วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

สายด่วนพระบิดา 911




เราเคยไหมที่เจอกำแพงหนา ยากที่จะผ่านไป เราเองพยายามหาทางออก
หาตัวช่วย โทรหาคนนั้นคนนี้ โดยหวังว่าเขาจะช่วยเราได้
หลายครั้งที่เราเองดิ้นเพื่อให้มันหลุดออกมา เรามัวแต่กดเบอร์ อื่นๆ
หลายต่อหลายเบอร์เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่บางทีก็ไม่สามารถ
ช่วยเหลืออะไรเราได้เลย เสียงปลายสายอาจจะบอกว่า

“ ขออภัย ปัญหาของคุณใหญ่เกินไป เกินกว่าที่เราจะรับมือไหว
โปรดวางสายและรับชะตากรรมเอาเอง ขอบคุณที่ใช้บริการ ”

แต่วันนี้ผมมีเบอร์ .. ความจริงพี่น้องทุกคนมีอยู่แล้ว
แต่บางครั้งเราไม่ค่อยใช้บริการเลย เราเอาแต่อ่านคุณสมบัติว่าดียังไง

ให้เรายกมือถือขึ้นมา (คือพระคัมภีร์) กดพระวจนะไปที่ 911 คือ สดุดี 91:1
ให้เราอ่านด้วยกัน ตั้งแต่ 1-16

สดุดี [91:1] ผู้ที่อาศัยอยู่ณที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด ผู้อยู่ในร่มเงาของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์สดุดี [91:2] จะทูลพระเจ้าว่า "ที่ลี้ภัยของข้าพระองค์และป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ"
สดุดี [91:3] เพราะพระองค์จะทรงช่วยกู้ตัวท่านจากกับของพรานนก และจากโรคภัยอย่างร้ายแรงนั้น
สดุดี [91:4] พระองค์จะทรงปกท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์ และท่านจะลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์ ความสัตย์สุจริตของพระองค์เป็นโล่และเป็นดั้ง
สดุดี [91:5] ท่านจะไม่กลัวความสยดสยองในกลางคืน หรือกลัวลูกธนูที่ปลิวไปในกลางวัน
สดุดี [91:6] หรือโรคภัยที่ไล่มาในความมืด หรือโรคซึ่งทำลายในเที่ยงวัน
สดุดี [91:7] พันคนจะล้มอยู่ที่ข้างๆ ท่าน หมื่นคนที่มือขวาของท่าน แต่ภัยนั้นจะไม่มาใกล้ท่าน
สดุดี [91:8] ท่านจะมองดูด้วยตาเท่านั้น และเห็นการตอบแทนแก่คนอธรรม
สดุดี [91:9] เพราะท่านได้กระทำให้พระเจ้าผู้เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า คือองค์ผู้สูงสุด เป็นที่อยู่ของท่าน
สดุดี [91:10] ไม่มีการร้ายใดๆ จะตกมาบนท่าน ไม่มีภัยมาใกล้เต็นท์ของท่าน
สดุดี [91:11] เพราะพระองค์จะรับสั่งเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ในเรื่องท่าน ให้ระแวดระวังท่านในทางทั้งปวงของท่าน
สดุดี [91:12] เขาทั้งหลายจะเอามือประคองชูท่านไว้ เกรงว่าเท้าของท่านจะกระแทกหิน
สดุดี [91:13] ท่านจะเหยียบสิงห์และงูเห่า ท่านจะย่ำสิงห์หนุ่มและงู
สดุดี [91:14] เพราะเขาผูกพันกับเราด้วยความรัก เราจะช่วยกู้เขา เราจะป้องกันเขาไว้ เพราะเขารู้จักนามของเรา
สดุดี [91:15] เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก เราจะช่วยเขาให้พ้นและให้เกียรติเขา
สดุดี [91:16] เราจะให้เขาอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว และสำแดงความรอดของเราแก่เขา

ในพระวจนะตอนนี้ พระเจ้าจะทรงปกป้องเราจากอันตราย
พระเจ้าไม่ได้สัญญากับเราว่า โลกนี้จะปราศจากอันตาย
จากความทุกข์ยาก จากปัญหา เมื่อเรารับเชื่อ

โลกนี้ก็ไม่ได้ปูด้วยพรมแดง ราบรื่น บางครั้งเคยมั๊ย
ที่ท้อจนไม่อยากมาคริสตจักร เพราะคิดว่ามาก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
เราคาดหวังว่าการมาคริสตจักร ปัญหาจะหมดไป

แต่พระเจ้า พระองค์ทรงสัญญาว่า จะทรงคอยช่วยเหลือเรา แน่นอน
เมื่อเราเผชิญกับอันตราย และปัญหา พระเจ้าพระองค์เองจะเป็น
ผู้ช่วยนำเราออกมาจากทางที่มันตัน

ถ้าเราเอาตัวเราเองไปวัดรอยกับปัญหาที่ใหญ่ มันก็เหมือน
เอาตัวเองไปเทียบกับภูเขา และเราก็กลัวว่าจะไม่มีทางสู้ได้

มารซาตานหลอกให้เราเผชิญกับปัญหา มันอาจจะดูเล็กในตอนแรกจนเราเกรงใจว่า
ไม่อยากจะกวนพระเจ้า เราอาจะพูดว่า
“ พระเจ้า ข้าพระองค์เอาอยู่ ”

.ในช่วงแรกที่คนยังไม่รู้จักสึนามิ เมื่อมันมา คนไม่รู้หรอกว่า
โดนหลอกให้เดินลงไปดูน้ำที่ลดลงไป และคลื่นไกลๆที่มองเล็กนิดเดียว
แต่หารู้ไม่ว่า ไอ้ที่อยู่ใต้น้ำ ใหญ่กว่าข้างบนหลายเท่า

เมื่อมาใกล้ตัวก็หนีไม่ทันแล้ว รถ ต้นมะพร้าว บ้าน ตึก โดนกวาดเรียบ ….
พี่น้องครับ พระเจ้าเราใหญ่กว่า สึนามิ มันจิ๊บๆมาก

สุภาษิต [3:5] จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง
สุภาษิต [3:6] จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น

สุภาษิตสอนเราว่า อย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง พึ่ง
เป็นความหมายของการ ทิ้งตัว ลงบนบางสิ่งที่เราวางใจ
เราเองไม่ต้องดูเก่งในสายตาของตัวเอง
แต่จงเปิดใจรับฟังและยอมรับการแก้ไข จากพระเจ้า
พระองค์จะเป็นผู้ทำให้ทางของเรา ราบเรียบ
พระองค์จะนำทางและทรงปกป้องเรา

ข้อ 1-2
เมื่อเราเข้าพำนักพักพิงในที่กำบัง คือ องค์ผู้สูงสุดนั้น
พระเจ้าพระองค์ทรงเป็นป้อมปราการ ในยามที่เราหวาดกลัว
ท้อแท้ เศร้า หมดเรี่ยวหมดแรง เราต้องเชื่อมั่นว่า

พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ จะทรงปกป้องเรา เราเองต้องมีความเชื่อ
คือเชื่อว่า เราจะผ่านมันไปได้ เมื่อพระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา
อำนาจใดจะมาต้านทาน จงเชื่อในชัยชนะของพระเจ้า

เปลี่ยนความกลัว ปัญหาให้เป็นชัยชนะ .. ไม่ว่า อดีต ปัจจุบัน
หรืออนาคต ไม่ว่าอะไรก็ตามที่รอคอยท่านอยู่
จงเชื่อว่าเรามีชัยชนะ เมื่อเราเข้าพักพิงในพระเจ้า

ข้อ 3
พระวจนะตอนนี้บอกเราว่า จะทรงช่วยกู้เราจากกับดัก
อย่าดิ้นรนด้วยตัวเองเพราะมันก็จะยิ่งติด
พระเจ้าจะช่วยเราไม่ว่าเราจะเจอปัญหาใดก็ตาม

สดุดี 124:7 เรารอดไปอย่างนกจากกับของพรานนก
กับดักก็หัก และเราได้หนีรอดไป

เราเคยรู้สึกเหมือนติดกับดักไหม พระเจ้ามีทางออกเสมอ
จงเชื่อและวางใจ ไม่มีทางตันสำหรับพระเจ้า
ไม่มีอะไรที่พระองค์แก้ไขไม่ได้ไม่มีเลย
ไม่มีสถานการณ์ไหนยากและทำให้พระองค์หวั่นไหวได้ .. อาเมน
เราจะหลุดจากกับดัก เหมือนนกที่บินออกจากกับดัก
และซาตานที่มองดู จะปากเหว๋อ เหมือนนายพรานที่งง
ว่านกหนีออกไปได้ยังไง

อ เปาโล วางใจในพระเจ้า และท่านเองก็ได้หลุดจากพันธนาการที่แข็งแรง
พระเจ้าจะปลดปล่อยคุณ .. อาเมน

ข้อ 4
“โล่และดั้ง” หมายถึงยุทธภัณฑ์ที่สวมเพื่อปกป้องการโจมตีของศัตรู
เราต้องสวมยุทธภัณฑ์ เอเฟซัส 6

ไม่ว่าวันนี้ศัตรูกำลังโจมตีด้านใดในชีวิตของเราก็ตาม 
พระเจ้าจะทรงปกป้องเราไว้ด้วยปีกของพระองค์ 
จงเข้าลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์  พระองค์เป็นโล่และเป็นดั้งปกป้องคุ้มครองเรา 
เราเองจะมีชัยเหนือศัตรู  .. อาเมน

ข้อ 5
พระองค์ไม่ประสงค์ให้ลูกของพระองค์อยู่ในความกลัว
เราต้องเชื่อ ความเชื่อไม่เงียบนะครับ เราจะเชื่อเมื่อเราได้ยิน
ที่พี่ขวัญได้ เทศนาไว้

2 โครินธ์ [4:13] เพราะเรามีใจเชื่อเช่นเดียวกับผู้ที่เขียนไว้ว่า
ข้าพเจ้าเชื่อ เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูด เราก็เชื่อเหมือนกันเพราะฉะนั้นเราจึงพูด

แต่ปัญหาคือบางครั้งเราพูดแต่สิ่งตรงข้าม และเราก็เชื่อ
แต่ก็เชื่อในสิ่งตรงกันข้าม เพราะเราได้ยินในสิ่งที่ตรงกันข้าม
เราพูดถึงแต่แง่ลบ กล่าวถึงสิ่งที่กลัว พูดแต่สิ่งที่กลัว

แทนที่พระเจ้าจะครอบครอง เราก็ให้ความกลัวครอบครอง
เราเองจะไม่ปล่อยให้ โกลิอัท ยืนท้าทาย และกลัวจนซีด
แต่เราจะเป็นแบบดาวิด ที่กล่าวว่า

“ท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยดาบ  ด้วยหอกและด้วยหอกซัด  แต่ข้าพเจ้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระเจ้าจอมโยธา  พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล  ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทายนั้น  ในวันนี้พระเจ้าจะทรงมอบท่านไว้ในมือข้าพเจ้า” 1 ซามูเอล 17 …อาเมน

ข้าจะต้องกลัวสิ่งใด โวว โวว โวว

ข้อ 6
โรคทุกโรคก็จะอยู่ใต้เท้าและใต้บังคับของคุณ
โดยพระนามของพระเยซู โดยพระนามของพระเยซู 
เราจึงสามารถสั่งให้โรคออกไปจากร่างกายของเราได้
เช่นเดียวกับที่เราสามารถสั่งให้มารออกไปให้ไกลๆเรา

อพยพ [15:26] พระองค์ตรัสว่า "ถ้าเจ้าทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าของเจ้า และกระทำสิ่งที่ชอบในสายพระเนตรของพระองค์ เงี่ยหูฟังพระบัญญัติของพระองค์ และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์ทุกประการ แล้วโรคต่างๆ ซึ่งเราบันดาลให้เกิดแก่ชาวอียิปต์นั้น เราจะไม่ให้บังเกิดแก่พวกเจ้าเลย เพราะเราคือพระเจ้าแพทย์ของเจ้า"

ขับไล่ความคิดแง่ลบออกไปและเชื่อ
ขับไล่ความคิดที่ไม่ถูกต้องออกไป
โอยฉันไม่สบาย ฉันจะตายไหมจะเป็น ไอ้นั่นไอ้นี่แน่ๆ

เราจะมีสุขภาพที่ดี ในพระนามพระเยซูคริสต์ … อาเมน

ข้อ 7
ตัวอย่างของอิสราเอล พวกเขาได้รับการทรงนำอย่างน่าอัศจรรย์
ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ก็ยังปล่อยให้ความกลัว
ภาพติดตาเดิมๆที่ฝังอยู่ เป็นป้อมเดิม เกาะกุม ครอบงำความคิด

ทั้งคำพูดและการกระทำยังคงเป็นแง่ลบ
เขาจึงพลาดจากการปกคลุมทั้งที่พระเจ้าอยู่ใกล้ๆเขา
ภัยนั้นจะไม่มาใกล้เรา .. อาเมน

ข้อ 8
อพยพ [14:30] NIV ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกอบกู้อิสราเอล พ้นจากเงื้อมมือของชาวอียิปต์ อิสราเอลเห็นซากศพชาวอียิปต์ เกลื่อนกลาดอยู่บนชายฝั่ง

เมื่อใดที่ภัยพิบัติและโรคระบาดเกิดขึ้น  แม้แต่ปัญหาที่เรากำลังเผชิญ
เราจะมองดูด้วยตาเท่านั้น  เราจะได้รับการช่วยกู้
และการปกป้องคุ้มครอง จากพระองค์ … อาเมน

สุภาษิต 12:21 NIV จะไม่มีภยันตรายตกแก่ผู้ชอบธรรม แต่คนชั่วจะทุกข์ร้อน แสนสาหัส

ข้อ 9
เพราะท่านได้กระทำให้พระเจ้าผู้เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า คือองค์ผู้สูงสุด เป็นที่อยู่ของท่าน

เฉลยธรรมบัญญัติ 33:27 พระเจ้าองค์นิรันดร์เป็นที่ลี้ภัยของท่าน และเบื้อล่างคืออ้อมแขนอันนิรันดร์ พระองค์จะทรงขับไล่เหล่าศัตรูออกไปให้พ้นหน้าท่าน ตรัสว่า จงทำลายพวกเขาเสีย

บทเพลงของโมเสสกำลังประกาศว่าพระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัย
ที่มั่นคงปลอดภัยที่แท้จริงของเรา

บางครั้งเราฝากชีวิตไว้กับสิ่งอื่น เงินทอง หน้าที่การงาน ธุรกิจ
ความฝันสูงสุด ที่ผ่านการคำนวนมาอย่างดีเยี่ยม

แต่ที่ลี้ภัยที่แท้จริงคือพระเจ้าผู้สูงสุดที่ยื่นพระหัตถ์คอยรองรับเรา
ค้ำจุนเรา ไม่มีพายุลูกไหนทำลายเราได้เมื่อเราลี้ภัยในพระองค์
พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา …. อาเมน

ข้อ 10
คำว่าการร้ายในที่นี้หมายถึง ความทุกข์ยาก
รวมถึงโรคภัยต่างๆดังที่กล่าวมาด้วย
พระเจ้าย้ำให้เราเห็นว่า ในพระองค์มีความปลอดภัยจริงๆ

ข้อ 11
สดุดี [34:7] ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ตั้งค่าย ล้อมบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระองค์ และช่วยเขาทั้งหลายให้รอด

เราเองมีทูตสวรรค์ที่พระเจ้ารับสั่งให้คอยดูแลเรา อาเมน
เพราะพระองค์จะรับสั่งเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ในเรื่องท่าน
ให้ระแวดระวังท่านในทางทั้งปวงของท่าน

2 พงศ์กษัตริย์ [6:15] เมื่อคนใช้ของคนแห่งพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่และออกไป ดูเถิด กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า "อนิจจา นายของข้าพเจ้า เราจะทำอย่างไรดี"

2 พงศ์กษัตริย์ [6:16] ท่านตอบว่า "อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา"

2 พงศ์กษัตริย์ [6:17] แล้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า "ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเบิกตาของเขาเพื่อเขาจะได้เห็น" และพระเจ้าทรงเบิกตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็ได้เห็นและดูเถิด ที่ภูเขาก็เต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงอยู่รอบเอลีชา

เราพบว่า เอลีชา กับคนรับใช้ของท่านที่ถูกกองทัพ ซีเรียล้อมกรอบไว้
คนรับใช้คงตกใจมากเลย จนร้องว่า “ อนิจจานายของข้าพเจ้า จะทำอย่างไรดี ”

เมื่อตกอยู่ในความกลัว เราก็อาจจะอุทานเช่นนี้ ด้วยเหมือนกัน
แต่เอลีชา ตอบว่า อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าเขา

แล้วพระเจ้าทรงเบิกตาคนรับใช้ และเขาเองก็เห็น
ภูเขาที่เต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงอยู่รอบเอลีชา เป็นกองทัพใหญ่

กองทัพทูตสวรรค์อยู่กับคุณครับ… อาเมน

ด้วยความเชื่อเราจะเห็นกองทัพทูตสวรรค์
และการทรงช่วยของพระองค์เสมอ
พระองค์ทำมากกว่าการมองเห็นได้ด้วยตา

เมื่อใดก็ตามที่เราเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ปัญหา
โรคภัย จงมองด้วยสายตาแห่งความเชื่อ
พระเจ้าจะเปิดเผยให้เราได้เห็น … อาเมน

ถ้าเราเองยังมองไม่เห็นการช่วยเหลือของพระองค์เลย
และไม่รับรู้ถึงการอยู่ด้วยของพระองค์เลย ปัญหาอาจจะอยู่ที่สายตาฝ่ายวิญญาณ
ของเราเองมากกว่า ไม่ใช่ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า

ข้อ 12
มัทธิว [4:6] แล้วทูลพระองค์ว่า "ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงโจนลงไปเถิด เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า พระเจ้าจะรับสั่งให้เหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์รักษาท่าน และเหล่าทูตสวรรค์จะเอามือประคองชูท่านไว้ มิให้เท้าของท่านกระทบหิน
มารเองก็รู้พระวจนะและพระสัญญาของพระเจ้าดี
อย่าให้สิ่งนี้มาโจมตีเรา มารเองก็ทดลองพระองค์ ให้ลองดี
แต่เราเองต้องใช้สิทธิอำนาจพระนานของพระเยซู

ในแบบที่พระเยซูขับไล่มันไปเสีย ก่อนที่มันจะตั้งป้อมความคิดผิดๆภายในเรา
เราต้องสั่งว่า “ เจ้าซาตานจงไปเสียให้โพ๊นนน ”

ข้อ 13 -14
นี่คือสิทธิอำนาจที่พระเจ้ามอบให้แก่เรา
เป็นสิทธิอำนาจที่เหนือศัตรู ในสดุดีเองให้เรามั่นใจว่า
เราจะปลอดภัยและมีอำนาจเหนือสัตว์ร้าย
คำพยานของอาจารย์จิ๋ว ที่ถูกแมลงกัด แต่ไม่เป็นอะไรด้วยซ้ำ .. อาเมน

ผมไม่ได้หมายความว่าให้เรา ปีนกรงสิงโต
แล้วไปปล้ำสู้กับมันนะครับ
มันอาจจะเปรียบได้กับมาร ที่วนเวียนเหมือนสิงโตที่คอย
ขย้ำเหยื่อ และสร้างสัตว์ร้ายในความคิดของเราด้วย
ขอยกตัวอย่างบุคคลในพระคัมภีร์ที่มีอำนาจเหนือสัตว์ร้าย
จำได้ไหมมีใครบ้าง

-    แซมสัน “มีสิงห์หนุ่มตัวหนึ่งคำรามใส่เขา” พระวิญญาณของพระเจ้าก็สถิตอยู่กับแซมสัน ท่านจึงฉีกสิงห์ออก อย่างคนฉีก ลูกแพะด้วยมือเปล่า ( ผู้วินิจฉัย 14:5-6 )

-    ดาวิด ที่เอาชนะ ยักษ์โกลิอัท ก็เคยฆ่า สิงโต กับ หมีมาแล้ว ( 1 ซามูเอล17:34-35 )

-    ดาเนียล ที่ถูกโยนลงไปถ้ำสิงโต สิงโตนั้นก็โดนปิดปาก ( ดาเนียล 6:23 ) ไม่มีใครแตะต้องผู้ที่วางใจในพระเจ้าได้ พระเจ้าผู้เดียวที่กอบกู้ดาเนียล จะทรงกอบกู้เราด้วย .. เราวางใจพระเจ้าด้วยสุดใจหรือไม่

-    ลูกา 10:19 บันทึกอีกว่า “ ดูเถิด เราได้ให้พวกท่านมีอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศัตรู ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ท่านได้เลย ”

-    กิจการ 28:3 เปาโลเก็บกิ่งไม้แห้งมัดหนึ่งมาใส่ไฟ มีงูพิษตัวหนึ่งออกมาเพราะถูกความร้อน กัดมือของเปาโลติดอยู่

ใครที่เห็นก็คิดว่า เปาโล ตายแน่ๆ ตายหยั่งเขียด
หรือเราๆ อาจจะอุทานว่า ซวยแล้ว กรรมเวรอะไร
และจิตนาการสิ่งเลวร้ายทันที จินตนาการภาพการตายของตัวเองทันที

แต่…เปาโลได้สะบัดมือให้งูตกลงไปในไฟ
และหาเป็นอันตรายประการใดไม่
เปาโลไม่ได้มานั่งหมดอาลัย ตายอยาก และวิตก
แต่ท่านเชื่อในสิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้

การมีความเชื่อคือการยอมรับพระนามของพระเจ้า เมื่อเราร้องเพลงพระนามของพระเจ้า

1.เยโฮวาห์ยีเรห์ ผู้จัดเตรียมให้ลูกอย่างดี                   
2.เยโฮวาห์ราฟา ทรงรักษาให้ลูกหายดี                       
           
3.เยโฮวาห์ชโลม สันติสุขประทานในใจ                       
4.เยโฮวาห์โรหิ พระผู้เลี้ยงที่ลูกวางใจ                       
5.เยโฮวาห์เมคคาเดช ผู้ทรงล้างชำระลูกนี้                       
6.เยโฮวาห์ซิคานู เป็นความชอบธรรมที่ลูกนั้นมี               
               
7.เยโฮวาห์นิสสี ผู้ครอบครองด้วยชัยชนะ       
8.เยโฮวาห์ชัมมา ทรงสถิตใกล้ชิดภายใน

พระเจ้ารักคุณ เมื่อเราผูกพันกับพระองค์ด้วยความรัก
เรารู้จักพระนามของพระองค์ 
เราจะพบการช่วยกู้ของพระองค์มากมาย

รักพระเจ้าไม่ใช่แค่ปากที่รักพระองค์
หรือการฝืนใจ พระองค์รักเราก่อนที่เราจะรู้จักพระองค์
แต่เมื่อเรารักพระองค์ คือเรารักที่จะเชื่อฟังพระวจนะและเชื่อฟังด้วย ด้วย

เมื่อพระเจ้าให้เรารักซึ่งกันและกัน แต่เราเองยังแบ่งก๊ก
แบ่งสีกันในคริสตจักรหรือไม่ มีการก่อม๊อบ นินทา พุดจา ปั่นกระแส

หรือไม่พอใจอะไรซึ่งกันและกัน และไม่ได้ให้อภัยกันเลยหรือไม่
ถ้าเรายังเป็นคนที่ขาดความรักกับพี่น้องขนาดนี้
เราจะรักพระเจ้าที่มองไม่เห็นได้อย่างไร

1 ยอห์น [4:18] ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ได้ขจัดความกลัวเสีย เพราะความกลัวเข้ากับการลงโทษและผู้ที่มีความกลัวก็ยังไม่มีความรักที่ สมบูรณ์

1 ยอห์น [4:19] เราทั้งหลายรัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน

ข้อ 15
พระองค์อยู่กับเราในยามยากลำบาก ในยามที่เราเดือดร้อน
แต่ปัญหาคือ เมื่อเจอปัญหา เราคิดว่าพระเจ้าเป็นอากาศ
หรืออะไรที่มองไม่เห็น หรืออะไรก็ตามที่อยู่ห่างไกลออกไปในจักรวาล
หรือพระองค์คง งานยุ่งมากๆ แน่นอน ถ้าให้เราพูดเราก็พูดได้ว่า
พระเจ้าอยู่กับเรา แต่สถานการณ์จริงบางครั้งเราก็อาจจะมีความรู้สึกเช่นนั้นได้

เมื่อเราดิ้นจนหมดแรงก็เหมารวมเอาว่า พระเจ้าไม่ช่วยแล้ว
เปาโลหนุนใจเราว่า มีใครบ้างที่จะลำบากขนาดท่าน ไม่มีแล้ว
ฟิลิปปี [4:6] อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ

ฟิลิปปี [4:7] แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์

เปาโลลำบากมากกว่าเราหลายเท่า เฉียดตายหลายครั้ง
แต่สิ่งที่บันทึกเป็นคำหนุนใจอย่างมากคือ ..

โรม [8:35] แล้วใครจะให้เราทั้งหลายขาดจากความรักของพระคริสต์ได้เล่า จะเป็นความทุกข์ หรือความยากลำบาก หรือการเคี่ยวเข็ญ หรือการกันดารอาหาร หรือการเปลือยกาย หรือการถูกโพยภัย หรือการถูกคมดาบหรือ
ไม่ว่าพี่น้องจะพบเจออะไรที่มันหนักอึ้ง แค่ไหนจงเผชิญกับมัน
แต่ไม่ใช่ด้วยกำลังของตัวเอง แต่ภายใต้การช่วยกู้ของพระเจ้า
พระสัญญาของพระเจ้าบอกว่า เมื่อเราเริ่มที่จะร้องเรียกหาพระเจ้า

พระองค์จะตอบเรา นี่เป็นพระสัญญาของพระองค์
เมื่อพระองค์จะอยู่กับเราในยามที่เรากำลังเดือดร้อน
พระองค์จะตอบเราและจะมาปลดปล่อยเราให้พ้นจากพันธนาการ
และความเดือดร้อนนั้น พระองค์อยู่กับเราเสมอและอยู่มาเนิ่นนานแล้ว


และเดี๋ยวนี้พระเจ้าพระองค์ก็ทรงอยู่ในเรา
เราต้องบอกกับตัวเองและเชื่อเสมอว่า
พระเยซูคริสต์อยู่ภายในฉัน ภายในฉันนี่แหละ

นั่นหมายความว่าพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และจักรวาลนี้
ทรงประทับ อยู่ในเรานี่เอง .. ลองคิดดูสิครับมันน่าตื่นเต้นไหม
หรือใครอาจจะเฉยๆ ถ้าเราสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่และพระองค์ทรงอยู่ในเรา
มันเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นจริงๆ นี่ไม่ใช่ใครพูดเองก็ได้แต่พระวจนะใน
เมื่อผู้ชอบธรรมถูกข่มเหง จงเป็นสุข พระเจ้าไม่ได้ทิ้งเราไปไหน
ไม่ได้ทรงเพิกเฉย แต่จะทรงช่วยคุณให้รอดพ้นจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดและให้เกียรติคุณ
ข้อ 16
พระเจ้าประทานพันธสัญญาแก่ซาโลมอน ในเรื่องชีวิตยืนยาว ในพระวจนะ
สุภาษิต [3:1] บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าลืมคำสอนของเรา แต่ให้ใจของเจ้ารักษาบัญญัติของเรา
สุภาษิต [3:2] เพราะสิ่งเหล่านี้จะให้วันเดือนปีชีวิตยืนยาวและอำนวยความสุขสมบูรณ์แก่เจ้า
พระองค์ประสงค์ให้เรารักษาคำสอนของพระองค์เสมอ
1 พงศ์กษัตริย์ [3:14] และถ้าเจ้าจะดำเนินตามทางของเรา รักษากฎเกณฑ์ของเรา และบัญญัติของเรา ดังดาวิดบิดาของเจ้าได้ดำเนินนั้น เราก็จะให้วันเวลาของเจ้ายืนยาว"
ตัวอย่างบุคคลในพระคัมภีร์นะครับ
-    อับราฮัม เสียชีวิตเมื่อแก่หง่อมมีอายุมาก
ปฐมกาล [25:8] อับราฮัมสิ้นใจ เมื่อแก่หง่อมแล้ว เป็นคนชรามีอายุมาก เขาก็ฝังศพท่านรวมอยู่กับบรรพบุรุษของท่าน
-    อิสอัค ก็เสียชีวิต ก็ตอนแก่มากแล้วเช่นกัน 180 ปี
ปฐมกาล [35:29] ก็สิ้นลมหายใจ ท่านชราและแก่หง่อมมากเมื่อสิ้นชีวิต และไปอยู่ร่วมบรรพบุรุษของท่าน เอซาวและยาโคบบุตรชายก็นำท่านไปฝังเสีย

-    ยาโคบ ก็เสียชีวิตตอนอายุมากกว่า 130 ปี
ปฐมกาล [49:33] เมื่อยาโคบสั่งบุตรชายของตนเสร็จแล้ว ก็ยกเท้าขึ้นบนที่นอน แล้วก็สิ้นใจ และถูกรวบไปอยู่กับบรรพบุรุษของท่าน ( ปฐมกาล 47:9 )

-    โยเซฟ
ปฐมกาล [50:26] โยเซฟสิ้นชีพเมื่ออายุได้ร้อยสิบปี เขาก็อาบยารักษาศพไว้แล้วบรรจุไว้ในโลงที่อียิปต์

-    โมเสส
เฉลยธรรมบัญญัติ [34:7] เมื่อโมเสสสิ้นชีวิตนั้นท่านมีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปี นัยน์ตาของท่านมิได้มัวไป หรือกำลังของท่านก็ไม่ถอย

-    ดาวิด
1 พงศาวดาร [29:28] แล้วพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระชรามาก หง่อมแล้ว ทั้งทรงมั่งคั่งและมีพระเกียรติและซาโลมอนโอรสของพระองค์ครอบครองแทนพระองค์
พระองค์ไม่เพียงประทานให้แก่บรรพบุรุษของเราเท่านั้นนะครับ
แต่ทรงสัญญาว่าจะให้พวกเราทุกคนด้วย … อาเมน

หลายคนอาจจะสงสัยว่า นี่เป็นเรื่องของพันธสัญญาเดิม
มันห่างไกลจากเรามาก พระเจ้าสัญญาแก่พงศ์พันธุ์อับราฮัมเท่านั้นไม่ใช่เหรอ

แต่ผมหนุนใจวันนี้ว่า หากเราเข้าอยู่ในพระองค์
เราก็คือพงศ์พันธุ์อับราฮัม เมื่อเราเองเป็นของพระคริสต์
เราเองก็เป็นพงศ์พันธุ์ของอับราฮัมด้วย คือเป็นผู้รับมรดกตามพระสัญญา … อาเมน

กาลาเทีย [3:16] บรรดาพระสัญญา ที่ได้ประทานไว้แก่อับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของท่านนั้น มิได้ตรัสว่า และแก่พงศ์พันธุ์ทั้งหลาย เหมือนอย่างกับว่าแก่คนมากคน แต่เหมือนกับว่าแก่คนผู้เดียวคือ แก่พงศ์พันธุ์ของท่าน ซึ่งเป็นพระคริสต์

เมื่อเราเจอวิกฤติชีวิต อุปสรรค และคลื่นสึนามิใหญ่
ที่กำลังถามโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว อย่าพยายามด้วยกำลังตัวเอง
และลืมเบอร์โทรที่สำคัญไป นั่นคือการปกป้อง และอารักขาของพระเจ้า

ของพร้อมเสมอเมื่อเราอธิษฐานทูลขอ เวลานี้หากเราเจอสถานการณ์เช่นนั้น
ที่กำลังบุกรุกเข้ามา จงหยิบมือถือขึ้น และกด 911 สายด่วน พระบิดา

ที่มา: http://www.4windsprayer.com
เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012 ณ คริสตจักรธารพระพร









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย

 ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย มัทธิว อย่าต่อสู้คนชั่ว มธ. 5:39 ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแ...