วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

พระเจ้าสถิตอยู่ด้วย

พระเจ้าสถิตอยู่ด้วย
อยากหนุนใจผู้อ่านทุกคนว่า หากท่านเชื่อ พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่านตลอดเวลา พระองค์สถิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง บางครั้งผู้เชื่อ (บางคน) เน้นเอาความรู้สึกเพื่อสัมผัสการทรงสถิต ซึ่งในความเป็นจากพระคัมภีร์พระเจ้าสถิตอยู่กับผู้เชื่อแม้จะไม่รู้สึกก็ตาม

ความรู้สึกนั้นไม่ได้เป็นมุมลบเพียงอย่างเดียว มีทั้งดีและไม่ดีวึ่งอยู่ที่บริบทของตัวมันเองด้วย ความรู้สึกเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งหรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเพียงเครื่องประดับในระดับจิตใจ (เนื้อหนัง) แต่ไม่ใช้ในระดับวิญญาณ ดังนั้นหากความรู้สึกถูกใช้ตัดสินผิดบริบท นั่นคือการ "ติดกับดัก" ของความรู้สึก
ในการนมัสการ บางคนยึดติดกับอารมณ์และความรู้สึก คาดหวังว่าจะต้อง รู้สึกดี จากเพลง จากผู้นำ และการบัดบัดตนเอง เมื่อไม่รู้สึกดี ก็โทษบทเพลงและคนนำนมัสการ นักร้อง นักดนตรี การนมัสการและการสรรเสริญนั้น ในพระวจนะบันทึกเสมอว่าเป็นการยกย่องพระเจ้า ถวายชีวิตเป็นเครื่องบูชา และกลิ่นหอมที่พอพระทัยต่อพระองค์ ไม่ใช่เพื่อบำบัดความรู้สึกตนเอง เพื่อตัวเอง และเพื่อจะรู้สึกดี (ขนลุก) การทรงสถิตของพระเจ้า ไม่ใช่รู้สึกเรียกน้ำตา ต้องรู้สึกดี ดื่มด่ำจนขนลุกซู่ซ่า

ในบางการนมัสการเมื่อมีการเจิม การทรงสถิตต้องล้ม ต้องสำแดงอาการต่าง ๆ ส่วนคนยืนเฉย ๆ นิ่ง ๆ พวกนี้ไม่มีการทรงสถิต คำกล่าวนี้ไม่เป็นความจริงทั้งหมด หากคุณเปิดใจรับ และยอมให้พระเจ้าทำการในชีวิต มอบแด่พระองค์ คุณอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยในช่วงเวลานั้น

ดังนั้นประสบการณ์ความรู้สึกของแต่ละคน ไม่สามารถเอาไปตัดสินกับอีกคนหนึ่งได้ มุมมองหนึ่งในการนมัสการคือ เมื่อใดก็ตามที่คุณบอกว่า "การนมัสการวันนี้ผมรู้สึกไม่สัมผัสอะไรเลย ผมรู้สึกเฉย ๆ และไม่สัมผัสการทรงสถิตเลย" แท้ที่จริงแล้วตัวคนที่กล่าวเองอาจจะมีปัญหาก็เป็นได้

ความรู้สึกอาจจะถูกกระตุ้นจากสิ้งเร้าภายนอก เสียใจ ร้องไห้ อารมณ์ที่พาไป การจินตนาการ ฯลฯ แต่ในเรื่องฝ่ายวิญญาณนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ้งเร้าภายนอก พระเจ้าไม่ทำการผ่านสิ่งเหล่านั้น บรรยากาศเป็นสิ้งเร้าที่ดี แต่ไม่ใช้กระบวนการและองค์ประกอบสำคัญ ถ้าพระเจ้าจะเคลื่อนไหว

เพราะอะไรน่ะหรือ ? ก็เพราะว่าความรู้สึกนั้นไม่ได้มีความมั่นคง เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และบางครั้งก็ไม่ได้น่าเชื่อถือ และอารมณ์ต่าง ๆ ที่ออกมาจากความรู้สึกก้ไม่ได้เป็นตัววัดถึงระดับในการทรงสถิตของพระเจ้า บางคนรู้สึกดีมาก ร้องไห้ ขนลุกซู่ซ่า ดีทุกอย่าง แต่พอกลับบ้านไปไม่มีอะไรเลยที่เปลี่ยนแปลง แต่บางคนไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เขาได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์

ให้เราระมัดระวังในกับดัก ความรู้สึกนี้ ที่เป็นเสมือนกับดัก ที่คอยดักอยู่ เราอาจจะมองไม่เห็นกับดักที่ซ่อนอยู่ แต่ความจริงในพระวจนะที่ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์จะทำให้เรามองเห็นกับดักเหล่านั้น เพราะพระวจนะของพระเจ้าบันทึกว่า พระวจนะของพระองค์เป็นแสงสว่าง เป็นโคมส่องทาง

ในวันที่เราเห็นคนอื่น ๆ มีอาการมากมาย และถูกตัดสินว่าไม่มีการทรงสถิต ในวันที่เราไม่รู้สึกอะไร จงมั่นใจว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่และทรงสถิตอยู่กับคุณ พระเจ้ารักคุณ พระสัญญาของพระเจ้าไม่เปลี่ยนแปลง
ในวันที่เรารู้สึกแย่สุด ๆ จงนมัสการ ไม่ใช่เพื่อเพื่อเราจะรู้สึกดีขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่เราควรกระทำ และคุณจะเข้าใจว่า การนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง ไม่ต้องพึ่งพา "ความรู้สึก" เลย

ปีใหม่นี้ขอพระเยซูผู้เป็นแสงสว่างนำทางเรา ที่เราจะไม่เดินในความมืดมิดแหละเหยียบกับดักที่คอยดัก ผู้เชื่อที่พึ่งพาแต่ความรู้สึก ขอเดินตามพระเยซูไปจนสุดทาง และถึงเป้าหมายเถิด

ขอพระยาห์เวห์อวยพระพรท่าน
ชาโลม
ktm.Emunah

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น