การพูดแง่บวก
อย่างที่ได้กล่าวไปในบทความก่อนๆคือ ความคิดในด้านบวกบางครั้งก็อาจจะขัดกับสถานการณ์นั้นๆไม่มีความสมเหตุสมผลที่จะคิดบวกๆเลย แต่หนุนใจนะครับการที่จะเอาชนะความกดดันได้นั้น คืออย่ามีความรู้สึกกดดัน จนนานเกินไป รีบกำจัดมันออกไป ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งกำจัดยาก เหมือนรากที่หยั่งลึก ให้เราลองเปลี่ยนความคิดดู เมื่อเราพบกับสภาวะความกดดัน
ต่อมาเมื่อมีความคิดบวกแล้วเราก็จะพูดบวก พระคัมภีร์หลายตอนสอนเราเรื่องลิ้น ไม่ใช่การพูดอะไรที่ไม่ใช่ความจริง คนที่มีหนี้สิน จะพุดว่า “ฉันไม่มีหนีสิน” ได้อย่างไร บางครั้งเราอาจจะตั้งใจดีในการใช้ความว่าป่าวประกาศ เพื่อหักล้างบางสิ่งที่ถ่วงชีวิตของเรา สิ่งนี้คือการ โกหก แต่ไม่ใช่การพูดบวก
หรือเวลา ไม่สบาย จะบอกว่า “โอ๊ยย..ฉันสบายดี” “ฉันแข็งแรงดี” ไม่เป็นอะไรเลย นี่ก็เป็นการโกหกเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า หดหู่และจมพูดแต่ว่าฉันไม่สบาย ฉันแย่แล้ว มันแย่เหลือเกิน ก็ไม่ใช่แบบนั้นด้วยกัน
พระเจ้าทรงสอนให้เราเรียกสิ่งที่ไม่เคยมี ให้เกิดมีขึ้นและ พระองค์ก็ไม่เคยสอนให้เราให้เรียกสิ่งที่มีอยู่แล้วว่าไม่มี พระเจ้าไม่เคยสอนให้เราหลอกตัวเองหรือ หลอกคนอื่นแต่ให้ยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นและทรงสอนให้เราพูดคือการป่าวประกาศถ้อยคำแห่งชีวิตด้วยความเชื่อ ความหวังใจ พูดอวยพร เรียกสิ่งดีๆ ที่ยังไม่มีให้ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ดังนั้น คนที่เป็นหนี้ ควรกล่าวว่า "ฉันจะหมดหนี้" และ "ฉันจะหลุดจากการเป็นหนี้" หรือ
"พระเจ้าจะทรงช่วยฉันให้พ้นจากการเป็นหนี้" อาเมน
คนที่ป่วย ก็ควรกล่าวว่า "ฉันหายแล้ว" หรือ "พระเจ้ารักษาฉันแล้ว" "สุขภาพฉันจะดีขึ้นทุกวัน ๆ"
อาเมน
จงพูดในแง่บวก ยก. 3:10 คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้น
สภษ. 12:18 คำพูดพล่อยๆ เหมือนดาบแทง แต่ลิ้นของคนมีปัญญานำการรักษามาให้
ขอบคุณบทความบางส่วน อ.ชาญชิต คจ อบันดันท์ไลฟ์
ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่าน
ชาโลม
ktm.Emunah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น