เหตุผลที่เราควรยึดวันสะบาโตในพระคัมภีร์
สะบาโตหรือ ชับบาท (shabat) เป็นวันที่พระยาห์เวห์ทรงหยุดพัก และพระประสงค์ของพระองค์คือให้เราทั้งหลายหยุดพักด้วย รายละเอียดในวันนี้ผมจะไปแบ่งปันมากนัก แต่จะหนุนใจว่า ทำไมเราถึงต้องรักษาสะบาโตนี้ไว้ ซึ่งคือวันเสาร์ ตั้งแต่วันศุกร์ 18.00 น. – วันเสาร์ 18.00 น. เป็นเวลาที่เราจะหยุดพักจากการทำงานอันยุ่งเหยิง ธรรมเนียมของยิวนั้นเคร่งครัดนัก แม้แต่เปิดสวิทช์ไฟยังไม่ได้เลย จุดไฟหุงหาอาหาร ก็ไม่ได้ ห้ามทำการค้าขายทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงพระประสงค์ของพระเจ้านั้นไม่ได้ขนาดทำอาหารอะไรไม่ได้หรือ เปิดไฟไม่ได้ แต่เราหยุดจากการงานทั้งปวง การค้าขาย หยุดพักและเน้นความสัมพันธ์กับพระยาห์เวห์ ใช้เวลากับพระองค์ให้เต็มที่ในวันนั้น
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรทุกคนนะครับ
ถ้าคุณอ่านบทความนี้ในวันสะบาโต ขอกล่าวทักทายว่า “shabbat shalom”
เหตุผลที่เราควรยึดวันสะบาโตในพระคัมภีร์
**บางข้อถ้ามีซ้ำขอ อภัยด้วยนะครับ**
เหตุผลที่ 1 พระเจ้าเสร็จงานของพระองค์ในการสร้างและการพักผ่อนในวันที่ 7
(ปฐมกาล. 2:2-3, อพยพ 31:17)
2 วันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ 3 พระเจ้าจึงทรงอวยพรวันที่เจ็ด ทรงตั้งไว้เป็นวันบริสุทธิ์ เพราะในวันนั้นพระองค์ทรงหยุดพักจากการงานทั้งปวงที่พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างและทรงกระทำ
17 เป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับชนชาติอิสราเอลเป็นนิตย์ว่า ในหกวันพระยาห์เวห์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก แต่ในวันที่เจ็ดทรงหยุดพัก และหย่อนพระทัย’ ”
เหตุผลที่ 2
(อพยพ 31:14)
14 พวกเจ้าจงรักษาวันสะบาโต เพราะเป็นวันบริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ผู้ใดทำให้วันนั้นเป็นมลทินจะต้องถูกลงโทษถึงตายอย่างแน่นอน ถ้าผู้ใดทำงานใดๆ ในวันนั้น ผู้นั้นต้องถูกตัดออกจากการเป็นประชากรของเรา
เหตุผลที่ 3
(ปฐมกาล 1:26-27)
26 แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด” 27 พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง
เหตุผลที่ 4 วันเสาร์วันสะบาโตเป็นหนึ่งในบัญญัติ 10 ประการ
(อพยพ 20:8-11, เฉลยธรรมบัญญัติ 5:12-15)
8 “จงระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ 9 จงทำงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน 10 แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นห้ามทำงานใดๆไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชายบุตรหญิงของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า 11 เพราะในหกวันพระยาห์เวห์ทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์ทรงอวยพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธิ์
12 ‘จงรักษาวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาไว้แก่เจ้า 13 จงทำงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน 14 แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นห้ามทำงานใดๆ ไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชายบุตรสาวของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือโคของเจ้า หรือลาของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพื่อทาสทาสีของเจ้าจะได้หยุดพักอย่างเจ้า 15 จงระลึกว่าเจ้าเคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ และพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าได้นำเจ้าออกมาจากที่นั่น ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และด้วยพระกรที่เหยียดออก ดังนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจึงทรงบัญชาให้เจ้ารักษาวันสะบาโต
เหตุผลที่ 5 เป็นสิ่งพระเจ้าตรัสสั่งไว้ให้รักษา สะบาโตของพระองค์
(อพยพ 31:13)
13 “เจ้าจงสั่งชนชาติอิสราเอลว่า ‘จงรักษาวันสะบาโตของเราไว้ เพราะนี่จะเป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับพวกเจ้าตลอดชั่วชาติพันธุ์ของพวกเจ้า เพื่อจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ ผู้ชำระเจ้าทั้งหลายให้บริสุทธิ์
เหตุผลที่ 6
(อพยพ 31:16)
16 ดังนั้น ชนชาติอิสราเอลจึงรักษาวันสะบาโตตลอดชั่วชาติพันธุ์ของพวกเขาเป็นพันธสัญญาเนืองนิตย์
เหตุผลที่ 7
(อพยพ 31:17)
17 เป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับชนชาติอิสราเอลเป็นนิตย์ว่า ในหกวันพระยาห์เวห์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก แต่ในวันที่เจ็ดทรงหยุดพัก และหย่อนพระทัย’ ”
เหตุผลที่ 8: สะบาโตถูกจารึกด้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้า
(อพยพ 31:18, เฉลยธรรมบัญญัติ 9:10)
18 เมื่อพระองค์ตรัสกับโมเสสบนภูเขาซีนายเสร็จแล้ว จึงประทานแผ่นพระโอวาทสองแผ่น เป็นแผ่นศิลาจารึกด้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้า
10 และพระยาห์เวห์ได้ประทานศิลาจารึกสองแผ่นที่ทรงจารึกด้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าแก่ข้าพเจ้า บนแผ่นจารึกนั้นมีพระวจนะทั้งสิ้นซึ่งพระยาห์เวห์ได้ตรัสกับท่านทั้งหลายบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวันที่ประชุมกันอยู่
เหตุผลที่ 9 พระเจ้าไม่ได้เปลี่ยนความคิดของพระองค์ที่ตรัสไว้แล้ว
(กันดารวิถี 23:19)
19 พระเจ้าทรงไม่ใช่มนุษย์ที่จะมุสา
และไม่ได้ทรงเป็นบุตรของมนุษย์ที่จะต้องกลับใจ
พระองค์จะไม่ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้วหรือ?
พระองค์จะไม่ทรงทำให้สำเร็จตามที่ทรงลั่นวาจาไว้แล้วหรือ?
เหตุผลที่ 10 สะบาโต(ธรรมบัญญัติ)ไม่ยาเกินไปสำหรับเรา
(เฉลยธรรมบัญญัติ 30:11)
11 “เพราะว่าพระบัญญัติซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ สำหรับท่านไม่ยากเกินไป และไม่ไกลเกินไปด้วย
เหตุผลที่ 11
(เนหะมีย์ 13:17)
17 แล้วข้าพเจ้าได้ต่อว่าพวกขุนนางแห่งยูดาห์ และพูดกับเขาว่า “ทำไมท่านทั้งหลายทำความชั่วร้ายเช่นนี้ ทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน
เหตุผลที่ 12 ผู้ที่รักษาวันสะบาโตเป็นผู้พระเจ้าทรงพอพระทัย
(อิสยาห์ 56:5)
4 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า
“เกี่ยวกับบรรดาขันทีผู้รักษาวันสะบาโตของเรา
ผู้เลือกในสิ่งที่เราพอใจ
และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
5 เราจะให้อนุสรณ์แก่เขาทั้งหลาย
ภายในนิเวศและภายในกำแพงของเรา
ที่ดีกว่าบุตรชายและบุตรหญิง
เราจะให้ชื่อนิรันดร์แก่เขาทั้งหลาย
ซึ่งจะไม่ถูกตัดออกเลย
เหตุผลที่ 13 ความสุขและสันติสุขมีแก่ผู้ที่รักษาวันสะบาโต
(อิสยาห์ 56:2)
2 ความสุขย่อมมีแก่คนที่ทำเช่นนี้
และแก่มนุษย์ผู้ยึดมันไว้มั่น
คือผู้รักษาวันสะบาโต ไม่ทำให้วันนั้นเสื่อมเสีย
และรักษามือของเขาจากการทำชั่วร้ายใดๆ
เหตุผลที่ 14 พระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ตัดผู้ที่รักษาวันสะบาโตในวันเสาร์
(อิสยาห์ 56:3-6)
3 “อย่าให้คนต่างชาติผู้เข้าจารีตถือพระยาห์เวห์กล่าวว่า
‘พระยาห์เวห์จะทรงแยกข้าจากชนชาติของพระองค์แน่’
และอย่าให้ขันทีพูดว่า
‘ดูสิ ข้าเป็นต้นไม้เหี่ยวแห้ง’ ”
4 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า
“เกี่ยวกับบรรดาขันทีผู้รักษาวันสะบาโตของเรา
ผู้เลือกในสิ่งที่เราพอใจ
และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
5 เราจะให้อนุสรณ์แก่เขาทั้งหลาย
ภายในนิเวศและภายในกำแพงของเรา
ที่ดีกว่าบุตรชายและบุตรหญิง
เราจะให้ชื่อนิรันดร์แก่เขาทั้งหลาย
ซึ่งจะไม่ถูกตัดออกเลย
6 “และคนต่างชาติผู้เข้าจารีตถือพระยาห์เวห์
เพื่อปรนนิบัติพระองค์และรักพระนามของพระยาห์เวห์
และเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตไม่ให้เสื่อมเสีย
และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
เหตุผลที่ 15 พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะนำเราไปยังภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์
(อิสยาห์ 56:7)
7 เราจะนำพวกเขามายังภูเขาบริสุทธิ์ของเรา
และทำให้เขาชื่นบานอยู่ในนิเวศอธิษฐานของเรา
เครื่องบูชาเผาทั้งตัวของเขาและเครื่องบูชาของเขา
จะเป็นที่โปรดปรานบนแท่นบูชาของเรา
เพราะนิเวศของเรานั้นเขาจะเรียกว่านิเวศอธิษฐาน
สำหรับทุกชนชาติ”
เหตุผลที่ 16 วันสะบาโตมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความปีติยินดี อย่าเหยียบย่ำสะบาโต
(อิสยาห์ 58:13)
13 ถ้าเจ้าหันเท้าจากการเหยียบย่ำวันสะบาโต
คือจากการทำตามใจของเจ้าในวันบริสุทธิ์ของเรา
และเรียกสะบาโตว่าวันปีติยินดี
และเรียกวันบริสุทธิ์ของพระยาห์เวห์ว่าวันมีเกียรติ
ถ้าเจ้าให้เกียรติวันนั้น ไม่ไปตามทางของเจ้าเอง
ไม่ทำตามความพอใจของเจ้า หรือพูดแต่เรื่องไร้สาระ
เหตุผลที่ 17
(อิสยาห์ 58:13)
13 ถ้าเจ้าหันเท้าจากการเหยียบย่ำวันสะบาโต
คือจากการทำตามใจของเจ้าในวันบริสุทธิ์ของเรา
และเรียกสะบาโตว่าวันปีติยินดี
และเรียกวันบริสุทธิ์ของพระยาห์เวห์ว่าวันมีเกียรติ
ถ้าเจ้าให้เกียรติวันนั้น ไม่ไปตามทางของเจ้าเอง
ไม่ทำตามความพอใจของเจ้า หรือพูดแต่เรื่องไร้สาระ
เหตุผลที่ 18
(อิสยาห์ 66:22)
22 “เพราะว่าสวรรค์ใหม่ และแผ่นดินโลกใหม่
ซึ่งเราจะสร้างขึ้นนั้น
จะดำรงอยู่ต่อหน้าเราอย่างไร
เชื้อสายของพวกเจ้าและชื่อของพวกเจ้าจะดำรงอยู่อย่างนั้น”
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
เหตุผลที่ 19 พระเจ้าทรงใช้สะบาโตเป็นเครื่องหมายเวลาเมื่อพูดถึงฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ แสดงให้เห็นว่าวันสะบาโตจะยังคงมีผลบังคับใช้ในโลกที่จะมา
(อิสยาห์ 66:23)
23 “จากวันขึ้นค่ำถึงอีกวันขึ้นค่ำ
และจากวันสะบาโตถึงอีกวันสะบาโต
มนุษย์ทั้งหมดจะมานมัสการต่อหน้าเรา”
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
เหตุผลที่ 20
(เพลงคร่ำครวญ 2:6)
6 พระองค์ทรงพังพลับพลาของพระองค์เหมือนเพิงในสวน
ทรงทำลายสถานที่ประชุมของพระองค์
พระยาห์เวห์ทรงทำให้ทั้งเทศกาลเลี้ยงและวันสะบาโต
หมดสิ้นไปในศิโยน
ด้วยพระพิโรธเกรี้ยวกราด พระองค์ทรงดูถูก
กษัตริย์และปุโรหิต
เหตุผลที่ 21 พระองค์ให้วันสะบาโตเป็นเครื่องหมายระหว่างพระองค์และเราเพื่อเราจะรู้ว่าพระองค์คือพระเจ้า
(เอเสเคียล 20:12-24)
12 ยิ่งกว่านั้นอีก เราให้สะบาโตของเราแก่เขาทั้งหลาย เป็นหมายสำคัญระหว่างเราและเขา เพื่อเขาจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ เป็นผู้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ 13 แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลได้กบฏต่อเราในถิ่นทุรกันดาร เขาไม่ได้ดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และปฏิเสธกฎหมายของเรา ซึ่งถ้าใครรักษาก็จะดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่พวกเขาลบหลู่สะบาโตของเราอย่างหนัก
“แล้วเรากล่าวว่า เราจะระบายความโกรธของเราออกเหนือพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร และทำให้พวกเขาหมดสิ้นไป 14 แต่เราก็ทำโดยเห็นแก่นามของเราเอง เพื่อไม่ให้นามนั้นเสื่อมเกียรติในสายตาของประชาชาติทั้งหลาย คือพวกที่เราได้นำคนอิสราเอลออกมาต่อหน้าเขา 15 ยิ่งกว่านั้นอีก เราได้ปฏิญาณต่อเขาทั้งหลายในถิ่นทุรกันดารว่า ‘เราจะไม่นำพวกเขาเข้ามาในแผ่นดินซึ่งเราได้ให้แก่เขา’ เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ เป็นแผ่นดินงามที่สุดของแผ่นดินทั้งหมด 16 เพราะพวกเขาปฏิเสธกฎหมายของเรา และไม่ดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และลบหลู่สะบาโตของเรา เพราะว่าจิตใจพวกเขาไปติดตามรูปเคารพของเขา 17 ถึงกระนั้น ตาของเราก็ยังปรานีเขาทั้งหลาย และเราไม่ได้ทำลายเขา หรือทำให้เขาสูญสิ้นไปในถิ่นทุรกันดารนั้น
18 “และเราพูดกับบุตรหลานของพวกเขาในถิ่นทุรกันดารนั้นว่า ‘อย่าดำเนินตามกฎเกณฑ์บรรพบุรุษของเจ้า หรือรักษากฎหมายของเขา หรือทำให้ตัวเจ้าเป็นมลทินไปด้วยรูปเคารพของเขา 19 เราคือยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย จงดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเราและจงรักษากฎหมายของเรา และจงประพฤติตาม 20 และรักษาบรรดาสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์ เพื่อจะเป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับเจ้า เพื่อเจ้าจะทราบว่าเราคือยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย’
เหตุผลที่ 22
(เอเสเคียล 22:8, 26, 23:38)
8 เจ้าได้ดูหมิ่นของบริสุทธิ์ของเรา และทำให้สะบาโตของเราถูกลบหลู่
26 พวกปุโรหิตของเขาได้ละเมิดธรรมบัญญัติของเรา และลบหลู่สิ่งบริสุทธิ์ของเรา พวกเขาไม่ได้แยกแยะระหว่างสิ่งบริสุทธิ์และสิ่งไม่บริสุทธิ์ เขาไม่ได้บอกให้รู้ความแตกต่างระหว่างสิ่งเป็นมลทินและสิ่งสะอาด เขาไม่เห็นวันสะบาโตของเราอยู่ในสายตา ดังนั้นเราจึงถูกลบหลู่ท่ามกลางเขาทั้งหลาย
38 ยิ่งกว่านั้นอีก พวกเธอได้ทำเช่นนี้กับเรา คือเธอได้ทำให้สถานนมัสการของเราเป็นมลทินในวันเดียวกับที่ลบหลู่สะบาโตของเรา
เหตุผลที่ 23
(เอเสเคียล 46:1-12)
1 “พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า ประตูลานชั้นในที่หันหน้าไปทางตะวันออกนั้นให้ปิดไว้ระหว่างวันทำงานทั้งหกวัน แต่ในวันสะบาโตนั้นให้เปิด และในวันขึ้น 1 ค่ำก็ให้เปิด 2 ตัวเจ้านายนั้นให้เข้ามาจากข้างนอกทางมุขของหอประตู แล้วมายืนอยู่ที่เสาประตู และให้ปุโรหิตถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและเครื่องศานติบูชาของเขา และเขาจะนมัสการอยู่ที่ธรณีประตู แล้วเขาจะออกไป แต่อย่าปิดประตูนั้นจนกว่าจะถึงเวลาเย็น 3 ประชาชนในแผ่นดินจะนมัสการเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ตรงทางเข้าประตูนั้น ทั้งในวันสะบาโตและในวันขึ้นค่ำ 4 เครื่องบูชาเผาทั้งตัวที่เจ้านายจะต้องถวายแด่พระยาห์เวห์ในวันสะบาโตนั้น คือลูกแกะปราศจากตำหนิ 6 ตัว และแกะผู้ปราศจากตำหนิ 1 ตัว 5 และธัญบูชาที่คู่กับแกะผู้นั้นได้แก่แป้ง 17.5 ลิตร ส่วนธัญบูชาที่คู่กับลูกแกะนั้นให้ถวายตามใจปรารถนาของเขา ทั้งให้ถวายน้ำมัน 3 ลิตรต่อแป้ง 17.5 ลิตร 6 ในวันขึ้นค่ำเจ้านายจะต้องถวายโคหนุ่มปราศจากตำหนิ 1 ตัว พร้อมกับลูกแกะ 6 ตัว และแกะผู้ 1 ตัวซึ่งล้วนต้องปราศจากตำหนิ 7 ส่วนธัญบูชานั้นเขาจะต้องจัดแป้ง 17.5 ลิตรคู่กับโคหนุ่มตัวนั้น และอีก 17.5 ลิตรคู่กับแกะผู้ตัวนั้น แต่ส่วนที่คู่กับลูกแกะนั้น ให้เขาจัดตามที่สามารถทำได้ ทั้งให้ถวายน้ำมัน 3 ลิตรต่อแป้ง 17.5 ลิตร 8 เมื่อเจ้านายเข้ามา เขาจะเข้าทางมุขของหอประตู และกลับออกไปตามทางเดียวกันนั้น
9 “เมื่อประชาชนของแผ่นดินจะเข้ามาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ณ เทศกาลเลี้ยงตามกำหนด ผู้ที่เข้ามาทางประตูเหนือเพื่อนมัสการจะต้องกลับออกไปทางประตูใต้ ส่วนผู้ที่เข้ามาทางประตูใต้จะต้องกลับออกไปทางประตูเหนือ อย่าให้ใครกลับออกไปตามประตูที่เขาเข้ามา แต่ให้เขาออกไปทางประตูฝั่งตรงข้าม 10 เมื่อประชาชนเข้าไป เจ้านายจะเข้าไปพร้อมกัน และเมื่อประชาชนออกไป เจ้านายจะออกไปด้วย
11 “ธัญบูชาที่ใช้ในเทศกาลเลี้ยงและเทศกาลตามกำหนดนั้น ให้เป็นแป้ง 17.5 ลิตรคู่กับโคหนุ่มหนึ่งตัว และ 17.5 ลิตรคู่กับแกะผู้หนึ่งตัว ส่วนที่คู่กับลูกแกะก็ให้ถวายตามใจปรารถนาของเขา ทั้งให้ถวายน้ำมัน 3 ลิตรต่อแป้ง 17.5 ลิตร 12 เมื่อเจ้านายถวายเครื่องบูชาตามใจสมัคร อาจจะเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว หรือเครื่องศานติบูชา เพื่อถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นเครื่องบูชาตามใจสมัครนั้น ให้เปิดประตูที่หันหน้าไปทางตะวันออกแก่เขา แล้วเขาจะถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว หรือเครื่องศานติบูชาของเขาเหมือนอย่างที่เขาทำในวันสะบาโต เสร็จแล้วเขาจะออกไป เมื่อเขาออกไปแล้วก็ให้ปิดประตูนั้นเสีย
เหตุผลที่ 24
(ดาเนียล 7:25)
25 ท่านจะพูดคำกล่าวร้ายองค์ผู้สูงสุด
และจะข่มเหงบรรดาผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุดนั้น
และจะคิดเปลี่ยนแปลงวาระและธรรมบัญญัติต่างๆ
และเขาทั้งหลายจะถูกมอบไว้ในมือของท่าน
ตลอดหนึ่งวาระ สองวาระ กับครึ่งวาระ
เหตุผลที่ 25
(โฮเชยา 2:11)
11 เราจะให้ความร่าเริงของนางสิ้นสุดลง
ทั้งเทศกาลเลี้ยง เทศกาลขึ้นหนึ่งค่ำ วันสะบาโต
และเทศกาลทั้งสิ้นของนาง
เหตุผลที่ 26
(อาโมส 3:7)
7 แท้จริงพระยาห์เวห์องค์เจ้านายไม่ทรงทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
โดยไม่เปิดเผยความลี้ลับ
ให้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ คือผู้เผยพระวจนะ
เหตุผลที่ 27
(มาลาคี 3:6)
6 “เพราะว่าเราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีผันแปร โอ บุตรยาโคบเอ๋ย เจ้าทั้งหลายจึงไม่ถูกทำลายหมด
เหตุผลที่ 28
(มัทธิว 5:17-19)
17 “อย่าคิดว่าเรามาล้มเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มเลิก แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ 18 เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า จนกว่าฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรที่เล็กที่สุด หรือขีด ขีดหนึ่ง ก็จะไม่มีวันสูญไปจากธรรมบัญญัติ จนกว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้น 19 เพราะฉะนั้น ใครทำให้ข้อเล็กน้อยเพียงข้อหนึ่งในพระบัญญัตินี้ มีความสำคัญน้อยลง และสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ใครที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์
เหตุผลที่ 29
(มัทธิว 7:23)
23 เมื่อนั้นเราจะกล่าวแก่พวกเขาว่า ‘เราไม่เคยรู้จักพวกเจ้าเลย เจ้าผู้ทำความชั่ว จงไปเสียให้พ้นหน้าเรา’
เหตุผลที่ 30
(มัทธิว12:10-12, มาระโก 3:2-4, ลูกา 6:1-11)
10 ที่นั่นมีคนหนึ่งที่มือข้างหนึ่งลีบ คนทั้งหลายถามพระองค์ว่า “การรักษาโรคในวันสะบาโตนั้นต้องห้ามหรือไม่?” เพื่อเขาทั้งหลายจะหาเหตุฟ้องพระองค์ได้ 11 พระองค์จึงตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “ถ้าใครในพวกท่านมีแกะตัวหนึ่ง และแกะตัวนั้นตกบ่อในวันสะบาโต คนนั้นก็จะฉุดลากแกะตัวนั้นขึ้นมาไม่ใช่หรือ? 12 มนุษย์คนหนึ่งย่อมประเสริฐยิ่งกว่าแกะมากทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงอนุญาตให้ทำการดีได้ในวันสะบาโต”
2 คนเหล่านั้นคอยเฝ้าดูว่า พระองค์จะรักษาโรคให้คนนั้นในวันสะบาโตหรือไม่ เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระองค์ 3 พระองค์ตรัสกับคนมือลีบว่า “มาข้างหน้าเถอะ” 4 แล้วพระองค์ตรัสกับคนทั้งหลายว่า “ในวันสะบาโตควรจะทำการดีหรือทำการร้าย ควรจะช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต?” คนทั้งหลายก็นิ่งอยู่
1 ต่อมาในวันสะบาโตหนึ่ง ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามทุ่งนา พวกสาวกของพระองค์เด็ดรวงข้าวขยี้ด้วยมือแล้วกิน 2 พวกฟาริสีบางคนจึงกล่าวว่า “ทำไมพวกท่านทำสิ่งที่ต้องห้ามในวันสะบาโต?” 3 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “พวกท่านไม่ได้อ่านเรื่องที่ดาวิดทำเมื่อหิวหรือ? ทั้งตัวท่านและพรรคพวกด้วย 4 ท่านเข้าไปในพระนิเวศของพระเจ้าและรับประทานขนมปังเฉพาะพระพักตร์ ทั้งให้พรรคพวกด้วย ซึ่งบัญญัติห้ามใครรับประทานนอกจากพวกปุโรหิตเท่านั้น” 5 แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “บุตรมนุษย์เป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโต”
6 ในวันสะบาโตอีกวันหนึ่ง ขณะพระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาและสั่งสอน ที่นั่นมีชายคนหนึ่งมือขวาลีบ 7 พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีก็คอยดูอยู่ว่าพระองค์จะทรงรักษาเขาในวันสะบาโตหรือไม่ เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระองค์ 8 แต่พระองค์ทรงทราบความคิดของพวกเขาจึงตรัสกับคนมือลีบนั้นว่า “จงลุกขึ้นออกมายืนข้างหน้า” เขาก็ลุกขึ้นยืน 9 แล้วพระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราจะถามพวกท่านว่าในวันสะบาโตนั้นควรจะทำการดีหรือการร้าย ควรจะช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต?” 10 พระองค์ทอดพระเนตรดูทุกคนโดยรอบ แล้วตรัสกับชายมือลีบคนนั้นว่า “จงเหยียดมือออก” เขาก็ทำตาม แล้วมือของเขาก็หายเป็นปกติ 11 แต่คนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเดือดดาล และปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับพระเยซู
เหตุผลที่ 31
(มัทธิว 24:20-21)
20 จงอธิษฐานขอให้วันที่ท่านหนีนั้นจะไม่เกิดในฤดูหนาวหรือวันสะบาโต 21 เพราะว่าในเวลานั้นจะเกิดความทุกข์ลำบากยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย
เหตุผลที่ 32
(มาระโก 1:21, 6:2, ลูกา 4:16, 13:10 )
21 พระองค์กับพวกเขาจึงเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม และพอถึงวันสะบาโตพระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาเทศนาสั่งสอน
2 พอถึงวันสะบาโต พระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนในธรรมศาลา และคนจำนวนมากที่ได้ยินพระองค์ก็ประหลาดใจ พูดกันว่า “คนนี้ได้ความคิดแบบนี้มาจากไหน? ปัญญาที่เขาได้รับเป็นปัญญาแบบไหนกันนี่? ถึงได้ทำการอัศจรรย์เหล่านี้
16 แล้วพระองค์เสด็จมาถึงเมืองนาซาเร็ธ ที่ซึ่งพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้น พระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาในวันสะบาโตเช่นเคย และทรงยืนขึ้นเพื่อจะอ่านพระธรรม
10 ขณะที่พระเยซูทรงสั่งสอนอยู่ที่ธรรมศาลาแห่งหนึ่งในวันสะบาโต
เหตุผลที่ 33
(ลูกา 23:56)
56 แล้วพวกนางก็กลับไปจัดแจงเครื่องหอมกับน้ำมันหอม
ในวันสะบาโตนั้นพวกเขาก็หยุดพักตามบัญญัติ
เหตุผลที่ 34
(มาระโก 2:27-28)
27 พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อมนุษย์ ไม่ได้ทรงสร้างมนุษย์ไว้เพื่อวันสะบาโต 28 เพราะฉะนั้นบุตรมนุษย์เป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโตด้วย”
เหตุผลที่ 35
(ยอห์น 14:15) (มาระโก 2:27-28)
15 “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา
27 พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อมนุษย์ ไม่ได้ทรงสร้างมนุษย์ไว้เพื่อวันสะบาโต 28 เพราะฉะนั้นบุตรมนุษย์เป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโตด้วย”
เหตุผลที่ 36
(กิจการ 13:14,16:13)
14 แต่พวกเขาเดินทางต่อไปจากเมืองเปอร์กาถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสิเดีย แล้วเข้าไปนั่งในธรรมศาลาในวันสะบาโต
13 ในวันสะบาโตเราออกจากประตูเมืองไปยังฝั่งแม่น้ำ เข้าใจว่ามีที่สำหรับอธิษฐาน เราจึงนั่งสนทนากับพวกผู้หญิงที่ประชุมกันที่นั่น
เหตุผลที่ 37
(กิจการ 15:21)
21 เพราะว่าตั้งแต่โบราณมา มีคนประกาศเรื่องของโมเสสในทุกเมือง และมีการอ่านเรื่องของท่านในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต”
เหตุผลที่ 38
(กิจการ 17:2)
2 เปาโลจึงเข้าไปในธรรมศาลานั้นเช่นเคย และท่านอ้างข้อความในพระคัมภีร์ถกเถียงกับพวกเขาได้สามวันสะบาโต
เหตุผลที่ 39
(กิจการ 18:4)
4 เปาโลนั้นถกปัญหาในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต และชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีกให้เชื่อ
เหตุผลที่ 40
(โรม 3:31)
31 ถ้าเช่นนั้นเราลบล้างธรรมบัญญัติด้วยความเชื่อหรือ? เปล่าเลย เรายังชูธรรมบัญญัติขึ้นอีก
เหตุผลที่ 41
(1 โครินธ์ 11:1) (กิจการ13:14;16:13; 17:2)
1 ท่านทั้งหลายจงทำตามแบบอย่างของข้าพเจ้า เหมือนกับที่ข้าพเจ้าทำตามแบบอย่างของพระคริสต์
14 แต่พวกเขาเดินทางต่อไปจากเมืองเปอร์กาถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสิเดีย แล้วเข้าไปนั่งในธรรมศาลาในวันสะบาโต
13 ในวันสะบาโตเราออกจากประตูเมืองไปยังฝั่งแม่น้ำ เข้าใจว่ามีที่สำหรับอธิษฐาน เราจึงนั่งสนทนากับพวกผู้หญิงที่ประชุมกันที่นั่น
2 เปาโลจึงเข้าไปในธรรมศาลานั้นเช่นเคย และท่านอ้างข้อความในพระคัมภีร์ถกเถียงกับพวกเขาได้สามวันสะบาโต
เหตุผลที่ 42
(2 ทิโมธี 3:16)
16 พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การแก้ไขสิ่งผิด และการอบรมในความชอบธรรม
เหตุผลที่ 43
(ฮีบรู 4:9)
9 ฉะนั้นจึงยังมีการหยุดพักสะบาโตสำหรับประชากรของพระเจ้า 10 เพราะว่าคนใดที่ได้เข้าสู่การหยุดพักของพระองค์แล้ว ก็ได้หยุดพักจากงานของตนเอง เหมือนอย่างที่พระเจ้าได้ทรงหยุดพักจากพระราชกิจของพระองค์
เหตุผลที่ 44
(1 ยอห์น 2:6)
6 ผู้ที่กล่าวว่าตนอยู่ในพระองค์ ผู้นั้นก็ควรดำเนินชีวิตเหมือนพระองค์
เหตุผลที่ 45
(1 ยอห์น 5:3)
3 เพราะว่าความรักต่อพระเจ้าเป็นอย่างนี้ คือเมื่อเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ และพระบัญญัติของพระองค์นั้นไม่เป็นภาระหนักเกินไป
เหตุผลที่ 46
(วิวรณ์ 12:17)
17 และพญานาคก็โกรธแค้นหญิงนั้น มันจึงออกไปทำสงครามกับพงศ์พันธุ์ที่เหลืออยู่ของนาง คือคนทั้งหลายที่รักษาพระบัญญัติของพระเจ้าและยึดถือคำพยานของพระเยซู
ที่มา: 63 Biblical Reasons to Keep the 7th Day Sabbath
By Robert Roy
http://www.MessianicPublications.com
ชาโลม
ขอพระเจ้าอวยพระพร
ktm.worship
ในพระคัมภีรืบอกว่า..วันที่เจ็ดคือวันแห่งการพักสงบ คือ สะบาโต ครับ...ไม่ใช่บอกว่าวันเสาร์ วันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พูธ พฤหัสฯ ศุกร์ และเสาร์เป็นชื่อของวัน ความจริงแล้วเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลย...วันที่พระเจ้าสร้างนั้น วันไหนคือวันอะไร....แต่ทรงบอกเราว่า เมื่อทำงานหกวันแล้ว วันที่เจ็ดควรหยุดพักสงบจิตใจ เพื่อการสำรวจใคร่ครวญจิตใจ จิตวิญญาณของเราสำนึกในพระคุณความรักของพระองค์...ครับ...
ตอบลบฉะนั้น...วันสะบาโต จึง ไม่หมายถึง วันเสาร์ แต่คือ วันที่เจ็ดวันที่เราพักสงบ ครับ....
เรียนคุณ ความเห็นข้างบนครับ เจตนาผมก็ตามที่คุณว่ามาว่า วันสะบาโต เน้นที่อะไร โดยไม่ได้มีเจตนาจะกำหนดวันให้ขัดกับความเชื่อของใคร แต่ผมเขียนในบริบทของผู้ที่เดินตามการนับวันคืนของยิวที่อิงจากพระคัมภีร์ ยิวนับวันไม่เหมือนกับสังคมทั่วไป (กรีก) ซึ่งคนยิวจะนับวันโดยเริ่มจากตะวันตกดินของเย็นวันศุกร์ไปจนถึงตะวันตกดินของอีกวัน (18.00 วันศุกร์ - 18.00 วันเสาร์) ผมยอมรับว่าต้องเอ่ยชื่อวันเหล่านี้เพราะวันครอบคลุมไปทั่วโลกแล้ว เรียกวันแบบยิวคนที่ไม่รู้คงงงไปตามๆกัน หรือพุดเดือนแบบยิวก็งง กันอีก ฉะนั้นวันสะบาโตจึงเริ่มนับจากราวหกโมงเย็นวันศุกร์ไปสิ้นสุดเอาที่ราวหกโมงเย็นของวันเสาร์ด้วย นั่นก็แปลว่า การหยุดพักงานก็ต้องหยุดพักตั้งแต่ศุกร์เย็นไปจนถึงเสาร์เย็นเช่นกัน ... แต่ส่วนใครจะเอาวันไหนเป้นสะบาโตของตนเองตามที่ศึกษาพระคัมภีร์มาว่าไม่มีการกำหนดวัน จันทร์-ศุกร์ อันนี้แล้วแต่สะดวก บทความนี้ผมไม่ได้ประสงค์ว่าสะบาโตห้ามอะไรบ้างหรือสะบาโตคือวันไหนกันแน่ แต่ผมต้องการแบ่งปันพระวจนะบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับสะบาโต หรือชับบาทว่าสำคัญแค่ไหน ขอบคุณครับที่จับประเด็นแรกมาแบ่งปันกัน ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ตอบลบภาษาเฮ็บรูจะเรียกวันว่า วันที่หนึ่ง วันที่สอง ... จนถึงวันที่เจ็ดครับ
ตอบลบเขาไม่ได้เรียกว่า วันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร เหมือนเราครับ
แต่ตามปฏิธินยิว ที่ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้่ วันที่หนึ่งของยิว ตรงกันวันอาทิตของเรา ส่วนวันที่เจ็ดก็ตรงวันเสาร์พอดีครับ และวันของเราเริ่มต้นต้งแต่เย็นวันผ่านมาดังนั้นจึงเริ่มเย็นวันศุกร์ครับ