วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เทศกาลอยู่เพิง และความหมายของเพิง

เทศกาลอยู่เพิง และความหมายของเพิง
http://us.123rf.com/450wm/vectomart/vectomart1109/vectomart110900164/10703862-illustration-of-sukkah-decorated-with-leaves-and-fruit-for-sukkot.jpg

คำภาษาฮีบรูพลับพลา Sukkah มีความหมายว่า "บูธ, กระท่อม, คลอบคลุม, ศาลาหรือเต็นท์" ภาษากรีกคำว่าพลับพลาเป็น Sk'en'e หมายถึง "เต็นท์ กระท่อมหรือที่อยู่อาศัย"
บริบทพลับพลาในพันธสัญญาใหม่ (Brit Hadashah)

1. Yeshua tabernacled (Sukkot) พระเยซู
ยน. 1:14 พระวาทะทรงเกิดเป็นมนุษย์และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิริของพระองค์ คือ พระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง

2. เปโตร (Kefa) ได้พูดถึงร่างกายของเขา
2ปต. 1:13 ตราบที่ข้าพเจ้ายังอยู่ในกายนี้ ข้าพเจ้าเห็นสมควรที่จะฟื้นความจำพวกท่าน
2ปต. 1:14 เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าอีกไม่นานข้าพเจ้าก็จะตาย ดังที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้ทรงแจ้งแก่ข้าพเจ้าแล้ว

3. อัครทูตเปาโล บอกว่าเรือนกายในโลกนี้ของเราคือบ้านหรือเต็นท์
2คร. 5:1 เพราะเรารู้ว่าถ้าเรือนกายบนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ถูกทำลายไป เราก็ยังมีที่อาศัยซึ่งมาจากพระเจ้า ที่ไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์ และอยู่อย่างถาวรนิรันดร์ในสวรรค์
2คร. 5:2 เพราะว่าในร่างกายนี้ เราคร่ำครวญและปรารถนาจะสวมใส่ที่อาศัยของเราที่มาจากสวรรค์
2คร. 5:3 เพราะเมื่อสวมแล้ว เราก็จะไม่เปลือย
2คร. 5:4 เพราะว่าเราที่อยู่ในเรือนกายนี้คร่ำครวญและเป็นทุกข์หนัก ไม่ใช่เพราะปรารถนาจะอยู่ตัวเปล่า แต่ปรารถนาจะสวมใส่กายใหม่ เพื่อกายที่ต้องตายนั้นจะถูกกลืนโดยชีวิตอมตะ
2คร. 5:5 แต่พระเจ้าทรงเป็นผู้เตรียมเราไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ และพระองค์ประทานพระวิญญาณเป็นมัดจำแก่เรา

4. พลับพลาของโมเสส เป็นเต็นท์
กจ. 7:44 “บรรพบุรุษของเราเมื่ออยู่ในถิ่นทุรกันดารก็มีเต็นท์แห่งสักขีพยาน ตามที่พระองค์ทรงสั่งไว้เมื่อตรัสกับโมเสสว่าให้ทำเต็นท์ตามแบบที่ได้เห็น

ฮบ. 9:2 เพราะว่าพลับพลาจัดเตรียมเสร็จแล้วในห้องชั้นนอกนั้น มีคันประทีป โต๊ะ และขนมปังเฉพาะพระพักตร์ ห้องนี้เรียกว่า วิสุทธิสถาน
ฮบ. 9:3 และข้างหลังม่านชั้นที่สองมีห้องซึ่งเรียกว่า อภิสุทธิสถาน
ฮบ. 9:4 ห้องนั้นมีแท่นทองคำสำหรับเผาเครื่องหอม และมีหีบพันธสัญญาหุ้มด้วยทองคำทุกด้าน ภายในนั้น มีโถทองคำบรรจุมานา มีไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูม และมีแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญา
ฮบ. 9:5 เหนือหีบนั้น มีตัวเครูบแห่งพระสิริ กางปีกคลุมพระที่นั่งกรุณานั้น สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจพรรณนาให้ละเอียดตอนนี้ได้
ฮบ. 9:6 เมื่อจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างนั้นแล้ว พวกปุโรหิตก็เข้าไปในห้องชั้นนอกนั้น ทุกครั้งที่ประกอบศาสนพิธี
ฮบ. 9:7 แต่ในห้องที่สองนั้นมีมหาปุโรหิตผู้เดียวเท่านั้นที่เข้าไปได้ปีละครั้งและต้องนำเลือดเข้าไปถวายเพื่อตัวเอง และเพื่อบาปที่ประชาชนทำโดยไม่เจตนาด้วย
ฮบ. 9:8 โดยสิ่งนี้เอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงทรงสำแดงว่า ทางที่นำเข้าสู่สถานศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่เปิด ตราบใดที่ห้องชั้นนอกนั้นตั้งอยู่

5. อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ อาศัยอยู่ในเต็นท์
ฮบ. 11:8 โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮัมได้รับการทรงเรียกให้ออกเดินทางไปยังที่ที่ท่านจะรับเป็นมรดก ท่านก็เชื่อฟังและเดินทางออกไปโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
ฮบ. 11:9 โดยความเชื่อ ท่านได้อาศัยในแผ่นดินแห่งพระสัญญาเหมือนเป็นคนต่างด้าว โดยพักอยู่ในเต็นท์ร่วมกับอิสอัคและยาโคบผู้เป็นทายาทตามพระสัญญาเดียวกันนั้น

6. พลับพลาของดาวิด
กจ. 15:16 ‘ภายหลังเราจะกลับมา และเราจะสร้างพลับพลาของดาวิดซึ่งพังลงแล้วขึ้นใหม่ ที่ย่อยยับนั้นเราจะก่อขึ้นอีก และจะตั้งขึ้นใหม่

อมส. 9:11 “ในวันนั้น เราจะยกเรือนของดาวิดที่ล้มลงแล้วนั้น ตั้งขึ้นใหม่ และซ่อมส่วนต่างๆ ที่ชำรุด และยกที่ปรักหักพังขึ้น และสร้างใหม่อย่างในสมัยโบราณ

พลับพลาวิหารซาโลมอน
1พกษ. 5:2 และซาโลมอนได้ส่งพระดำรัสไปยังฮีรามว่า
1พกษ. 5:3 “ท่านคงทราบอยู่แล้วว่า ดาวิดพระราชบิดาของเราไม่ทรงสามารถสร้างพระนิเวศ สำหรับพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ได้ เพราะสงครามล้อมรอบพระองค์อยู่ จนกว่าพระยาห์เวห์จะทรงปราบศัตรูให้อยู่ใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์
1พกษ. 5:4 แต่บัดนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงให้ข้าพเจ้าได้หยุดพักรอบด้าน ปฏิปักษ์หรือเหตุร้ายก็ไม่มี
1พกษ. 5:5 ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงประสงค์จะสร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ดังที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้กับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘บุตรชายของเจ้า ผู้ที่เราจะตั้งไว้บนบัลลังก์แทนเจ้า จะสร้างพระนิเวศสำหรับนามของเรา’

1 พกษ. 8:1-21

7. Yeshua (พระเยซู) เสด็จเข้ามาในงานฉลองเทศกาลอยู่เพิง (sokkot)

ยน. 7:2 ขณะนั้นใกล้จะถึงเทศกาลอยู่เพิงของพวกยิวแล้ว

ยน. 7:27 แต่เรารู้แล้วว่าคนนี้มาจากไหน เพราะเมื่อพระคริสต์เสด็จมา จะไม่มีใครรู้เลยว่าพระองค์มาจากไหน”
ยน. 7:28 แล้วพระเยซูก็ทรงประกาศขณะทรงสั่งสอนอยู่ที่บริเวณพระวิหารว่า “พวกท่านรู้จักเราและรู้ว่าเรามาจากไหน เราไม่ได้มาตามลำพังเราเอง แต่พระองค์ผู้ทรงใช้เรามานั้นสัตย์จริงและพวกท่านไม่รู้จักพระองค์
ยน. 7:29 เรารู้จักพระองค์ เพราะเรามาจากพระองค์และพระองค์ทรงใช้เรามา”

8. พระคัมภีร์พูดถึงพลับพลาสวรรค์
ฮบ. 8:1 สรุปประเด็นสำคัญของเรื่องที่เราพูดอยู่นี้คือ เรามีมหาปุโรหิตอย่างนี้ ผู้ประทับเบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้าในสวรรค์
ฮบ. 8:2 เป็นผู้ปฏิบัติกิจในสถานศักดิ์สิทธิ์และในพลับพลาแท้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตั้งไว้ ไม่ใช่มนุษย์ตั้ง

วว. 13:6 มันเปิดปากของมันพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า พูดหมิ่นประมาทต่อพระนามของพระองค์ ต่อสถานที่สถิตของพระองค์ และต่อพวกที่อยู่ในสวรรค์

วว. 15:5 หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นพระวิหารคือเต็นท์แห่งสักขีพยานในสวรรค์เปิดออก

พลับพลาสวรรค์นี้จะมาในโลก
วว. 21:1 และข้าพเจ้าเห็นฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะว่าฟ้าสวรรค์เดิมและแผ่นดินโลกเดิมนั้นหายไปแล้ว และทะเลก็ไม่มีอีกต่อไป
วว. 21:2 และข้าพเจ้าได้เห็นนครบริสุทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้เตรียมพร้อมเหมือนอย่างเจ้าสาวที่แต่งตัวไว้สำหรับสามี
วว. 21:3 ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระที่นั่งว่า “นี่แน่ะ ที่ประทับของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว และพระองค์จะประทับกับเขาทั้งหลาย พวกเขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ พระเจ้าเองจะสถิตกับเขา และจะทรงเป็นพระเจ้าของเขา

9. Yeshua (พระเยซู) ทรงเป็นพลับพลาที่แท้จริงของพระเจ้า

ฮบ. 9:11 แต่เมื่อพระคริสต์เสด็จมาในฐานะมหาปุโรหิตแห่งบรรดาสิ่งประเสริฐซึ่งมาถึงแล้ว พระองค์ก็เสด็จเข้าไปสู่พลับพลาที่ใหญ่และสมบูรณ์ยิ่งกว่าแต่ก่อน (ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ คือไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างของโลกนี้)

ดังนั้น sukkah จึงเป็นที่อยู่อาศัยเพียงชั่วคราว ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นสิ่งชั่วคราว

ที่มา : http://www.hebroots.com/sevenfestivals_chap9.htm

ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น