วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็น บุคคล

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็น บุคคล
พระวิญญาณบริสุทธิ์ เราคุ้นเคยกับพระวิญญาณมาตลอดชีวิตของการเชื่อในพระเจ้า เราทั้งหลายได้รับการสอนมาตลอดว่า พระเจ้ามีสามพระภาคนั่นคือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกัน

หลายครั้งภาพพระลักษณะพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ของเราเป็นเช่นไร บางคนอาจจะเป็นไฟ ซึ่งไฟก็มีหลายอย่าง เช่นทรงเป็นไฟรัก ไฟแห่งการชำระ ไฟแห่งการคืนดี เราร้องเพลงขอไฟ ๆ จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ และก็มีภาพว่าพระองค์เป็นไฟ เป็นสายน้ำ สายน้ำแห่งพระวิญญาณ หลายคนมาคริสตจักรเพื่อจะรับพลัง มาเพื่อรับกำลัง และคาดหวังมีภาพว่าพระวิญญาณจะเป็นเสมือนของเหลวเหมือนน้ำที่ไหลได้ จึงมาเพื่อรับการเติมเต็ม

แต่พระวิญญาณทรงเป็นบุคคล พระองค์ไม่ได้เป็นแค่เพียงพลังงาน มองภาพของพระวิญญาณเป็นพลัง เป็นอำนาจ เป็นฤทธิ์เดช แน่นอนพระองค์มีฤทธิ์เดช มีพลัง ทรงอำนาจแต่นั่นไม่ใช่พระลักษณะของพระองค์เอง คนทั่วไปจะสนใจในเรื่องของพลังอำนาจที่มองไม่เห็น ยิ่งเป็นสังคมไทยที่อยู่กับบริบทของความเชื่อเดิม ๆ มาก่อนหน้านี้ พระองค์ไม่ใช่ของเหลว หรือไม่ใช่เป็นภาพของการเข้ามาเติมน้ำมันเติมพลัง

ความเป็นบุคคลของพระวิญญาณ การใช้สรรพนามเพศชาย ยอห์น 16.13 คำว่าพระองค์ในภาษากรีกนั้นเป็นเพศชาย

ยน. 16:13 เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงเสด็จมาแล้ว พระองค์จะนำพวกท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพลการ แต่พระองค์จะตรัสสิ่งที่พระองค์ทรงได้ยิน และพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่านถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

โรม 8.15 ประสบการณ์แรกของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คือความมั่นใจว่าพระองค์เป็นพ่อ (อับบา) ไม่ใช่ในเรื่องของการกลับใจ ไม่ใช่ภาษาแปลก ๆ แม้ที่กล่าวมาจะมีความสำคัญ แต่สิ่งที่พลุ่งออกมาคือ การเป็นลูกของพระองค์ เรียกพระองค์ว่าอับบาพระวิญญาณสถิต (ประทับ) อยู่ภายในเราทั้งหลายเราจึงควรมีความเข้าใจในพระลักษณะของพระองค์ หากเราอธิษฐานว่า “ขอพระเจ้า (หรือพระวิญญาณ) ร่วมมือกับเรา” คำพูดเช่นนี้เท่ากับเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง การอธิษฐานให้พระเจ้า (มา) ร่วมมือเท่ากับเปลี่ยนจุดศูนย์กลางมาที่ตัวเอง จึงต้องระมัดระวัง

ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น