วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ชีวิตในพระวจนะ


ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า "มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า "มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า
มัทธิว 4:4


หลายครั้งที่ผมอดอาหารบางมื้อ และต้องพบกับความหิวอย่างมาก ครั้งหนึ่งที่ได้ดูข่าวในโทรทัศน์และพบว่าประเทศหนึ่งผู้คนได้พบกับการกันดารอาหาร ผู้คนต่างล้มป่วย บางคนผอมจนหนังติดกระดูก บางคนตายเพราะไม่มีอาหารจะกิน มนุษย์ต้องดำรงชีวิตด้วยอาหาร อาหารที่เราทานเข้าไปจะถูกนำไปหล่อเลี้ยงอวัยวะทุกๆส่วนในร่างกาย

พระวจนะตอนนี้บอกเราว่า มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ด้วยการกินอาหาร แต่ในฝ่ายวิญญาณสิ่งที่เป็นอาหารฝ่ายวิญญาณคือ พระวจนะเปรียบกับอาหารที่จะหล่อเลี้ยงร่างกาย และแม้แต่ภาพของคริสตจักรเราทั้งหลายที่ถูกเรียกเป็นพระกายและเมื่อเราเป็นพระกายและมีพระเยซูคริสต์เป็นศีรษะ พระองค์ทรงเป็นพระวาทะ ถ้าเราต่างเป็นอวัยวะที่ไม่ดูดซึมสารอาหาร เราก็เท่ากับเป็นอวัยวะที่ตายแล้ว ไม่เพียงแต่เราตายแค่นั้น แต่ยังมีผลต่อคริสตจักรด้วย

ในพระคัมภีร์ยอห์น 15:6-7 บอกว่า
ถ้าผู้ใดมิได้เข้าสนิทอยู่ในเรา ผู้นั้นก็ต้องถูกตัดทิ้งเสียเหมือนแขนง แล้วก็เหี่ยวแห้งไป และถูกเก็บเอาไปเผาไฟ
ถ้าท่านทั้งหลายเข้าสนิทอยู่ในเรา และถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใด ซึ่งท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น


การเข้าสนิทในพระองค์คือทางเดียวที่เราจะยังมีชีวิตอยู่ ฉะนั้นสำคัญมากที่คริสเตียนต้องอ่านพระวจนะ พระคัมภีร์สำคัญสำหรับคริสเตียนมากที่จะอ่านเพียงเพราะหน้าที่ เราจะมีชัยชนะในสงครามประจำวันได้ก็เพราะพระวจนะ เราจะคำหนุนใจในแต่ละวันก็เพราะพระวจนะ เราจะพบคำตอบในแต่ละวันก็เพราะพระวจนะ เราจะเดินไปได้ในโลกนี้ก็เพราะพระวจนะ เพราะพระวจนะเป็นโคมส่องให้เราเดินไปได้ในความมืดมิดของโลกนี้

พระคัมภีร์มักถูกทิ้งไว้ท้ายรถจนถึงวันอาทิตย์ถัดไปหรือเปล่า หรือถูกวางไว้บนโต๊ะและชั้นหนังสือจนฝุ่นจับจนหนาหรือไม่
หลายครั้งเมื่อขับรถมาคริสตจักร เราย้อนกลับไปเอาโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน หรือ แบล็กเบอรี่ไหม เมื่อเราลืม แต่ถ้าเป็นพระคัมภีร์เราจะย้อนกลับไปเอาหรือไม่ เราอาจจะคิดว่า มันเสียเวลาหรือเปล่า

หนังสือเล่มหนึ่งเขียนไว้ว่า พระคัมภีร์ไม่ได้ถูกเขียนขึ้นมาเพราะพระเจ้าต้องการตอบสนองความอยากรู้ของเรา แต่เพื่อหล่อหลอมเราให้เป็นเหมือนพระคริสต์ ไม่ใช่ทำให้เราเป็นคนที่ฉลาดขึ้น ไม่ใช่ให้หัวเราเต็มไปด้วยความรู้พระคัมภีร์ แต่เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา

เมื่อเราต้องการเจริญเติบโต เราต้องอ่านพระคัมภีร์ เด็กทารกจะโตได้ก็เพราะน้ำนม พระคัมภีร์ก็เปรียบได้กับน้ำนมฝ่ายวิญญาณ
1 เปโตร 2:2
เช่นเดียวกับทารกแรกเกิด จงปรารถนาน้ำนมฝ่ายวิญญาณอันบริสุทธิ์ เพื่อโดยน้ำนมนั้นจะทำให้ท่านทั้งหลายเจริญขึ้นสู่ความรอด


พระคัมภีร์ยังเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ
เมื่อเราโตมาเป็นผู้ใหญ่ระดับหนึ่ง ผู้ใหญ่ดูจากอะไร จำนวนปีที่เป็นคริสเตียนหรือ คนที่จบโรงเรียนพระคัมภีร์หรือ คนที่ท่องพระวจนะเป็นนกแก้วหรือ แต่มันอยู่ที่เราใช้พระวจนะมากเพียงใดต่างหากเราสามารถวางใจได้เพราะพระวจนะนั้นเชื่อถือได้ 100% เพราะทุกคำมาจากพระเจ้า
2 ทิโมธี 3:16-17
พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และ {หรือ ทุกตอนที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า ก็} เป็นประโยชน์ในการสอนการตักเตือนว่ากล่าวการปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม
เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง


พระคัมภีร์เป็นสิ่งที่พระเจ้าดลใจผู้เขียน เชื่อถือได้ ไว้ใจได้ เราอ่านและนำมาประยุกต์ใช้ได้ไม่มีตกยุค พระคัมภีร์สามารถป้องกันเราจากคำสอนเท็จและเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต

พระเยซูเองสามารถต้านมารผจญพระองค์ได้ พระองค์ไม่เพียงรู้พระคัมภีร์เป็นความรู้ประดับไว้เท่านั้นแต่พระองค์นำมาใช้และเชื่อฟังด้วย
การท่องจำพระคัมภีร์ได้จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าเราขาดการเชื่อฟัง แต่นี่คือก้าวแรกที่เราจะมีชัยชนะเพราะเรามีอาวุธอยู่ในมือเราแล้ว พระคำเปรียบเสมือนดาบที่เป็นอาวุธ
เอเฟซัส 6:17 ยุทธภัณฑ์ของพระเจ้า
จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า

ซาตานเองก็รู้พระคัมภีร์ รู้มากด้วยเพียงแต่มันไม่ปฏิบัติตามและต่อต้านพระวจนะ
แม้พระคัมภีร์จะเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดในโลก แต่ก็เป็นหนังสือที่ถูกอ่านน้อยที่สุดและถูกละเลยมากที่สุดด้วยเช่นกัน

เราใช้เวลากับพระวจนะมากเพียงไร จงอ่านพระวจนะให้จบทั้งเล่ม ไม่ใช่เพื่อความรู้ที่จะมีมากกว่าผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อจะท่องจำได้และเป็นคนหัวหมอ ไม่ใช่เพื่อให้ดูดี แต่เพื่อชีวิตที่เปลี่ยนแปลง

เราบอกเรารักพระเจ้าแต่เรารู้จักพระองค์มากขนาดไหน การอ่านพระวจนะเท่ากับเราอ่านน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีต่อเราด้วย

ตอนนี้คุณเผชิญปัญหาใดๆอยู่ไหม
ตอนนี้คุณท้อใจอยู่หรือเปล่า
ตอนนี้คุณกลุ้มใจและกังวลกับสิ่งใดๆบ้าง
ทุกอุปสรรคในชีวิตที่กำลังเผชิญนั้น
ลองวางสิ่งเหล่านั้นลงสักพัก เลิกที่จะดิ้นรน เลิกสนุกสนานชั่วคราว เลิกสาละวนและบอกไม่มีเวลา
ทุกคำตอบมีในหนังสือเล่มนี้แล้ว คำปลอบโยน คำหนุนใจ และคำแนะนำที่ดีที่สุด รอคุณอยู่
ลิงค์เกี่ยวข้อง พระวจนะบุฟเฟ่
                   ความสำคัญของพระวจนะ

ขอพระเจ้าอวยพระพร
ขอบคุณพระเจ้า
Ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น