็นผู้นำ ลุยโดยฟังเสียงพระเจ้า คุณจะเข้มแข็งและกล้าหาญได้ คุณเองต้องรู้จักพระเจ้าที่อยู่ในคุณ เพราะพระเจ้าจะทำสิ่งที่ยากและเป็นไปไม่ได้ในชีวิตของเรา เหมือนที่พระองค์กระทำแก่อิสราเอล คุณเชื่อแบบนั้นไหม จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
โยชูวา [1:6] จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะเจ้าจะกระทำให้ชนชาตินี้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก ซึ่งเราปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของเขาทั้งหลายว่าจะยกให้เขา
โยชูวา [1:9] เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า"
ชัยชนะที่แท้จริงไม่ใช่ความกล้าหาญจอมปลอมโดยการใช้อำนาจ ความมีอิทธิพล การข่มเหง การอวดดีหรือความโลภ แต่วิธีการของพระเจ้านั้นคือ จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด และจงเชื่อฟังบัญญัติของพระองค์ ฟังเสียงพระองค์และกล้าหาญที่จะเชื่อฟัง และรักพระวจนะของพระเจ้าเพราะนี่คือยุทธวิธีที่จะนำเราสู่ชัยชนะเปรียบเสมือพระคัมภีร์วิทยายุทธ์ที่จะฝึกฝนเรา
โยชูวา [10:25] และโยชูวากล่าวแก่เขาว่า "อย่ากลัวหรือขยาดเลย จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะว่าพระเจ้าจะทรงกระทำแก่บรรดาศัตรูของท่านซึ่งท่านสู้รบอย่างนี้แหละ"
อิสเราเอลรบชนะได้เพราะพระเจ้าประทานชัยชนะให้เขา เมื่อเขาเชื่อฟังและกล้าหาญที่จะทำตามสิ่งที่พระเจ้าสั่ง ไม่ว่าจะปัจจุบันหรือในอนาคตพระเจ้าก็ยังเป็นเช่นเดิม เราจะมีชัยชนะได้เมื่อเรากล้าหาญ จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
1 พงศาวดาร [22:13] แล้วเจ้าจะทำสำเร็จ ถ้าเจ้าจะระมัดระวังที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎหมาย ซึ่งพระเจ้าทรงบัญชากับโมเสสเกี่ยวกับอิสราเอล จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวและอย่าท้อถอยเลย
บางครั้งการทำตามสิ่งที่พระเจ้าตรัสหรือกฎเกณฑ์ของพระเจ้าก็อาจจะขัดความคิดของโลกนี้หรือความน่าจะเป็นเพราะสติปัญญาของพระเจ้าลึกล้ำซับซ้อนมากกว่าสติปัญญาใดๆ เราจึงต้องอ่านพระวจนะและรู้ถึงพระทัยของพระเจ้า นี่คือเคล็ดลับสู่ชัยชนะและความสำเร็จ จงกล้าหาญที่จะยืนหยัดเชื่อฟังในสิ่งที่ลึกล้ำในกฎเกณฑ์ของพระเจ้า จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
2 พงศาวดาร [32:7] "จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรือท้อถอยต่อพระราชาอัสซีเรีย และต่อกองทัพทั้งสิ้นที่อยู่กับเขานั้น เพราะมีผู้หนึ่งฝ่ายเราที่ใหญ่กว่าฝ่ายเขา
จงมีจุดยืนในพระเจ้าเท่านั้น กล้าที่จะอยู่ฝ่ายพระองค์ จงมั่นใจในจุดยืนนี้เราจะมีชัยชนะโดยพระองค์ จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
บทเพลงนมัสการได้กล่าวว่า ให้ผู้อ่อนแอกล่าวว่าเข้มแข็ง นี่คือความเข้มแข็งในองค์พระเยซูคริสต์ ไม่ใช่เข้มแข็งด้วยตัวเอง
2 โครินธ์ [12:10] เหตุฉะนั้นเพราะเห็นแก่พระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า ในการประทุษร้ายต่างๆในความยากลำบาก ในการถูกข่มเหง ในความอับจน เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะแข็งแรงมากเมื่อนั้น
หลายครั้งที่เรามีการศึกษาที่ดี มีความสามารถ มีอำนาจ และทรัพย์ยากรมากมาย เราอาจจะถูกทดลองให้เดินไปด้วยตัวเอง ความคิดตัวเอง สติปัญญาของตัวเอง และนำไปสู่การเย่อหยิ่ง
แต่ความกลัวและความอ่อนแอ เมื่อเรายอมรับมันและยอมให้พระเจ้าช่วยเราให้เต็มด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์แล้ว เราจะพบการอัศจรรย์ว่าเราจะเข็มแข็งขึ้นและทำได้ดีกว่าการพึ่งพากำลังของตัวเองเสียอีก เมื่อใดที่เจออุปสรรคและมีความกลัว อย่าหันกลับแต่จงพึ่งพาพระเจ้าด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์จะนำเราฝ่าฟันปัญหาต่างๆเหล่านั้นลงได้
จงเข้มแข็งและกล้าหาญ ไม่ใช่การไม่มีความกลัวแต่เป็นการกระโดดออกมายืนอยู่บนความกลัว และให้ความกลัวอยู่ใต้เท้าของเรา รับเอาฤทธิ์อำนาจจากพระเจ้าและก้าวเดินต่อไป
ขอบคุณพระเจ้า
Ktm.worship
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น