แอ๊บแบ๊ว
คำว่า “แอ๊บแบ๊ว” นั้นนิยมใช้กันมากในหมู่วัยรุ่นช่วงเวลาที่ผ่านมา และแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังว่ากันด้วยคำ ๆ นี้ วันนี้อยู่ ๆ ก็นึกสงสัยขึ้นมาว่าแท้จริงคำ ๆ นี้หมายถึงอะไรกันแน่“แอ๊บแบ๊ว” หมายความว่า เดียงสา น่ารัก เกินเหตุ อีกแง่มุมหนึ่งอาจจะหมายถึง เส้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร แอ๊บแบ๊วอาจจะเป็นกริยาท่าทางหรือทำท่าทางและนิสัยเหมือนเด็ก ทำท่าทางให้ดูน่ารักเหมือนเด็กใสซื่อ
เช่น ดูทำหน้าแอ๊บแบ๊วเข้าสิ น่ารักจังเลย
หรืออีกกรณี เช่น ดูทำแอ๊บแบ๊วสิ คิดว่าคนอื่นไม่รู้นิสัยจริง ๆ หรือไง
คำว่า “แอ๊บ” มาจากภาษาอังกฤษว่า abnormal มีความหมายว่า ผิดปกติ หรือ ผิดธรรมดา, ผิดวิสัย, ผิดแปลก, แปลก
ส่วนคำว่า “บ้องแบ๊ว” นั้นมีความหมายว่า ผิดธรรมดา, ผิดวิสัย, ผิดแปลก, แปลก จากคำสองคำนี้เราอาจจะเคยใช้ผิดบริบท เช่นเด็กคนนี้หน้าตาบ้องแบ๊วจังเลย ซึ่งหมายถึงว่าเด็กคนนี้หน้าตาพิลึก ถ้าพ่อแม่เขารู้ความหมายเราอาจจะโดนชกตาเขียวก็เป็นได้ เอาล่ะครับกลับมาเข้าเรื่องต่อ เราคงไม่ล้วงลึกถึงที่มาของคำว่า แอ๊บแบ๊ว ให้ลึกไปกว่านี้ เพราะคำคำนี้ก็ไม่ได้มีที่มาที่แน่นอนชัดเจน แต่แอ๊บแบ๊ว อาจถูกใช้เป็นคำตำหนิสำหรับคนที่ ไม่จริงใจ หรือเสแสร้ง เสแสร้งหมายถึง แกล้งทำให้เข้าใจเป็นอื่น เพราะเชื่อว่าคนอื่นจะไม่รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ อาจจะมีความหมายว่า หลอกลวง, หลอก
เช่น มีนิสัยอีกอย่างหนึ่งเหมือนเป็นนางร้าย แต่อีกสถานที่ (แอ๊บแบ๊ว) เป็นอีกอย่างหนึ่งดูใสซื่อไร้เดียงสาหรือสร้างภาพ ซึ่งไม่ใช่ตัวตนจริง ๆ ซึ่งหากนำมาเทียบเคียงในพระวจนะแล้ว คำ ๆ นี้แม้ไม่มีในพระคัมภีร์ เพราะว่าในสมัยนั้นยังไม่มีระบุคำนี้ขึ้นมา แต่ก็มีคำที่มีความหมายเทียบเคียง หรือมีความหมายคล้ายคลึงในบริบทเดียวกันอยู่ เช่น "หน้าซื่อใจคด"
มธ. 7:5 คนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้
“หน้าซื่อใจคด” (hypocritical ,hypocrite) ประโยคสั้นๆในพระคัมภีร์ที่มักพาดพิงไปที่ บรรดาฟาริสี หมายถึงอะไร คำว่า หน้าซื่อใจคดหมายถึง ผู้เสแสร้ง, ผู้หลอกลวง, เจ้าเล่ห์, หน้าไหว้หลังหลอก, ตีสองหน้า และคำนี้ยังหมายถึง ผู้เสแสร้ง ในภาษากรีก หมายถึง “นักแสดง” นั่นก็คือการสร้างภาพนั่นเอง
ดังนั้นจากคำว่า “แอ๊บแบ๊ว” จนมาถึงคำว่า “หน้าซื่อใจคด” และ “ผู้เสแสร้งหลอกลวง”
1ปต. 2:1 เพราะฉะนั้น พวกท่านจงละทิ้งความชั่วทุกอย่าง และการล่อลวงทุกรูปแบบ ความไม่จริงใจ ความอิจฉาริษยา และการใส่ร้ายทุกชนิด
มธ. 12:34 โอ พวกชาติงูร้าย ท่านทั้งหลายเป็นคนชั่วแล้วจะพูดความดีได้อย่างไร? ด้วยว่าปากนั้นพูดสิ่งที่มาจากใจ
"โอ เจ้าชาติงูร้าย" เป็นสำนวน ใน Aramaic นั้น มีความหมายว่า
Sly = มีเล่ห์เหลี่ยม, ฉลาดแกมโกง, ไม่ซื่อ, มีเล่ห์กระเท่ห์, ปลิ้นปล้อน, มีนัย, เหน็บแนม, เสียดสี
deceptive = โกหก, หลอกลวง
โอ เจ้าชาติงูร้าย จึงหมายถึง ครั้นยอห์นเห็นพวกฟาริสีและพวกสะดูสีพากันมาเป็นอันมากเพื่อจะรับบัพติศมา ท่านจึงกล่าวแก่เขาว่า "โอ เจ้าพวกเจ้าเล่ห์และหลอกลวง" ใครได้เตือนเจ้าให้หนีจากพระอาชญาซึ่งจะมาถึงนั้น
พระคัมภีร์ให้เรารักกันด้วยใจจริง
รม. 12:9 ขอให้ความรักมาจากใจจริง จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี
ในฉบับ ThaiKJV รม. 12:9 จงให้ความรักปราศจากมารยา จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี
รักที่มาจากใจจริง จึงหมายถึงรักที่ไม่เสแสร้ง หมายถึง อย่าปล่อยให้ความรัก แสดงออกแต่เพียงภายนอก แต่ต้องมาจากภายใน
มีพระคัมภีร์ฉบับหนึ่งที่อ้างอิงการแปลจากภาษา Aramaic ได้บันทึกว่า อย่าให้ความรักของเรามีเล่ห์เหลี่ยม guileful ยังแปลได้ว่า มารยา, หลอกลวง
ชาโลม
ktm.Emunah
ที่มาความหมายของคำศัพท์
https://dict.longdo.com/search/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B9%8A%E0%B8%A7
http://dictionary.sanook.com/search/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%8A%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B9%8A%E0%B8%A7
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น