วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

ชีวิตที่มีความรักคือรากฐาน


ย่อยจากคำเทศนา วันอาทิตย์ 16 มกราคม 11
วันนี้อยากให้เรามานึกถึงความรักของพระเจ้า พระเจ้ามอบความรักให้แก่เรา
แต่หลายครั้งที่เราก็ไม่ได้สำแดงความรัก เราอยากได้ความรัก เราแสวงหาความ
รักแต่เราก็ไม่ได้สำแดงความรักกับพี่น้องของเรา สำคัญมากหรือกับการสำแดงความ
รัก แค่เรากับพระเจ้าไม่เพียงพอหรือ หรือฉันต้องทำอย่างไร
พระเจ้าทรงเป็นความรักใช่ไหมครับ คำๆนี้เราได้ยินมานานมากแล้ว
พระเจ้าไม่ได้ส่งพระบุตรของพระองค์มา เพราะความสงสาร เห็นใจเท่านั้น แต่
สำคัญที่สุดคือพระองค์ทรงรักเรา
เราให้เงินขอทานเพราะสงสาร ไม่ใช่ความรัก
แค่ความสงสารเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ใครสละลูกของตนเองเพื่อคนอื่น

พระเจ้าไม่เพียงแต่รักเราเท่านั้น 
พระองค์ยังรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย 
ไม่ว่าเราจะดีหรือเลว  พระองค์ก็รักเรา
 
นี่เป็นความอัศจรรย์ของความรักของพระเจ้าและพระองค์ยังรักเราแม้ว่าเราไม่น่ารัก เราจะดื้อแค่ไหน  หรือแม้เราจะเกลียดพระองค์ก็ตาม
บุตรน้อยที่หลงหายไป เมื่อกลับใจเขาก็รีบลุกกลับมาหาพ่อ และพ่อก็รอเขาและอ้าแขนรับเข้ากลับสู่บ้านคืน ความรักของพระองค์มีมานานแสนนานแล้ว เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงค์เป็นนิตย์

พระเจ้าทรงปรากฏแก่เขาจากที่ไกล ตรัสว่า เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้นเราจึงมีความรักมั่นคงต่อเจ้าสืบไป   เยเรมีย์ 31:3

และนี่เองพระองค์จึงทรงประทานบุตรของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย

"เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์" (ยอห์น 3:16)


ความรักของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่ ความรักของพระเจ้า
คือความมั่นคง ปลอดภัย
ให้เรารับเอาความรักของพระเจ้า
เมื่อพระองค์ทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทุกๆคน ทั้งที่เราเป็นคนบาป
พระองค์ก็ได้มาสินพระชนม์เพื่อเรา
อย่าให้สถานการณ์ หรือความคิดของเรา หลอกเราว่า พระเจ้าไม่รักเราหรอก
** บางคนไม่อยากมาคริสตจักร เพราะคิดว่าตัวเองไม่ดี แย่ พระเจ้าไม่รักแล้ว
หรือกลัวมาแล้วจะไม่ได้รับความรัก ถ้ามาเจอ คนนั้นคนนี้เค้าต้องซ้ำเติมเราแน่ๆ
เราต้องรู้เสมอว่า ในความรักนั้นไม่มีความกลัว
ละครเรื่องหนึ่งชื่อเรื่อง บ้านนี้มีรัก และเราต้องเชื่อด้วยว่า คริสตจักรนี้มีรัก

อย่าคิดว่าพระองค์ทิ้งเราไปแล้ว เพราะเรา ดื้อ เราทำบาป
เราต้อง ไม่สงสัยในความรักของพระเจ้า
ยุทธศาสตร์ของซานตานคือ ให้เรา สงสัย ในความรักของพระเจ้า
** สงสัยคือ ขาดความเชื่อ ไม่เชื่อ ผู้เชื่อจะได้รับพรของพระเจ้า พระพรของพระองค์คือความรักของพระองค์

สิ่งสำคัญที่สุดนั้นไม่ใช่หมายสำคัญและการอัศจรรย์
แต่เป็นชีวิตที่ดำเนินในความรักของพระเจ้า
ตอนหนึ่งที่พระเยซูตรัส คนที่อ้างว่าทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์
พระองค์ตรัสว่า เราไม่รู้จักเจ้า

ผมขอหนุนใจว่า….หลายคนได้รับของประทานจากพระเจ้า
ไม่ได้หมายความว่า คนคนนั้นสมบูรณ์ที่สุด
กว่าคนที่ไม่ได้รับอะไรเลย
คุณอาจจะไม่เห็นนิมิต ไม่ฝัน ไม่ได้รับการสำแดง
ไม่ได้หมายความว่า    พระเจ้าจะไม่รักคุณ ไม่จริงเลย
พระประสงค์พระองค์ต้องการให้เรา
ดำเนินตามแบบอย่างที่พระองค์วางเอาไว้
อย่าเอาสิ่งเหล่านี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน
เพราะคนที่คิดว่าตนเองมั่นคง เกรงว่าจะล้มลง

ของประทานที่ไม่มีความรัก ก็เหมือนฆ้องหรือฉาบ อย่ามัวมานั่งเถียงกัน
ในเรื่องงานรับใช้ เราเองมีของประทานที่แตกต่าง ทุกของประทานก็เพื่อ
คริสตจักรจะจำเริญขึ้น
1 โครินธ์ 13:1 แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาแปลกๆ ได้ เป็นภาษามนุษย์ก็ดี เป็นภาษาทูตสวรรค์ก็ดี แต่ไม่มีความรักข้าพเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง
เราอาจได้รับของประทาน และรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว และเป็นตึกอาคารที่สูงใหญ่
เทียมฟ้า แต่ตึกหลายตึกที่พังทลายลง ก็เพราะรากฐานที่ไม่มั่นคง และไม่แข็งแรง

1 โครินธ์ 13:13 ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด
ความรักเป็นของประทานที่สำคัญ ถ้าทุกของประทานที่ทำ
จะมีผลเพียงน้อยนิดถ้าปราศจากความรัก ความรักสิ่งที่จะ
ทำให้ทุกของประทาน ทะลุทะลวงได้
และความรัก คือกาวที่เชื่อมของประทานทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
** ควารู้นั้นทำให้ลำพอง แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น
 ความรักคือผลหนึ่งในผลฝ่ายวิญญาณที่เราต้องสำแดงออกมา
เราจะเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ในความเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ
คือเราต้องเห็นผลของชีวิตที่ออกมา
ผลจะดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่ต้น ผลของพระวิญญาณเมื่อก่อนพระองค์จะไปพระองค์
บอกว่าจะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน
พระเจ้าไม่ได้วิญญาณชั่วใส่ในเรา แต่ทรงใส่พระวิญญาณบริสุทธิ์
ของพระองค์มาภายในเรา ให้อยู่กับเรา
และเราก็เป็นเช่นต้นไม้ที่จะออกผล
ต้นไม้ที่ยังมีชีวิต ถ้าออกผล คริสเตียนก็ยังมีชีวิต ถ้ามีผลฝ่ายวิญญาณ
ผลนั้นมาได้อย่างไร
ยอห์น 14:12-18 "เรา จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน"
โดยพระองค์ทรงเอื้อมไปที่พระองค์เองและ
เอาพระวิญญาณของพระองค์มาใส่ไว้ใน ชีวิตของเรา
พระองค์ต้องการให้เรามีผลที่ดี เราต้องแตกต่างจากโลก
ความรู้นั้นคนที่ไม่เป็นคริสเตียนก็หาความรู้พระคัมภีร์ได้
แต่เขาเป็นต้นไม้ที่ไม่มีผล

ผลที่ดีก็คือแบบอย่างที่ดี เช่นพระเยซู ผลที่ดีจะเป็นตัวดึงดูด
คนเข้ามาถึงพระเจ้า
*เมื่อเรามีพระวิญญาณแห่งความรักเราต้องเชื่อฟัง เฉลยธรรมบัญญัติ 11:26-28
เมื่อท่านเชื่อฟังและปฏิบัติตามท่านก็จะเป็นไปตามพร
มัทธิว 7:17-20
ต้นไม้ดีย่อมให้แต่ผลดี ต้นไม้เลวก็ย่อมให้ผลเลว
ต้นไม้ดีจะเกิดผลเลวไม่ได้ หรือต้นไม้เลวจะเกิดผลดีก็ไม่ได้

เราต้องเป็นต้นไม้ที่ดี ที่ออกผลถ้าปราศจากผลเราก็เป็นต้นไม้ที่ตายแล้ว
ถ้าเราขาดแล้วซึ่งความรัก เราก็เหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว
เราต้องมีผล ผลที่ว่าคือผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ใน

กาลาเทีย 5:22-23
ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย


ความรัก
ประการแรกพระเจ้าให้เรามีความรัก
ความรักที่เอาใจใสและเป็นห่วง
ความรักคือ ความชอบ พึงใจ หลายครั้งเราบอกว่า รักๆๆ
แต่ผลที่แสดงออกมาเราเป็นดั่งที่ปากเราได้พูดไหม
เรายังนินทากันเองอยู่ด้วยซ้ำ เรายังไม่ให้อภัยกันด้วยซ้ำ
มองและคอยแต่จับผิดไม่ได้มองหาส่วนดีของกัน
ขุ่นข้องหมองใจกัน ขัดเคืองกัน หมางใจกัน
แต่มองหาแต่ส่วนเสียหายและทำร้าย กัน
** ความรักไม่ใช่เป็นการที่จะปล่อยปละละเลยเมื่ออีกคนทำบาป
ความรักจะไม่นำพี่น้องเข้าสู่การพิพากษา
ความรักต้องไม่มองหา แต่สิ่งที่นำไปสู่ข้อกล่าวหา


แน่นอนมันช่างเป็นอะไรที่ง่ายที่เราจะเปล่งเสียงว่ารัก
 แต่มันเป็นอะไรที่ยากที่เราจะสำแดงความรักและมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก
เรามีผู้ช่วยภายในเรา แต่ผู้ช่วยไม่ใช่ผู้บังคับ

เราจะระงับอารมณ์โกรธได้แค่ไหนเมื่อมีคนที่ทำผิดต่อเรา
เอาเปรียบเราในการรับใช้ ความรักของพระเจ้านั้นทนได้แม้ความผิด

อ.เปาโล ทำหลายสิ่งหลายอย่าง ทุ่มเทเพื่อคนอื่น ทำด้วยใจรัก
แต่ผลที่ได้คือ โดนใส่ความ ตามฆ่า … แต่ เปาโล ยังคงรักอยู่

พระเจ้าไม่ได้ดีแต่พูดเท่านั้น แต่พระองค์ทำด้วย ทำให้เราเห็น
เรารู้แน่นอนว่าพระเจ้ารักเราไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งที่เรามีความผิดนี่แหละ  ความรักของพระองค์ไม่มีเหตุผล

เห็นไหมพระองค์ก็รักและอดทนต่อความผิดของเราด้วย

ความรักนั้นไม่มีวันสูญสิ้น ไม่ว่าเรากำลังเผชิญสิ่งใดก็ตาม
แม้เราจะเจอคนที่ทำให้เราเจ็บแค่ไหน
ทำผิดต่อเราแค่ไหน เราต้องไม่ลืมว่า ความรักที่ไม่มีวันสูญสิ้นยังคงอยู่
และไม่เคยหมดไปจากเราเลย
ความรักไม่เคยหมด คือเรามีรักอยู่เสมอ บางคนอาจเคยพูดว่า
เสียแรงที่รัก ทำไมเขาทำกับฉันแบบนี้ ทำไมถึงทำกับฉันได้
แต่ความรักไม่มีวันสูญสิ้น
เอเฟซัส 5:1-2
เหตุฉะนั้นท่านจงเลียนแบบของพระเจ้า ให้สมกับเป็นบุตรที่รัก
และจงดำเนินชีวิตในความรัก เหมือนดังที่พระคริสต์ได้ทรงรักเราทั้งหลาย
และทรงประทานพระองค์เองเพื่อเรา
ให้เป็นเครื่องถวายและเครื่องบูชาอันเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า


เลียนแบบพระเจ้าสิ คือทำตามพระเจ้า จะดีมั๊ยถ้ามีคนบอกว่า
เก่งเหมือนพ่อเลย เราจะภูมิใจขนาดไหน
เพราะเราสมกับเป็นลูกของพ่อของเรา จงดำเนินชีวิตในความรัก

เหมือนเด็กที่เยนแบบพ่อ พ่อคือแบบอย่าง
พระองค์คือพระบิดาที่ลงมาเป็นแบบอย่างให้กับเรา เราจึงควรเลียนแบบพระคริสต์

พระองค์ทรงมีความรักต่อเราโดยการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่
ความรักที่เราควรมีต่อผู้อื่นจึงไม่ใช่ความรักแบบ
รักเพราะเขาดีกับเรา ใครที่ไม่ดีกับเราเราก็ไม่รัก
พระองค์ได้บอกให้เรารัก
เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลาย คือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น

ยอห์น 13:35
ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้
ได้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา


 นี่คือบทพิสูจน์ว่าเราทั้งหายเป็นสาวกของพระเยซู
คริสตจักรที่เป็นสาวกต้อง ไม่มีความขัดแย้ง ความอิจฉา การแตกแยก

เราต้องมีความรักเช่นพระเยซูคริสต์
ความรักจะรักษาเราให้เข้มแข็ง และเป็นหนึ่งเดียวกัน

เราอาจจะพยายามทำหลายสิ่งแต่ขาดความรัก
ลูกา 10:27
เขาทูลตอบว่า "จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า ด้วยสุดกำลังและสิ้นสุดความคิดของเจ้า และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

** จงปฏิบัติต่อผู้อื่น อย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน
หลายครั้งเราอยากให้คนสำแดงความรักแก่เรา อาจะแสดงออกโดยการทำ
ทุกอย่างเพื่อการยอมรับ แต่เราเองกลับปฏิบัติต่อผู้อื่นไม่ดี

เราได้ยินบัญญัติว่ารักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองมานาน และบ่อยมาก
แถวบ้านผม คือข้างบ้าน เขามักเปิดเพลงเสียงดัง ทะเลอะกันเสียงดัง
ชอบเบิ้ลมอเตอร์ไช และชอบจุดประทัด โดยไม่มีความเกรงใจ
ว่าคนข้างบ้าน จะหลับจะนอน เขาคิดแต่รักตนเองทำในสิ่งที่ตัวชอบ
และมีความสุข

ในระหว่างเตรียมเทศนา คำว่าจงมีความรักนั้นได้สอนผมเรื่องนี้ด้วย
1 ยอห์น 4:20
ถ้าผู้ใดว่า "ข้าพเจ้ารักพระเจ้า" และใจยังเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นก็เป็นคนพูดมุสา เพราะว่าผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนที่แลเห็นแล้ว จะรักพระเจ้าที่ไม่เคยเห็นไม่ได้

** ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก
และผู้ใดที่เข้าไปอยู่ในความรักนั้นก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้า
ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น
ถ้าเราเองขาดความรักพี่น้องในบ้านเดียวกันแล้ว เราจะหวังสำแดงความรักต่อผู้อื่นไม่ได้เลย
เราซึ่งพระเจ้าเรียกให้เป็นกายเดียวและพระองค์เป็นศีรษะ ถ้าเราไม่รักกันก็เท่ากับไม่รักพระเจ้าด้วย
พระวจนะบอกเราว่าถ้าเราเกลียดชังผู้ใด เกลียดชังพี่น้อง
เมื่อเราเป็นกายเดียวกันก็เป็นเหมือนพี่น้องกัน
เมื่อเราเกลียดกันขาดความรักต่อกันและกัน
มันได้ได้จบแค่นั้น แต่เราเปรียบเหมือน ฆาตกร
ในพระคำตอนนี้ยอห์นได้ยกคำตรัสของพระเยซูที่ว่า
คนที่เกลียดชังคนอื่นก็มีจิตใจเป็นฆาตรกร
เราจำ คาอิน กับ อาเบลได้ใช่ไหม เมื่อเขาเกลียดชัง และมี
แรงจูงใจในงานรับใช้ที่ไม่ดีต่อกันและกัน ความเกลียดนำไปสู่การฆ่าคน
1 ยอห์น 3:15
ผู้ใดที่เกลียดชังพี่น้องของตนผู้นั้นก็เป็นผู้ฆ่าคน และท่านทั้งหลายก็รู้แล้วว่า ผู้ฆ่าคนนั้นไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในเขาเลย
ความเกลียดชังยั่วยุให้เกิดความแตกแยก แต่ความรักบดบังความผิดทั้งมวล
ทูลขอความรักจากพระเจ้า ให้พระเจ้าตอกเสาเข็มความรักภายในเรา
เรามักจะอธิษฐานขอให้เรารักคนที่ไม่น่ารัก แต่เราก็พยายามหนีให้ไกล
จากคนที่เราไม่อยากจะรัก พระเจ้าอาจจะส่งเขามาเพื่อขัดเกลาในชีวิตเราก็ได้
พระเจ้าอาจจะส่งเขามาเพื่อวางรากฐานความรักในชีวิตเราก็ได้

ความเข้มแข็งของคริสตจักรที่เป็นกายเดียวคือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว
จงมีความรักแก่กันและกันเพื่อหล่อหลอมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว
ซาตานต้องการให้เราขาดความรักและแตกแยกกันเองเกลียดชังกันเอง “จงมีความรัก”
ความรักจะป้องกันความแตกแยก แบ่งก๊กแบ่งเหล่า แบ่งสีในคริสตจักร
เมื่อถึงเวลารับใช้เราจะไม่ใส่หน้ากากเข้าหากัน ลับหลังเมื่อไร (แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ)
เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดโกรธพี่น้องของตน ผู้นั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ ถ้าผู้ใดจะพูดกับพี่น้องว่า "อ้ายโง่" ผู้นั้นต้องถูกนำไปที่ศาลสูงให้พิพากษาลงโทษและผู้ใดจะว่า "อ้ายบ้า" ผู้นั้นจะมีโทษถึงไฟนรก
มัทธิว 5:21-22 

เวลารับใช้ด้วยกันและอีกฝ่ายทำผิดพลาดเนื่องด้วยอะไรก็ตามแต่ อย่ามีแรงจูงใจที่ผิดๆในการตัดสินการรับใช้ของพี่น้อง
อย่าให้เราพูดว่า ทำได้ไงงานแบบนี้ บ้านนอก เชยมาก เห่ยจริงๆ
ใช้อะไรคิด จบไรมาวะ โลวคลาสมากๆ มาตรฐานต่ำจริงๆ
..นี่แหละ เราก็ว่าพี่น้องอ้ายโง่
ถ้าเครื่องบูชานั้นของเขาเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าล่ะ

ความขมขื่นต่อคนที่กระทำผิดต่อคุณนั้น เปรียบได้กับมะเร็งร้าย
ความขมขื่นไม่ใช่ต้องนั่งเศร้า นั่งทุกใจเท่านั้น
แต่ถ้าเราได้ยินชื่อคนคนนั้นลอยมา เราก็เบ้ปากทันที
ด้วยเหตุนี้ การขาดความรักเพียงอย่างเดียว
ก็เท่ากับขาดผลของพระวิญญานเกือบทั้งหมด
สันติสุขหดหาย
ความปลาบปลื้มใจโดนกั๊ก
ความรักมลายไปสิ้น
อยากลงไปดิ้นเพราะขาดสันติสุข
นั่งจุ่มปุ๊ก มองไม่เห็นความดี
ความปราณีไม่รู้อยู่ไหน
เจออะไรก็ไม่มีการบังคับตน
ความอดทน ไม่ถึง
หน้าตาถมึงทึงเพราะขาด ความสุภาพอ่อนน้อม
แล้วก็บอกว่า อีกแล้วเหรอ
แล้วก็อาจจะบ่นๆๆ ว่าๆๆ นินทาๆๆ คนที่ได้ยินคือเรา
อ้วกออกมาก็กินซ้ำเอง หว่านสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น หว่านความรักก็ได้ความรัก (จากพระเจ้า)

ส่วนเขาไม่รู้เรื่องด้วยว่าเราเกลียด พอเดินมาเจอหน้าเรา
อาจจะยิ้มให้เรา โดยที่ไม่รู้ชะตากรรมอะไรเลยก็ได้
เมื่อเรามีภาพเป็นกายเดียวกันเราย่อมไม่ทำลาย ทำร้ายร่างกายเราเอง
เพราะว่าไม่มีผู้ใดเกลียดชังเนื้อหนังของตนเอง มีแต่เลี้ยงดูและทนุถนอม เหมือนพระคริสต์ทรงกระทำแก่คริสตจักร  เอเฟซัส 5:29
ผมอาจจะมีผิวดำ แต่ผมไม่มีทางลอกหนังตัวเองออกแน่นอน ผมไม่อยากเป็นกบที่โดนถลกหนัง

พี่น้องเชื่อไหมครับว่าเราเป็นกายเดียวกัน เราเป็นร่างกายเดียวกัน
เรารักอวัยวะทุกอย่างในร่างกายเราไหม ถ้าคุณไม่พอใจ ผมขอได้ไหม ขอตัดทิ้ง
ใครที่เจ็บ พระเยซู

ความรักตอนนี้ คือให้เรารักศัตรู และกระทำต่อเขาด้วยความรัก
ผมเคยได้ฟังบางคนพูดว่า รักนะแต่ไม่แสดงออก
ถ้าใครเห็นด้วยกับคำนี้ ถ้าพระเยซูบอกว่ารักนะแต่ไม่แสดงออกกับเราบ้างล่ะ

เมื่อเรานมัสการ ร้องเพลงไปเถอะ…………………….อะ
ร้องจนตับไต ไส้พุง จะหลุดออกมาทางปาก ขอพระเจ้า
สำแดงความรัก เราก็จะไม่พบ
ถ้าพระเจ้าบอกว่า ใกล้ตายจริงๆก่อน เดี๋ยวเราจะมาช่วย ล่ะ
ในหนังในละคร บางเรื่อง มักจะบอกรักกันตอนจะตาย น่ะครับพี่น้อง
ผะ ผะ ผม ระ ระ รักคุณ
ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น
**แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง

1 เปโตร 4:8
ที่สำคัญยิ่งกว่าอะไรหมดก็คือจงรักซึ่งกันและกันให้มาก
เพราะว่าความรักลบล้างความผิดมากมายได้


ถ้าเราตอบแทนความโกรธด้วยความโกรธจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ถ้าเราตอบแทนความโกรธด้วยความรักล่ะพระคัมภีร์บอกเราว่า
ความรักลบล้างความผิดมากมายได้ ถ้าเรามีความโกรธและ
ความเกลียดชัง ความเกลียดชังเร้าให้เกิดการวิวาท
** แต่จงรักศัตรูของท่านทั้งหลาย และทำการดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืนอีก บำเหน็จของท่านทั้งหลายจึงจะมีบริบูรณ์  รวมถึงพระพรด้วย
พระเยซูบอกว่า ยกหนี้ให้หมดแล้ว แต่เราขอบคุณพระเจ้า แต่เราไม่ยกโทษให้พี่น้อง
มาถึงตรงนี้ จงรักศัตรู หลายคนอาจจะบอกว่า อาเมนนน
แต่ข้างในนี่ ชาตินี้ เอ็งกับข้าอย่าได้เจอกัน พระเจ้าบอกว่า

จงให้อภัยแก่ศัตรู
โลกนี้บอกว่า จงให้อภัยและลืมๆมันไปซะ
แต่พระเจ้าบอกว่า จงให้อภัยและต้อนรับเขากลับมาด้วยความรัก
พระเยซูบนไม้กางเขนพระองค์ก็ทนอับอาย เยาะเย้ย เหยียดหยาม แต่พระองค์ไม่ได้บอกรักเฉพาะคนที่เชื่อพระองค์ แต่ทุกคนที่ทำร้ายพระองค์
มันเป็นอุบายของซาตานอีกแล้วที่ทำให้ ความรัก มลายหายไป
เราเป็นพระฉายที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา เขาล้อเลราก็เท่ากับล้อเลียนการทรงสร้าง

และอย่าเรียกร้องการชดใช้หนี้เลย ยกหนี้ให้เขาจนหมด

จำเรื่องที่ ทาสคนหนึ่งได้รับการยกหนี้จากนาย
แล้วออกมาขูดรีดหนี้กับเพื่อนทาสด้วยกันได้ไหมครับ

ถามว่า  ยากมั๊ยครับ
ถ้ามีคนโกงเงินคุณไป คุณจะรักเขาได้ไหม
ถ้ามีคนด่าคุณ นินทาคุณ เพื่อให้คุณพินาศ คุณจะรักเขาได้ไหม
วิธีจัดการกับคำนินทา 3 วิธี
-    ยอมแพ้และเลิกล้มการรับใช้
-    อดทนและรับใช้ต่อไปด้วยความขมขื่น
-    เอาชนะด้วยความรักของพระเจ้า …ใครจะว่าเราหน้ามึนก็ไม่เป็นไร

ถ้ามีคนทำให้เราเจ็บปวดในเรื่องอะไรก็ตาม คุณจะรักเขาได้ไหม
2 ทิโมธี เมื่อเราดำเนินตามพระองค์ เราต้องเจอการข่มเหง
แต่พระเจ้าสัญญาว่าจะมาสถิตอยู่กับเราและเสริมกำลังเรา
ในพระธรรม ฟีเลโมน ความรักของฟีเลโมน ได้มีไปถึงทาสของเขาที่ทรยศเขาด้วย
เมื่อเปาโลได้เขียนจดหมายถึง ฟีเลโมน
ว่าให้เขายกโทษให้กับ โอเนสิมัสแล้ว
ยังให้เขารับ โอเนสิมัสกลับเข้าทำงานเหมือนเดิมด้วย
** แล้วใครเล่าจะทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้าได้ อะไรก็ตามไม่มีอะไร
ทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้าได้ และเราจะมีชัยเหลือล้นโดยพระองค์


นี่เป็นภาพที่งดงามที่แสดงถึงพระเยซูคริสต์ทรงชดใช้หนี้แทนเรา
พระองค์ทรงชดใช้ทั้งหมด
ความรักที่แท้จริง คือการชดใช้และยอมรับผู้ที่กลับใจแล้ว
มัทธิว 5:43,44
ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า จงรักคนสนิท และเกลียดชังศัตรู
ฝ่ายเราบอกท่านว่า จงรักศัตรูของท่าน และจงอธิษฐานเพื่อผู้ที่ข่มเหงท่าน
** อะไรจะโปรโมชั่นขนาดนั้น ลดแลกแจกแถมสุดๆ
ในลูกา 6:25-35 ได้บอกสิ่งที่เราปฏิบติจ่อศัตรูของเรา
-    จงรักศัตรู
-    จงทำดีแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน
-    จงอวยพรแก่คนที่แช่งด่าท่าน
-    จงอธิษฐานเผื่อคนที่เคี่ยวเข็ญท่าน
-    ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันอีกข้างให้ตบด้วย เขาหลอกให้เราเดินไป 1 กม ก็เดินแถมไปอีก 1 กม
-    ใครยึดเอาเสื้อคลุมของท่านไป ถ้าเขาจะเอาเสื้อตัวในด้วยก็อย่าหวง
-    ใครริบเอาของไปอย่าทวงคืน
นี่คือความรัก
บำเหน็จของท่านจึงจะมีบริบูรณ์
และนี่คือพระพร
เราไม่ควรจะแก้แค้นจริงๆ พระเยซูเรียกร้องไม่ให้เราแก้แค้น
** หนังจีนชอบบอกว่า แค้นนี้ต้องชำระ แต่พระเจ้าสอนเราว่า แค้นนี้ต้องชำระ
อ่านไม่ผิดครับ คือชำระตัวเอง  (คือชำระตัวเอง ใจของตัวเอง)

1 เปโตร 1:22 
ที่ท่านทั้งหลายได้ชำระจิตใจของท่านให้บริสุทธิ์แล้ว ด้วยการเชื่อฟังความจริง จนมีใจรักพวกพี่น้องอย่างจริงใจ ท่านทั้งหลายจงรักกันให้มากด้วยน้ำใสใจจริง
ความรักที่จริงใจคือการให้ โดยไม่คิดถึงตนเอง ดังนั้น
คนที่คิดแต่ตนเองก็ไม่สามารถที่จะรักใครได้จริงๆเลย

ถ้าเราพยายามด้วยกำลัง มันจะยาก
แต่ความรักที่พระเจ้าใส่ในเรา คือพระวิญญาณแห่งความรัก
เพียงเราเชื่อฟัง เราจะทำได้ นี่คือหนทางที่ถูก
วันนี้ เพียงเรารับเอาความรักจากพระเจ้าแล้ว
เราต้องสำแดงความรักด้วย
ความรักคือรากฐาน ที่มั่งคง แม้ว่าแผ่นดินจะไหว เราก็จะไม่ล้ม
วันนี้เราไม่ได้ฟังเรื่อง เทศกาล เรื่องเดือน ที่เราเรียกยากๆ
จงมีความรักครับ
ความรักไม่ทำอันตรายเพื่อนบ้านเลย เหตุฉะนั้นความรักจึงเป็นการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน

พระองค์ปกป้องเราเพื่อไม่ให้หันกลับเข้าไปหาความยุติธรรมด้วยกำลังตนเอง
การแก้แค้นเป็นของพระเจ้า
หน้าที่เราคือรักและอธิษฐานเพื่อเขา
สิ่งนี้ทำให้เราสามารถเอาชนะความชั่วด้วยความดี

เป็นเรื่องไม่ยากนักที่เราจะไม่ทำร้ายผู้อื่น
แต่กลับยากที่จะริเริ่มทำสิ่งดีๆแก่ผู้อื่น
** เราทุกคนต่างเป็นพวกตัวปัญหาที่มารวมตัวกัน ในยุคสมัยของพระเยซู
สาวกที่ติดตามพระองค์แท้ๆ ยังมีปัญหา ทะเลาะกัน แก่งแย่งกันว่าใครจะได้เป็นใหญ่
ใครจะนั่งซ้ายหรือขวา
…แต่พระองค์ทรงมีความรักและให้อภัยเขา อดทนต่อพวกเขาแต่ละคน
จงเรียนที่จะผ่านหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน
จงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
“เพราะความรักนั้นย่อมผูกพันทุกสิ่ง
ไว้ให้ถึงความสมบูรณ์”
ถ้าเรามีความรักต่อพระเจ้า เราเองจะรักผู้อื่นได้
ถ้าเราเองมีหัวใจแบบพระเจ้า เราเองจะรักผู้อื่นได้
เพราะพระองค์ทรงเป็นความรัก

ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ที่ทรงเรียกท่านก็เพื่อให้มีเสรีภาพ อย่าเอาเสรีภาพของท่านเป็นช่องทางที่จะปล่อยตัวไปตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด   กาลาเทีย 5:13
พระเจ้าทรงเป็นความรัก และพระวิญาณที่อยู่ภายในเราก็เป็นความรัก
เมื่อพระองค์ประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้เรา
คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราต้องเป็นต้นไม้ที่ออกผล
ผลแห่งความรัก
ดังนั้นชีวิตโดยพระวิญญาณ
คือ พระเจ้าให้เรามีเสรีภาพ แต่อย่าใช้เสรีภาพ
เพื่อวิสัยบาปตนเอง คือเนื้อหนัง
แต่จงรับใช้กันด้วยความรัก
การใช้เสรีภาพเพื่อเนื้อหนัง ความจริงไม่ใช่เสรีภาพ แต่เป็นการผู้มัดและตกเป็นทาส
ความรัก คือการอุทิศตนโดยไม่มีเงื่อนไข  
ความรักคือกุญแจที่ไขไปสู่ของผลฝ่ายวิญญาณทั้งหมด
คลิ๊กรูปดูขนาดใหญ่


ลองอ่านออกเสียง แทนพระนามพระเยซูแทนความรัก
และแทนชื่อเราเองในความรัก
1 โครินธ์ 13:4-8
ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว
ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด
ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ
ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
ความรักไม่มีวันสูญสิ้น แม้การเผยพระวจนะก็จะเสื่อมสูญไป แม้การพูดภาษาแปลกๆนั้นก็จะมีเวลาเลิกกัน แม้วิชาความรู้ก็จะเสื่อมสูญไป

ความรักตรงข้ามกับความบาป ความบาปคือสิ่งที่ไม่ใช่ลักษณะของพระเจ้า
ความรักเป็นการซ่อมแซมรอยแตกระหว่างกัน
ความรักรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ที่แตกสลายและถูกทำลาย
ความรักลบล้างผลร้ายต่าง ๆ
ความรักแสวงหาและวิ่งตามศัตรู และเอาชนะมันให้ได้
ความรักมีความกล้าหาญต่ออีกฝ่ายแม้เขาไม่อยากจะฟัง
มัทธิว 5:23-24
เหตุฉะนั้นถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นแล้ว และระลึกได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา กลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน
เมื่อเราคืนดีกันด้วยความรักแล้ว และเราก็ให้อภัยกันด้วยความรักแล้ว
พลังของกายเดียวจะเป็นพลังที่รวมของประทานและเป็นพลังขับเคลื่อนไป
เราจะเป็นเครื่องบูชาอันหอมที่พระเจ้าพอพระทัย

 เราจะได้ดื่มด่ำกับความรักของพระเจ้า
ไม่แค่เราคนเดียวที่จะได้รับ แต่ทั้งคริสตจักรเราจะดื่มด่ำกับความรักด้วยกัน
พระพรของฉันอยู่บนทางนั้น จะเป็นจริงในชีวิตพี่น้อง
อธิษฐาน

บัญญัติของใหญ่คือความรัก และความรักเป็นกุญแจ
ที่จะเข้าสู่ประตูแห่งพระพรด้วย เรารอคอยพระพรนานหรือยัง
ถ้านานแล้ว เราได้ใช้กุญแจดอกนี้หรือยัง
ตั้งแต่นี้ไปเราประกาศการยุติกิจการทั้งหมดของซาตาน
ที่ล่อลวงเราให้ออกจากความรักของพระเจ้า เราประกาศว่า เอ็งแพ้แล้วว
แผนการทั้งหมดสิ้นสุดนับแต่บัดนี้ คริสตจักรนี้จะเป็นคริสตจักรแห่งความรัก



ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2554 เวลา 09:02

    ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณสำหรับชีวิตใหม่จากความรักของพระองค์

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นความรักครับ อาเมน

    ตอบลบ