บุหรี่และพระคัมภีร์
1คร. 6:20 เพราะว่าพระเจ้าทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง ฉะนั้น จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของพวกท่านเถิด
เราเห็นได้ว่าบุหรี่มีอันตรายต่อสุขภาพ ข้างซองก็เขียนไว้ มีรูปน่ากลัว จนแทบทานข้าวไม่ลง แต่คนก็ยังไม่มีความกลัวเพราะยังไม่เกิดกับตัวเอง สุภาษิตจีน ว่าไว้ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา แม้กฎหมายจะระบุชัดเจน ให้มีรูปของผลกระทบต่อการสูบบุหรี่ที่ข้างซอง หรือแม้แต่ ศัลยแพทย์ทั่วไป ได้ชี้ถึงโรคที่จะเกิดขึ้นกับผลกระทบของบุหรี่มากมาย แต่ปัจจุบัน ยังมีคนสูบบุหรี่มากมาย และเพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ผมจึงมักมีคำถามว่า บุหรี่มีประโยชน์ตรงไหน สูบแล้วดีอย่างไร ทำไมคนจึงยังสูบอยู่ ในสภาพที่รู้ดีว่า ทำลายสุขภาพ ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.dailynews.co.th ได้บอกว่า
เฉพาะในประเทศไทย มีคนสูบบุหรี่ 12.5 ล้านคน (ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรเลยทีเดียว)
ผลจากการสูบบุหรี่ทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตเพราะบุหรี่ เฉลี่ยปีละ 6 ล้านคน ในจำนวนนี้ ตายจากโรคมะเร็ง ร้อยละ 33 หรือราว 2.2 ล้านคน ตายเพราะป่วยโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ร้อยละ 29 หรือประมาณ 1.87 ล้านคน และจากโรคอื่นๆ ร้อยละ 7 หรือราว 4.8 แสนคน
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ในไทย คิดเป็น 48,244 คนต่อปี ซึ่งบุหรี่ทำให้คนไทยในจำนวนนี้ป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งมากที่สุด ร้อยละ 37.4 ตามด้วยโรคทางเดินหาย ร้อยละ 29.9 โรคหัวใจและหลอดเลือด ร้อยละ 22.6 และโรคอื่นๆ ร้อยละ 9.9
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนไทย 14,204 คน จากจำนวนผู้เสียชีวิต 48,244 คนต่อปีนั้น เสียชีวิตก่อนวัย 60 ปี แสดงให้เห็นว่า การสูบบุหรี่ทำให้คนไทยที่สูบอายุสั้นลงเฉลี่ย 12.1 ปี
ถ้าเราเชื่อในพระวจนะที่บันทึกว่า ร่างกายของเราคือวิหาร เป็นที่ประทับของพระเจ้า พระเจ้าคือเจ้าของร่างกายเรา เรายกวิหารนี้ให้พระองค์ประทับครอบครอง แล้วที่สำคัญที่สุดเราเคยถามพระองค์ไหม เคยขออนุญาตพระองค์ไหม ว่า "พระเจ้าเหม็นควันบุหรี่ที่เราสูดเข้าไปในที่ประทับของพระองค์ไหม" ผู้ยิ่งใหญ่ภายในเราคงไม่ชอบสิ่งเหล่านี้แน่นอน
ถ้าเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ หรือคาโดช ที่หมายถึงแยกออกจากสิ่งมลทิน เรายังจะเอาสารเหล่านี้เข้าไปทำลายวิหารที่พระองค์ทรงสร้างหรือ ?
หลายครั้งเราจึงยังคิดว่าเราเองคือเจ้าของตัวเอง และสามารถจะทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา แต่พระองค์ทรงซื้อและไถ่เรา ชำระค่าจ้างแห่งความตาย ด้วยการสิ้นพระชนม์ เราจึงต้องตระหนักว่า เราไม่มีเสรีภาพเลย ที่จะใช้ร่างกายของเราเพื่อตอบสนอง ความอยาก หรือความสุข และปลดทุกข์จอมปลอม เราเลือกได้ที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้า ด้วยร่างกายของเรา และเนื่องจาก การสูบบุหรี่ไม่ได้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เมื่อเรายังคิดจะสูบเราเองเข้าสู่การละเมิด
ฟป. 4:13 ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า
พระวจนะตอนนี้หนุนใจเราได้เป็นอย่างดีว่า ไม่ใช่โดยเราเองที่จะต่อสู้ด้วยเนื้อหนังธรรมชาติบาปของเรา เราไม่สามารถต่อสู้ได้เลย แต่โดย พระเจ้า โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ที่คอยเสริมกำลังเรา
หลายคนที่เป็นผู้เชื่อและสูบบุหรี่ ผมเคยถามเขา และ เขาบอกว่า รู้ว่าไม่ดี รู้ว่าไม่ควร รู้ว่าอยากจะเลิก แต่มันทำไม่ได้ สิ่งที่เราเห็นคือ ภาพของการตกเป็นทาส เป็นเชลย ถ้าเราเคยดูสารคดีเรื่องทาส ในสมัยก่อน ก่อนจะมีการเลิกทาส ทาสถูกกดขี่อย่างหนัก และไม่สามารถปลดตัวเองจากการเป็นทาสด้วยตัวเอง
พระเยซูพระองค์มาเพื่อประกาศการเลิกทาส
โรม 6:16
ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าถ้าท่านยอมตัวรับ ใช้ฟัง คำของผู้ใดท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้นคือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไป สู่ความตายหรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรมก็ตาม
เมื่อเราตกอยู่ภายใต้อำนาจของมัน และซาตานมีเป้าหมายทำลายแม้แต่กายภาพ ไม่ใช่เพียงฝ่ายวิญญาณ โรคต่างๆถามหามากมาย โรคปอด ถุงลมโป่งพอง หรือแม้แต่มะเร็งปอด เราทุกคนรู้ดี
ดังนั้นจึงมาสู่คำถามสุดฮิตว่า การสูบบุหรี่เป็นบาปมากไหม ? คำตอบคงน่าจะชัดเจนแล้ว ว่าบาป
เพราะเราได้ทำลายพระวิหารของพระเจ้า เรากำลังฆ่าตัวเอง แม้บางคนอาจจะไม่ตายเพราะบุหรี่
แต่วัตถุประสงค์ของซาตานคือนำไปสู่ความตาย
โรม 6:22
แต่เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายพ้นจากการเป็นทาสของ บาป และกลับมาเป็นทาสของพระเจ้าแล้ว ผลสนองที่ท่านได้รับก็คือการชำระให้บริสุทธิ์ และผลสุดท้ายคือชีวิตนิรันดร์
จงถวายตัวของท่าน
รม. 12:1 ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน
รม. 12:2 อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม
ในข้อ 1 คำว่าบริสุทธิ์ หรือคาโดช หมายถึง การแยกออกมา หรือถูกแยกไว้เฉพาะเพื่อพระเจ้าโดยเฉพาะ ฉะนั้นเราจึงไม่ควรทำตามใจตัวเอง นึกอยากทำอะไรก็ทำตามใจปรารถนา เมื่อเราถวายทุกอย่างให้พระองค์ ทั้งชีวิตของเราเท่ากับว่าเราลงจากบัลลังก์ใจและให้พระองค์ประทับแทนที่ บนบัลลังก์ใจของเรา
ในข้อที่ 2 อยากลอกเลียนแบบคนในยุคนี้ หมายถึง อย่าให้โลกนี้เป็นแม่พิมพ์ของเรา เพราะแม่พิมพ์ของเราคือพระเจ้า ไม่ใช่โลกนี้ อย่ายอมถูกกดไปในแม้พิมพ์ของโลก และเป็นอย่างโลกนี้ โลกในที่นี้ไม่ได้สื่อถึงโลกที่พระเจ้าทรงสร้างแต่หมายถึง โลกที่เต็มไปด้วยทุกสิ่งที่ค้านกับพระเจ้าราคะตัณหาต่างๆ ตลอดจนซาตานที่คอยล่อหลอกเราเพื่อให้เรามาเป็นอย่างที่มันเป็น คิดอย่างที่มันคิด เพื่อให้คนทั้งหลายไม่รู้จักพระเจ้าและเดินออกจากทางของพระองค์ เราต้องไม่ปล่อยให้ตัวเราคล้อยตามโลกนี้
เราเคยได้ยินใช่ไหมว่าร่างกาย มีอวัยวะ 32 ส่วน พระเยซูทรงจ่ายราคาโดยซื้อเราด้วยราคาสูง
1คร. 6:19 ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง
1คร. 6:20 เพราะว่าพระเจ้าทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง ฉะนั้น
จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของพวกท่านเถิด
ในภาษาฮีบรู ใช้คำว่า Beit หรือ Bayit แปลว่าบ้าน หรือบ้านของพระเจ้า พระคัมภีร์แปลบางฉบับใช้คำว่า ผู้เชื่อในพระเจ้าร่างกายของเขาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ได้รับจากพระเจ้า และคุณไม่ใช่เจ้าของตัวเอง
นั้นนั้นเราจึงไม่ใช่เจ้าของตัวเราเองแต่พระเยซู ทรงเป็นเจ้าของชีวิตเรา ทุกอย่างเป็นของพระเจ้า
ดังนั้น ใครที่ทำร้ายตัวเองก็เท่ากับทำลายทรัพย์สินของพระเจ้า หรือแม้แต่คิดทำร้ายคนอื่น
เราจึงเป็นคนมีเจ้าของ
ผมเชื่อแน่ว่าเราทุกคนมีความประสงค์ที่จะถวายตัวแน่นอนแต่การถวายตัวคืออะไร วันนี้ผมอยากตอกย้ำ
สิ่งนี้ซึ่งเป็นความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของเรา
ถ้าเราเป็นเจ้าของตัวเองเรา นั่งครองบนบัลลังก์ใจตัวเอง โดยที่ผู้ครอบครองเป็นเจ้าของไม่ใช่พระเจ้า อะไรจะเกิดขึ้นพระองค์ก็จะไม่ใช้สิทธิ์ ภายในเรา แต่ถ้าเรามอบถวายตัวเราให้กับพระเจ้า องค์พระเยซูแล้ว
ศัตรูหรือมารร้ายก็ไม่มีสิทธิ์ แม้จะแตะต้องเราได้ อาเมน
รม. 6:13 อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เหมือนคนที่เป็นขึ้นมาจากตายแล้ว และจงให้อวัยวะเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า
การถวายตัวคืออะไร ? เมื่อเราเชื่อในพระเจ้า เท่ากับเราได้มีส่วนในพระองค์และถวายตัวแก่พระองค์
ในโรม บทที่ 12 พูดถึงเรื่องการถวายตัว
1. การถวายตัวไม่ใช่การบังคับ
แน่นอนเราเองมีเสรีภาพแต่เราจะเลือกเสรีภาพฝั่งไหน อาจารย์ เปาโลเห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ จึงใช้คำว่า “วิงวอน” รากศัพท์คำนี้มีรากสัพท์เดียวกับคำว่า “ขอทาน” รากศัพท์ใช้คำว่า beg แปลว่า ขอทาน, ขอความกรุณา , ขอร้อง , อ้อนวอน
2. การถวายตัวเป็นเรื่องของทุกคนไม่ใช่ใครบางคน เพราะพระเจ้าทรงไถ่เราทุกๆคน
3. เห็นแก่พระเมตตาของพระเจ้า
4. เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต
5. จงบริสุทธิ์ หมายถึง แยกออกมาต่างหาก เพื่อพระเจ้า (คาโดช)
6. เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า เพราะพระเจ้าประสงค์เช่นนั้น
7. เป็นการ นมัสการ พระเจ้า เป็นกลิ่นหอมที่พระเจ้าทรงพอพระทัย
นี่คือชีวิตที่นมัสการ “เป็นการยกย่องเทิดทูนพระเจ้า”
อีกมุมหนึ่งที่แม้พระวจนะจะไม่พูดตรงๆ แต่สิ่งที่น่าคิดตามคือ ในอดีตการ นมัสการ การถวายบูชาคือต้องเผาเครื่องบูชาด้วยไฟ เครื่องหอมต่างๆให้เกิดควัน ใช่ไหม ?
ซาตานต้องการอะไร ซาตานมีใจกบฎ ต้องการ การนมัสการจากมนุษย์ อยากเป็นพระเจ้าเสียเอง
เมื่อมนุษย์ไม่เชื่อฟัง และทำลายพระวิหาร พระเจ้าไม่สถิตอยู่ด้วย แล้วเมื่อพระเจ้าไม่อยู่ ใครล่ะ จะเข้าครอบครอง บัลลังก์ใจที่ว่างเปล่า เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้พรากจากไป … ซาตาน
เมื่อซาตาน มีชัยชนะต่อความคิด และการเชื่อฟังของเรา บุหรี่ที่ถูกจุดด้วยไฟ และควันไฟที่เข้าสู่ร่างกาย เปรียบเสมือน การนมัสการและบูชา ซาตาน โดยที่เราเองก็ไม่ได้ตั้งใจ หรืออยากให้เป็นแบบนั้น
ความเป็นมาของบุหรี่นั้น บางที่มาก็บอกว่า ชาวอินเดียวแดงใช้สูบเพื่อความสำราญ ปลดเปลื้องความทุกข์ใจ แต่มีอีกที่มาที่เก่าแก่กว่า คือ
ประวัติความเป็นมาของบุหรี่
ชาวอินเดียนแดงซึ่งเป็นชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา ได้เริ่มต้นใช้ยาสูบเป็นพวกแรก โดยปลูกยาสูบเพื่อใช้เป็นยาและนำมาสูบในพิธีกรรมต่างๆ ใน พ.ศ. ๒๐๓๕ เมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) เดินเรือไปขึ้นฝั่งที่ซันซัลวาดอร์ ในหมู่เกาะเวสต์อินดีส์นั้น ได้เห็นชาวพื้นเมืองนำเอาใบไม้ชนิดหนึ่งมามวนและจุดไฟตอนปลายแล้วดูดควัน ต่อมา พ.ศ. ๒๐๙๑ มีการปลูกยาสูบในบราซิลซึ่งเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสในทวีปอเมริกาใต้ เพื่อเป็นสินค้าส่งออก เป็นผลให้ยาสูบแพร่หลายเข้าไปในประเทศโปรตุเกสและสเปนตามลำดับ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๑๐๓ นายฌอง นิโกต์ (Jean Nicot) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศโปรตุเกส ได้ส่งเมล็ดยาสูบมายังราชสำนักฝรั่งเศส ชื่อของนายนิโกต์จึงเป็นที่มาของชื่อสารนิโคติน (Nicotin) ที่รู้จักกันในปัจจุบัน ใน พ.ศ. ๒๑๐๗ เซอร์จอห์น ฮอคกินส์ (Sir John Hawkins) ได้นำยาสูบเข้าไปในประเทศอังกฤษ และใน พ.ศ. ๒๑๕๕ นายจอห์น รอลฟ์ (John Rolfe) ชาวอังกฤษ ประสบผลสำเร็จในการปลูกยาสูบเชิงพาณิชย์ เป็นครั้งแรก และ ๗ ปีต่อมา ก็ได้ส่งออกผลผลิตไปยังประเทศอาณานิคมเป็นจำนวนมหาศาล อีก ๒๐๐ ปีต่อมา การทำไร่ยาสูบเชิงพาณิชย์จึงเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายทั่วโลก
ที่มา: http://www.smokefreeschool.net/1823-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88/
วันนี้อยู่ที่การตัดสินใจ พระเจ้ารักเราทุกคน วันนี้เราจะเลือกสิ่งใด เราจะเชิญสิ่งใดเข้ามาสู่ชีวิตของเรา
เราจะเชิญการทรงสถิต เชิญพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ เข้ามาประทับท่ามกลางเรา ตลอดไป
หรือเราจะเชิญ บุหรี่ที่เป็นตัวแทนการทำลาย เป็นตัวแทนของซาตานที่เป็น ปิศาจ เข้าสู่ร่างกายของเรา
ยก. 3:10 คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้น
ในพระเจ้าไม่มีสีเทา มีแค่ขาวกับดำ เราอาจจะไม่สมบูรณ์ที่สุด และไม่มีวันสมบูรณ์ด้วยความตั้งใจ แต่เมื่อเราตั้งใจ พระเจ้ามองเห็น ในความตั้งใจของเรา วันนี้เราพยายามมากแค่ไหน
เมื่อเราสูบบุหรี่ หรือแม้แต่ดื่มเหล้า เท่ากับเราตั้งใจจะทำลายพระวิหารของพระเจ้า คือร่างกายของเราเอง
1คร. 3:17 ถ้าใครทำลายวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายคนนั้น เพราะว่าวิหารของพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์ และพวกท่านเป็นวิหารนั้น
เราอยากให้ร่างกายเราเป็นที่ประทับของพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ใช่ไหม เราไม่อยากให้ร่างกายเราที่ที่อยู่ของปิศาจใช่ไหม เมื่อเราสูบบุหรี่ เราก้เป็นส่วนหนึ่งของระบบโลก เหมือนพระวจนะที่หนุนใจเราว่า “อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงเปลี่ยน !!”
วว. 18:2 ท่านร้องประกาศด้วยเสียงกึกก้องว่า “บาบิโลนมหานครพังทลายแล้ว พังทลายแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของพวกผี เป็นที่อยู่ของวิญญาณทุกชนิดที่โสโครก เป็นที่อยู่ของนกทุกชนิดที่โสโครก และเป็นที่อยู่ของสัตว์ร้ายทุกชนิดที่โสโครก และน่าเกลียดน่าชัง
จงถวายเกียรติแด่พระเจ้า 1คร. 10:31 เพราะฉะนั้นเมื่อพวกท่านจะรับประทาน จะดื่ม หรือจะทำอะไรก็ตาม จงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
1. อย่าพยายามที่จะเลิก ในอำนาจของตัวเอง แต่โดยฤทธิ์อำนาจของพระเยซู (ยาชูวา)
2. ผูกมัดซาตานในพระนามของ ยาชูวา และออกคำสั่งให้มันออกไปจากเรา
3. จงขอบพระคุณและ สรรเสริญพระ ยาห์เวห์ ในความเชื่อว่าเรื่องนี้พระองค์ได้ทรงกระทำ
4. ทำพันธสัญญา ว่าคุณจะไม่กลับไปสูบบุหรี่อีก
อย่าบอกว่าฉันจะทำให้ดีที่สุด หรือฉันจะเริ่มต้นใหม่เพราะมันจะเริ่มใหม่เรื่อยๆ แต่ต้อง 100% กับกับแก้ไข
อธิษฐานตัดสายสัมพันธ์กับการเชื่อมโยงสู่โรค ทุกโรคที่เกิดจากบุหรี่
ทำลายคำสาป ถ้าการเผาไหม้นี้มาจากการถวายเครื่องหอมพระอื่น ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยอำนาจของพระโลหิต
ทำพันธสัญญาในพระนามพระเยซู มีพยานรับรู้ ว่าจะไม่ซื้อ ไม่ขอ เพื่อนำไปถึงการลบหลู่พระวิหารอันบริสุทธิ์ อาเมน
จงทำลาย บุหรี่ทั้งหมดถ้ามันยังอยู่ใน การครอบครองของคุณ !!
เรื่องเยียวยาเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยผู้ที่มีความเข้าใจ เพื่อจะช่วยเราให้หลุดพ้นจากอำนาจของ นักพ่นควัน
ปรึกษาพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณของคุณ !
จงมีความเชื่อตระหนักเสมอว่า
1คร. 10:13 ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้
ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ชาโลม
Ktm.Emunah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น