วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

คริสตจักร คือผู้เชื่อที่ต้องบังเกิดใหม่

คริสตจักร คือผู้เชื่อที่ต้องบังเกิดใหม่ (ด้วยความรัก)


คริสตจักรคือผู้เชื่อ และผู้เชื่อนี้เองจะต้องบังเกิดใหม่ .. โดยทำพันธสัญญากับพระเจ้า คือกษัตริย์พระเมสิยาห์ ในรากฐานนั้น ความหมายจากรากเดิม ผู้เชื่อคสามารถตายแทนกันได้ แบบอัครทูตยุคแรก ความรักที่ว่านี้ไม่ใช่รักกันแค่ปาก และการพูดเท่านั้น .. คริสเตียนหลายครั้ง การนินทากันลับหลัง การวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยความสนุกปาก การใส่ไฟให้เกิดความแตกแยก (เหล่านี้พระคัมภีร์ใช้คำว่า..ไม่ต่างจากการฆ่าคน) การมองเห็นแต่ความผิดของคนอื่น (แต่ความรักคือเชื่อในส่วนดี) เหล่านี้ช่างห่างไกลนักจากการบังเกิดใหม่ จริงอยู่การตายแทนกันมันยากนัก ... แต่เรายอมรับพระคริสต์ที่สถิตภายใน ผู้เป็นผู้นั้นที่ทำสิ่งที่ว่ามาสำเร็จแล้ว เริ่มต้นที่การรักซึ่งกันและกัน โดยไม่มีเงื่อนไข รักในแบบที่เขาเป็น พยายามมองที่ส่วนดี มากกว่าการจับผิด .. การป่วนคลื่นใต้น้ำในคริสตจักร แค่นี้คริสตจักรจะมีเอกภาพ เป็นพระกายที่สมบูรณ์มากขึ้นสักเท่าไร พระคริสตื พระเมสิยาห์ผู้เป็นศีรษะจะได้รับเกียรติผ่านทางผู้เชื่อทั้งหลาย ความเป็นหนึ่งเดียวกันจะเกิด


ซาตานต้องการบิดเบือน พระกายที่สมบูรณ์ออกจากพระคริสต์ ... แม้เรายังตายแทนกันไม่ได้ และไปได้ไม่ถึงขั้นนั้น แต่จงมีความรักซึ่งกันและกัน


1โครินธ์ 13:4-7 ในอีกมุมมอง


4. ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้
- การอดทน แม้เขาจะทำให้เราโกรธเราหมั่นไส้แค่ไหน ทำไม่ถูกใจ ขัดลูกหูลูกตาแค่ไหน การตอบสนองด้วยความอดทน ไม่ใช่อดทนแบบกัดฟัน แต่อดทนด้วยความรัก

ความรักไม่อิจฉาไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง
- บางครั้งการนินทา การพูดลับหลัง การหาจุดผิด ก้เกิดจากความหมั่นไส้ ในการทำอะไรออกหน้าออกตา นั่นคือความอจฉา แต่ไม่ยอมรับว่าอิจฉา บางครั้งการขาดความรัก ก็ทำให้ต้องการการยอมรับ จนเกิดความหยิ่งจอมปลอม

5. ไม่หยาบคายไม่คิดเห็นแต่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดช่างจำความผิด
- ความหยาบคายไม่ใช่การพูดจากหยายเสมอไป แต่การหยายคาย คือการพูดดูถุกของประทานของอีกฝ่ายและการตัดสินด้วยคำพูดที่ถึงพริกถึงขิง ฉุนเฉียวในการกระทำทุกอย่างของเขา คนเราไม่อคติแล้ว ทำอะไรย่อมไม่ดีไปหมด และการขาดความรัก มักจำหรือจดจำแต่ความผิดและฝังใจ

6. ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ
- นี่แหละสำคัญนัก คนเราเมื่ออิจฉา หมั่นไส้กันแล้ว แม้เขาทำดีแค่ไหนก็ดูเลวและแย่ไปหมด แต่ไม่เคยดูตัวเอง คนพวกเดียวกัน วิญญาณเดียวกัน เมื่ออีกฝ่ายทำอะไร แม้ผิดแค่ไหน ก็หาจุดดีได้หมด กลายเป็นดีไปหมด เพราะเป็นพวกขาดความรัก เลยไม่มีความรักจะแจก มองผิดเป็นถูก แต่เมื่ออีกฝ่ายทำดี แต่การเกลียดทำให้เราขาดการชื่นชมยินดี

7. ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น
และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง

- ความผิดของคนอื่นมักร้ายแรง และเป็นขี้ปากคุยสนุก ไม่มองหาความดีของคนอื่น แต่ค้นแต่ความดี (จอมปลอม) ของตัวเอง เมื่อคนอื่นทำผิด (ผิดมาตรฐานที่ตัวเองตั้งขึ้นมาเอง)จึงทนไม่ได้ ไม่เคยเชื่อในส่วนดีของใคร ขาดวึ่งความหวัง

พระเจ้าเองเป็นแบบอย่างแก่คริสตจักรผู้เชื่อ ที่บังเกิดใหม่ พระองค์เอง รัก รัก รัก โดยไม่มีเงื่อนไข แม้บาปเราจะหนักแค่ไหน บาปที่รุนแรงแค่ไหน พระเจ้าไถ่เราด้วยชีวิตของพระองค์ พระองค์ไม่เคยเอาเราไปนินทา เอาเราไปฟ้องผิด พวกนินทา ฟ้องผิดคือซาตาน ที่ฟ้องผิดเรา พระองค์มีแต่ให้กำลังใจ ยืนเคียงข้าง จับและประคองเราไปด้วยกันกับพระองค์ พระองคืเชื่อในส่วนดีของเราเสมอ พระองคืมองหาจุดดีของเราและให้กำลังใจเรา พัฒนาสิ่งนั้นให้เรา พระองค์ทนต่อความดื้อดึงทุกอย่างของเราทั้งหลาย เมื่อเราสารภาพ บาปนั้นถุกจัดการไปและไม่ได้รับการจดจำจากพระองค์ เราจึงได้รับการชำระ  นี่คือส่วนน้อยนิดที่จะบรรยายความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งความรัก ... วันนี้เรามีพระองค์ไหม ที่อยู่ในเรา นั่งบนบัลลังก์ใจเรา ตราบใดที่เรายังฆ่าแกงกัน ด้วยคำพูดหยาบๆ การนินทา มองหาแต่ส่วนเสียของผู้อื่น และนำมาต่อยอด ขาดการให้อภัย ลิ้นนั้นแทนที่จะสรรเสริญ พุดสดุดี แต่นำมาใช้ฆ่าคน เราจะเรียกตัวเองว่าบังเกิดใหม่ได้หรือ ขอพระเจ้าเปลี่ยนแปลงเรา ไม่ว่าเราจะเคยทำสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่ามาก หรือน้อย เราเชื่อว่าเมื่อเรายอมรับ สารภาพ รับการเปลี่ยนแปลง คริสตจักรจะเป็นคริสตจักรที่สมบูรณ์ มีเอกภาพเป็นหนึ่งเดียว ... และใครล่ะจะต่อต้านเราได้ ขอพระเจ้าอวยพระพร เสริมกำลังเราทุกๆคน ในพระนาม เยชูวา ฮามาชียาห์ กษัตริย์พระเมสสิยาห์
ktm.worship

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น