วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความยุติธรรมที่แท้จริง


เคยคิดไหมครับว่า เมื่อใดที่เราต้องอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือช่วงวิกฤติของชีวิต หรืออยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่าทางแคบนั้น เรามักคิดว่า ทำไมไม่มีความยุติธรรมเลย หลายคนอาจจะมีคำถามที่ถามพระเจ้าเช่นนั้น และหลายคนก็อาจะน้อยใจพระเจ้าอยู่ก็ได้

เส้นทางของคริสเตียน หลายคนประกาศและเป็นพยานว่ามาหาพระเจ้าสิ พระเจ้าอวยพรอย่างนั้นอย่างนี้ พระเจ้าอวยพรเรื่องการเงิน การงาน ความจริงแล้วพระในโลกก็ให้ในสิ่งเหล่านี้ได้ แต่พระเจ้ามีอะไรที่พิเศษกว่านั้นมากนัก

เส้นทางของคริสเตียน ไม่ใช่การปูหนทางด้วยพรมสีแดง เลิศหรูดูดี เหมือนประกาศผลรางวัลออสก้า ที่เดินไปบนพรมสีแดง มีชื่อเสียงและอำนาจบารมี คริสเตียนจำนวนมากแสวงหาพระหัตถ์ของพระเจ้าเท่านั้นโดย คือคอยและขอแต่พระพรและการอวยพระพรจากพระเจ้าเพียงอย่างเดียว แต่ไปไม่ถึงพระพักตร์ของพระองค์ นั่นคือความจริงของพระเจ้า และการเข้าสู่ความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์

“บทเพลงหนึ่งร้องว่า ข้าไม่ได้หาพระหัตถ์ แต่แสวงหาพระพักตร์ อยากรู้จักพระองค์ ต้องการพบพระองค์”
พระเจ้าต้องการหัวใจของเรามากกว่าเครื่องบูชาอื่นใด หลายครั้งที่ความคิดจอมปลอมมักลวงเราให้คิดว่า ทำไมชีวิตไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย เราเป็นผู้ที่ตั้งใจรับใช้ เราทุ่มเททุกอย่างเพื่อพระเจ้า เราอธิษฐานทุกวัน เราอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน เราทำหลายสิ่งดั่งที่เจ้าเจ้าสอนและให้เราเดินตาม ดั่งพระคัมภีร์บอกว่า จงเลียนแบบพระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า แต่ทำไมชีวิตข้าพระองค์เป็นเช่นนี้…

เมื่อเป็นเช่นนี้ เราเองก็มักมองดูพี่น้องและผู้คนรอบกายของเรา ที่ดำเนินชีวิตแบบโลก และไม่มีชีวิตที่แตกต่างจากโลกนี้เท่าใดนัก มาคริสตจักรทำตัวอีกแบบ ต่อหน้าพี่น้องทำตัวอีกแบบ แต่เมื่อลับหลัง ไม่ได้มีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากโลกนี้เลย ยังกินยังดื่ม ยังคดโกงไม่สัตย์ซื่อ ยังนินทาว่าร้ายใส่ความเพื่อนบ้าน หน้าซื่อใจคด พูดอย่างทำอย่าง พูดดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น … ทำไมคนเหล่านี้กลับมีชีวิตที่ดี เจริญ มั่งมี เรากลับเฝ้ามองดูเขาเหล่านี้ด้วยความอิจฉาหรือไม่ …?

!! มันไม่ยุติธรรมเลยใช่ไหม สิ่งดีที่เราทำสูญเปล่าไปไหม !! เราอาจกำลังถูกโจมตีด้วยความรู้สึกแบบนี้
แต่อย่าให้เราถูกหลอกเลย เมื่อเราเฝ้าดูคนเหล่านี้ก็เป็นการเสียเวลาเปล่า พระเจ้าเป็นพระเจ้าผู้บริสุทธิ์และยุติธรรม พระเจ้าไม่ลืมสิ่งที่เราทำไว้ และจดไว้ในบันทึกของพระองค์แน่ การแก้แค้นนั้นเป็นของพระเจ้า การพิพากษาก็เป็นของพระองค์ ไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องวิเคาระห์ โลกนี้มักสอนมนุษย์ว่า ทำดี ทำบุญเพื่อจะแลกกับสิ่งดีๆที่จะได้ พระคัมภีร์ตอนหนึ่งบอกว่า หว่านสิ่งใดก็ได้ในสิ่งนั้น และผู้หว่านมากก็จะเก็บเกี่ยวได้มาก

สดุดี 73 ได้บรรยายลักษณะเช่นนี้ไว้ด้วย ผู้เขียนก็มีความรู้สึกน้อยใจไม่แตกต่างไปจากเราเท่าใดนัก จึงได้บรรยายไว้ว่า เหล่าคนอธรรมรุ่งเรืองได้อย่างไร ข้าพเจ้ารักษาใจให้สะอาดและมือให้บริสุทธิ์ ก็เปล่าประโยชน์ ผู้เขียนมีความรู้สึกไม่แตกต่างในช่วงเวลาที่อ่อนแอ

แต่ท่านไม่หยุดและแช่อยู่แบบนั้น ท่านได้หันหลังกลับจากความคิดเดิมๆ ที่เคยมี ..และลองหันกลับไปนับพระพรที่ผ่านมาดูสิ มันเป็นสิ่งยอดเยี่ยมจริงๆ พระคัมภีร์ตอนหลังได้บันทึกว่า แล้วข้าพระองค์จึงพิเคราะห์เห็นปลายทางของเขาทั้งหลาย

เราเองจึงต้องมีมุมมองแบบพระเจ้า เมื่อพระเจ้าทรงเปิดเผยแก่เรา มองแบบที่พระเจ้ามอง ดูแบบที่พระเจ้าดู รู้ถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าที่สุดจะหยั่งถึงและล้ำลึกนัก แผนการของซาตานนั้นซับซ้อน ความคิดของโลกนี้เมื่อเทียบกับสติปัญญาของพระเจ้ามันก็เพียงผิวเผิน เพราะแผนการของพระเจ้าคือแผนการซ้อนแผนการของซาตานและมักตลบหลังซาตานอยู่เสมอ เมื่อเรายอมให้ความคิดที่คิดว่าทำตามน้ำพระทัยแล้วเราไม่ได้รับความยุติธรรมเมื่อความคิดแบบนี้และควารมอิจฉา ความสงสัยเข้ามาเมื่อไหร่ เมื่อใดที่เรายอมให้ความคิดแบบนี้ควบคุม และเปลี่ยนไปจากจุดยืนเดิม นั่นคือความพ่ายแพ้และชัยชนะของซาตาน แต่เมื่อใดก็ตามที่เราไม่ยอมแพ้ อดทนเพียรรอคอย มีจุดยืนและความเชื่อที่มั่นคงแม้โลกนี้จะมองเราเป็นเช่นไร แม้คนต่างๆจะดูถูกเราเพียงไหน นั่นคือชัยชนะของพระเจ้าและของเราด้วย อย่าตีค่าความไม่ยุติธรรรมคือทรัพย์สินเงินทอง ของมีค่า หรือความสุขต่างๆ เพราะเมื่อเราบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เมื่อเราโน้มตัวออกไปข้างหน้า จุดหมายชัยชนะก็รอเราอยู่ มุมมองของเราต้องเปลี่ยนไปไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม

ดังนี้เองอาสาฟจึงได้บรรยายในสดุดี 73 ว่า ทำไมความไม่ยุติธรรมปล่อยให้คนอธรรมรุ่งเรืองขึ้นมาขณะที่คนชอบธรรมต้องอยู่ในความยากลำบาก เมื่อมีความคิดเช่นนี้สิ่งที่เราต้องระมัดระวังคือ
สิ่งที่ต้องระวัง!
-    เมื่อคนอธรรมเจริญก้าวหน้า คนชอบธรรมต้องไม่มีความสงสัยในความชอบธรรมที่ก้าวเดินมา ต้องไม่สงสัยในความดีที่ทำ ต้องไม่สงสัยในน้ำพระทัยของพระเจ้า ต้องละทิ้งความคิดที่ว่า เราทำดีไปเพื่ออะไร?
-    ความเจริญรุ่งเรืองของคนอธรรมมักจะชักจูงให้คนชอบธรรมออกมาจากความชอบธรรม เพื่อมาเป็นคนอธรรม เข้าสู่สิ่งชั่ว และตัณหากิเลสของโลกนี้
,เมื่อเราต้องประสบความทุกยาก มันก็เพียงเล็กน้อยบนโลกใบนี้ ชั่วครู่ชั่วคราว บนโลกใบนี้ พระเจ้าย่อมมีแผนการบางสิ่งบางอย่าง เมื่อเรามีปัญหาสุขภาพ เราต้องเชื่อในการช่วยกู้ของพระองค์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีค่าอะไรเมื่อเราจากโลกนี้ไป สิ่งของในโลกนี้ก็ย่อมหมดความหมาย สิ่งที่จะติดตามเราไปต่อหน้าองค์ผู้พิพากษาคือ ความชอบธรรม และความอธรรมต่างหาก และเมื่อนั้นคนอธรรมจะอิจฉาเรา จะอยากได้ในสิ่งที่เราอยากจะได้แบบถาวรนิรันดร์

เหตุฉะนั้นเราจึงไม่ย่อท้อ ถึงแม้ว่ากายภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป แต่จิตใจภายในนั้นก็ยังคงจำเริญขึ้นใหม่ทุกวัน เพราะว่าการทุกข์ยากเล็กๆน้อยๆของเรา ซึ่งเรารับอยู่ประเดี๋ยวเดียวนั้น จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีถาวรมากหาที่เปรียบมิได้ เพราะว่าเราไม่ได้เห็นแก่สิ่งของที่เรามองเห็นอยู่ แต่เห็นแก่สิ่งของที่มองไม่เห็น เพราะว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นอยู่นั้นเป็นของไม่ยั่งยืน แต่สิ่งซึ่งมองไม่เห็นนั้นก็ถาวรนิรันดร์
2 โครินธ์ 4:16-18


ถ้าเราได้อ่านคำอุปมาเรื่อง เศรษฐีกับลาซารัตส ใน ลูกา 16:19-31
เราจะมั่นใจได้ในความยุติธรรมแน่นอน เพียงเราเข้าอยู่ในความสัมพันธ์หน้าต่อหน้ากับพระเจ้าพระบิดาของเรา เราจะได้ยินเสียงของพระองค์ รู้น้ำพระทัยในชีวิต อาสาฟเองที่เขียนสดุดีในตอนนี้ไม่เข้าใจจนกระทั่งได้เข้าสู่การนมัสการ การนมัสการนี่เองที่จะนำเราเข้าสู่ความสัมพันธ์แบบหน้าต่อหน้ากับพระเจ้า เข้าสนิทกับพระองค์ นี่เป็นความจริงของพระเจ้า พระองค์พอพระทัยการนมัสการที่ออกมาจากภายในของเรา

เราอาจจะละทิ้งความเชื่อในท่ามกลางปัญหามากมายในชีวิต เมื่อตาของเราจับจ้องอยู่ที่ความเจริญรุ่งเรืองของคนอธรรม เราต้องละสายตาออกจากเป้าหมายนั้น และเบนสายตามาที่พระเจ้า
ถ้าท่านกำลังตกในสภาพเช่นนี้ จงเริ่มที่จะรื้อฟื้นความเชื่ออีกครั้ง พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราต้องล้มลง เมื่อใกล้ชิดพระองค์ คำปรึกษาของพระองค์ก็มีชัยชนะเหนือสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้มีค่ามากไปกว่าพระเจ้า

ไม่มีสิ่งใดในโลกที่น่าปรารถนามากไปกว่าพระเจ้า
แม้เขาจะทำสิ่งใดก็ตามที่เดินในทางอธรรม และดูเหมือนว่าทำไมเขายังเจริญรุ่งเรือง ทำไมเขายังได้สิ่งดีๆ ทำไมเขายังมีชื่อเสียงเกียรติยศ เราเห็นคำพูดและกำพืดเขาหมด แต่หน้าฉากเขาทำตัวชอบธรรม แต่ข้างในเขาแย่และเน่าแฟะ … หยุดที่จะคิดมากไปกว่านี้ เพราะพระคัมภีร์บันทึกว่า แม้ดูเหมือนคนชั่วจะเจริญรุ่งเรือง แต่พระเจ้าได้วางเขาไว้ในที่ล่อแหลม เขาจะถูกกวาดล้างไปโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า สุดท้ายแล้วคนชั่วจะต้องล้มลงจากความเจริญรุ่งเรืองที่พวกเขาภูมิใจโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย
สดุดี 49
ดูก่อนชาติทั้งหลาย จงฟังข้อความนี้ ชาวพิภพทั้งปวงเอ๋ย จงเงี่ยหูฟัง
ทั้งผู้น้อยผู้ใหญ่ ทั้งเศรษฐีและคนจนด้วยกัน
ปากของข้าพเจ้าจะเผยปัญญา การภาวนาของจิตใจข้าพเจ้าคือความเข้าใจ
ข้าพเจ้าจะเอียงหูฟังสุภาษิต ข้าพเจ้าจะแก้ปริศนาของข้าพเจ้าให้เข้ากับเสียงพิณเขาคู่
ทำไมข้าพเจ้าจึงกลัวในคราวทุกข์ยากลำบาก เมื่อความบาปชั่วแห่งผู้ข่มเหงล้อมตัวข้าพเจ้า
คนผู้วางใจในทรัพย์ศฤงคารของตัว และอวดอ้างความมั่งคั่งอันอุดมของตน
แน่ทีเดียวไม่มีคนใดไถ่พี่น้องของตนได้ หรือถวายค่าชีวิตของเขาแด่พระเจ้า
เพราะค่าไถ่ชีวิตของเขานั้นแพงและไม่เคยพอเลย
ที่เขาจะมีชีวิตเรื่อยไปเป็นนิตย์ และไม่ต้องเห็นปากแดนผู้ตาย
เออ เขาจะเห็นว่า ถึงปราชญ์ก็ยังตาย คนโง่และคนโฉดก็ต้องพินาศเหมือนกัน และละทรัพย์ศฤงคารของตนไว้ให้คนอื่น
หลุมศพของเขาเป็นบ้านของเขาเป็นนิตย์ เป็นที่อยู่ของเขาทุกชั่วชาตพันธุ์ ถึงเขาเคยเรียกที่ดินของตัวตามชื่อของตน
มนุษย์จะคงชีพในยศศักดิ์ของตนไม่ได้ เขาก็เหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่พินาศ
นี่คือเคราะห์ของบรรดาคนที่มีความเชื่อเขลาคือที่สุดปลายของคนเหล่านั้นที่พอใจอยู่กับส่วนของตน
ดังแกะ เขาถูกกำหนดไว้ให้แก่แดนผู้ตาย มัจจุราชจะเป็นเมษบาลของเขา คนเที่ยงธรรมจะมีอำนาจเหนือเขาทั้งหลายในเวลาเช้าและรูปร่างของเขาจะเปื่อย สิ้นไป แดนผู้ตายจะเป็นบ้านของเขา
แต่พระเจ้าจะทรงไถ่จิตวิญญาณของข้าพเจ้าจากฤทธานุภาพของแดนผู้ตาย เพราะพระองค์จะทรงรับข้าพเจ้าไว้
ท่านอย่ากลัว เมื่อผู้หนึ่งมั่งมีขึ้นเมื่อศักดิ์ศรี {หรือ ความมั่งคั่ง} ของบ้านของเขาเพิ่มขึ้น
เพราะเมื่อเขาตาย เขาจะไม่เอาอะไรไปเลย ศักดิ์ศรีของเขาจะไม่ลงไปตามเขา
แม้ว่าเมื่อเขาเป็นอยู่ เขานับว่าตัวเขาสุขสบายและแม้ว่าเขาได้รับคำสรรเสริญเมื่อเขาทำตัวเขาให้มั่งคั่งแล้ว
เขาจะไปอยู่กับพวกบรรพบุรุษของเขา ผู้ซึ่งจะไม่เห็นความสว่างอีก
มนุษย์จะคงชีพในยศศักดิ์ของตนไม่ได้ เขาก็เหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่พินาศ

-    ทุกสิ่งในโลกล้วนไร้ประโยชน์ ความร่ำรวย เย่อหยิ่ง ชื่อเสียง ไม่ว่าเราจะจน รวยมั่งมี ขัดสน สิ่งที่เหมือนกันคือ เมื่อจากโลกนี้ไปก็ทิ้งทุกอย่างไว้ในโลก เศรษฐีกับลาซาลัสก็ไม่ต่างกันเลย เขาทิ้งทุกอย่างไว้ในโลกนี้ และไปเฝ้าพระเจ้าเพียงมือเปล่า ทรัพย์ที่ติดตัวไปคือ ความชอบธรรมคือมรดกนิรันดร์

การจะมีทรัพย์สมบัติมากนั้น เราต้องเชื่อวางใจในพระเจ้า มุ่งมั่นที่จะเชื่อฟังพระองค์ มุ่มมั่นคือการไม่ย่อท้อแม้ยากลำบากเพียงไร จงสำรวจการลงทุนของเราตอนนี้กันดีกว่าที่เราจะนั่งคิดถึงความเจริญรุ่งเรืองของคนอธรรม

ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกคน
ขอพระเจ้าเสริมกำลังทุกท่าน
ขอบพระคุณพระเจ้า
Ktm.worship

ปล.ขออภัยถ้าไม่มีการเรียบเรียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น