จงอดทน
“ความอดทนของผู้เชื่อ”
ถ้าเราอ่านพระคัมภีร์ จะมีหลายตอนเลยที่บันทึกว่า "จงอดทน" การอดทนนาน และจงอดทนต่อทุกสิ่ง อดทนต่อการทดสอบหรือทดลอง อดทนต่อคนอธรรมที่ไม่ยุติธรรมกับเรา อดทนต่อปัญหาความทุกข์ยากลำบาก อดทนต่อกันและกัน (จงรักเพื่อนบ้าน) เจออะไรก็ต้องอดทน โดนตบแก้มอีกข้าง ก็หันอีกข้างให้ตบด้วย จริงๆแล้ว การอดทน ในพระคัมภีร์ที่บันทึกไว้หมายถึงอะไร
พระวจนะบันทึกว่า “ความรักก็อดทนนาน” เราต้องมีความรัก ความหวังใจในพระเจ้า แต่ต้องมีพระวจนะเป็นฐานที่มั่น เพราะเมื่อเรามีพระวจนะรากฐานก็มั่นคงไม่หวั่นไหว แม้ในคราวที่เจอกับการทดลอง ความทุกข์ยากลำบาก ความอยุติธรรมหรือแม้แต่ถูกข่มเหง
วว. 14:12 นี่แหละคือความทรหดอดทนที่พวกธรรมิกชนจะต้องมี คือพวกที่ถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า และจงรักภักดีต่อพระเยซู
ความอดทน สำหรับผู้ที่เชื่อ ไม่ได้หมายถึง การที่ต้องอดทน เพื่อแช่ตัวเองหรือจมอยู่ในการทดลอง
- อดทนต่อคนที่ไม่น่ารัก (คนที่ทำร้ายเรา)
- อดทนในความทุกข์ยากลำบากต่อไป ทนมันต่อไปเรื่อยๆ
- อดทนให้คนที่ทำร้ายเรา กระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องกับเรา หรือคนอธรรม
- อดทนในความเจ็บป่วย ความยากจน ขัดสน แม้แต่แรงกดดันต่างๆ บางครั้งเราตีความพระวจนะว่า เจออะไรก็ต้องอดทน เพราะนี่คือน้ำพระทัยที่มาจากพระเจ้าที่จะฝัดร่อนเรา หรือเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้กำลังเขย่าเรา เพื่อจะสอนเราว่าต้องอดทน และที่สำคัญการ อดทนแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะเติบโตขึ้นเมื่อผ่านไปได้
สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นความอดทนที่ไม่ถูกต้องตามจุดมุ่งหมายของพระวจนะ และอาจะผิดพลาดอย่างมากเพราะว่า
- คนที่แช่ตัวหรือจมตัวเองอยู่ในการทดลอง เกือบ 100% ล้มลง
- คนที่ไม่น่ารัก คนที่คิดร้ายกับเราเราเลือกได้และมีสิทธิ์ที่จะถอยห่างออกมาจากเขา โดยยังคงซึ่งความรัก บางครั้งการเผชิญหน้าไม่ได้หมายถึงเข้มแข็ง และการถอยออกมาหาใช่ความพ่ายแพ้หรือขาดความรักและไม่อดทน
เรายังรักเขาต่อไป แต่ไม่ใช่อดทนแบบผิดๆ จนทนไม่ไหว เมื่อระเบิดทำงานเหตุการณ์กลับจะยิ่งเลวร้าย กลายเป็นขุ่นเคืองใจ รากขมชื่น อยู่ภายในเราเอง
- เราสามารถสั่งความทุกข์ยากลำบากให้ออกไปได้ และเรียกความอุดมสมบูรณ์เข้ามาในชีวิตได้
- เราสั่งให้ความเจ็บป่วยให้ออกไปได้ โดยพระนามพระเยซูคริสต์ และเรียกเอาสุขภาพที่ดีให้เกิดขึ้นในเรา ด้วยความเชื่อเพราะนี่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า
เราเป็นลูกของพระเจ้า และพระเจ้าพระบิดาได้ทรงมอบสิทธิ์นั้นให้เราแล้ว และเราต้องใช้สิทธินี้ป่าวประกาศออกไปด้วยความเชื่อ ในการต่อต้านยุทธอุบายของมาร ใช้เรียกสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น ใช้เพื่อห้าม หรือขับไล่สิ่งเลวร้ายให้ออกไปจากชีวิตของเรา อย่าอดทนผิดๆ อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปเรื่อยๆ สถานการณ์อาจยากลำบากแต่จงตั้งมั่นคงอยู่ในความเชื่อ ซึ่งเป็นความอดทน ที่พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราอดทน ในพระวจนะมีพระสัญญาของพระเจ้ามากมาย จงมีความหวังใจว่าพระเจ้าจะนำเราให้ก้าวพ้นออกมาได้ทั้งหมด เพราะพระนามของพระองค์คือ "พระเยซู พระผู้ช่วยให้รอด" นั่นคือรอดจากความมืด ความเลวร้ายทั้งสิ้น จงเชื่อว่าพระเจ้าจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ความเศร้าโศกกลับเป็นความชื่นชมยินดี ดูชีวิตของ ดาเนียล โยบ โยเซฟ อับราฮัม ฯลฯ ความอดทนเป็นหนึ่งในผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์
กท. 5:22 ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์
ในพระคัมภีร์คำภาษาฮีบรู คำว่าอดทน มีอีกคำว่า "การอดกลั้นไว้นาน" (long suffering) ซึ่งเป็นหนึ่งในพระลักษณะที่สำคัญของพระเจ้า พระองค์ทรงอดกลั้นด้วยความรักและเป็นภาพของการเอื้อมมือออกสำแดงความรักต่อลูกๆของพระองค์
ในภาษากรีก อดทน (hupomonē) เป็นการถือและแบกขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก มันอาจจะแปลได้อีกว่า "ความอุตสาหะ,ความอดทน, หรือ ความคาดหวัง" บางครั้งในการแปลฉบับกรีกบางฉบับจึงใช้คำว่า ความคาดหวังของการอดทน หรือรอคอย ความอดทน ไม่ได้แสดงในภาพของความเพียรอดทนภายใต้แรงกดดัน แต่เพียรอดทนในความวางใจและความหวังในพระเจ้า
สดด. 71:5 โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นความหวังของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นที่วางใจ (มั่นใจ) ของข้าพระองค์ตั้งแต่เด็กๆมา
ยรม. 14:8 โอ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นความหวังแห่งอิสราเอล เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขาในยามลำบาก ไฉนพระองค์จะทรงเป็นเหมือนคนต่างด้าวในแผ่นดิน หรือเหมือนคนเดินทางแวะอาศัยค้างเพียงคืนเดียว
เมื่อเกิดความเจ็บป่วย หรือปัญหาอะไรก็ตาม ความอดทน จึงไม่ได้อดทนในสถานการณ์นั้น แต่ “อดทน” เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความหวังที่มั่นใจ ในการรอคอยพระเจ้า พระวจนะในสดุดี 33:20,37:7
สดด. 33:20 จิตใจของเราทั้งหลายรอคอยพระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์และเป็นโล่ของเรา
สดด. 37:7 จงสงบอยู่ต่อพระยาห์เวห์ และเพียรรอคอยพระองค์ อย่าฉุนเฉียวเมื่อคนพบความสำเร็จในทางของเขา หรือเมื่อคนทำตามแผนชั่ว
สดด. 37:8 จงระงับความโกรธ และละความพิโรธ อย่าฉุนเฉียว มีแต่จะชั่วไป
ในพระจนะตอนนี้ เตือนเราถึงการอดทนที่ผิดๆ ทนแบบทาส อยู่ภายใต้แรงกดดัน แช่ตัวอยู่ในการทดลองและปัญหาต่างๆ การอดทนเช่นนี้มีแต่จะทำให้เรามีความโกรธ มีโทสะ บางครั้งไม่สามารถพูดออกมาได้เพราะต้องทนเก็บอยู่ภายใน พระวจนะบันทึกว่า มีแต่จะนำไปสู่ความเลวร้าย
การดับไฟ เราสามารถเอาน้ำมาราด แต่การดับไฟที่เกิดจากความกดดันและการอดทนแบบผิดๆ คือการพึ่งพาในพระเจ้า พระองค์เป็นความหวังของเราและเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.emunah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น