เดือน Elul เทศกาลแห่งการกลับใจและให้อภัย
จากบทความที่ผ่าน ๆ มาเรารู้ว่าเดือน Elul เป็นช่วงเวลาแห่งการกลับใจ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการให้อภัย หลายคนอาจจะบอกว่าการให้อภัยเป็นสิ่งที่ไม่ยากเท่าไรเมื่อเรากล่าวว่า "ให้อภัย" ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่ต่างไปจากการ "กลับใจ" เราอาจจะคิดว่าเมื่อทำผิดหรือทำบาป เราก้ระลึกว่ามันผิดและจะไม่ทำอีกและรู้สึกผิดแต่ในความเป็นจริง สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการกลับใจเท่านั้นที่ยังไม่สมบูรณ์ การกลับใจที่แท้จริงต้องมีกระบวนการ- รู้สึกผิด หรือเสียใจ ไม่ใช่เสียใจหรือรู้สึกผิดแล้วตัวเองแย่กว่าเดิม (ฟ้องผิดตัวเอง) แต่รู้สึกผิดในการละเมิดที่ได้ทำความบาป
- ละทิ้ง บาปที่ทำต้องละทิ้ง เราลองจินตนาการเมื่อเราเอาถุงขยะไปทิ้งเราต้องระลึกเสมอว่า มันคือ "ขยะ" ที่ต้องทิ้งและไม่หันกลับไปเอามาอีก
- สารภาพ เราสารภาพกับพระเจ้าด้วยคำอธิษฐาน การสารภาพเป็นการปลดล็อคความรู้สึกบาปที่พันธนาการเราทั้งหลายอยู่
- แก้ไขและก้าวเดินต่อไป นี่คือความสำเร็จเสร็จสิ้นของการกลับใจที่แท้จริง เมื่อเราหันกลับมาหาพระเจ้าและดำเนินไปให้สมเป้นลูกของพระองค์
ดังนั้นการ ให้อภัยก้เช่นเดียวกัน หากเรากล่าวว่าให้อภัยแต่ในใจยังเก็บความรู้สึกและเจ็บแค้นอยู่ เราก็ยังไม่ได้ให้อภัยอย่างแท้จริง ไม่ได้หมายความว่าเราจะลืมทุกสิ่ง แต่สิ่งเหล่านั้นจะไม่ทำให้เราเจ็บได้อีกต่อไป
"ให้อภัย" คนที่ทำร้ายเราและเราอนุญาตให้พระเจ้ารักษาเรา ในประเพณีฮีบรูมีสามระดับของการให้อภัย
- Slichah
ขั้นตอนแรกในกระบวนการให้อภัยคือ slichah ในภาษาฮีบรูหมายถึงการอภัยโทษ, ให้อภัย, ยกโทษให้, ภาาาคนพุทธก็คือ อโหสิกรรมให้ประมาณนั้น ในอิสราเอลเมื่อต้องการจะพูดว่า "ขอโทษ" (excuse me) คุณจะพูดว่า "slichah" เป็นระดับพื้นฐานที่สุดของการให้อภัย โดยเฉพาะบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เมื่ออยู่ในระยะแรกนี้ เราเองต้องให้อภัยผู้อื่น และขอให้อภัยคนอื่นที่จะยกโทษให้เราในสถานการณ์ระยะแรกนี้
ให้อภัยสามารถนำมาซึ่งการรักษาและการเริ่มต้นใหม่ ๆ ในความสัมพันธ์ ยิ่งกว่านั้นด้วยกระบวนการ slichah พระเจ้าสามารถสอนเราถึงวิธีสร้างกำแพงที่ทำให้เราไม่อยู่ในความสับสนวุ่นวายภายนอก อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่กำแพงอารมณ์ที่เราสรางเพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้น แต่เป็นกำแพงที่ทำให้เราอยู่ในบ้านของพระบิดาและไม่ให้เรากลับไปสู่ความเจ็บปวดที่เราเคยประสบมา
กำแพงเหล่านี้เปรียบได้กับการอยู่ในพระบิดา มีกำแพงแบ่งแยกเราออกจากสิ่งที่ด้านนอกบ้านของพระเจ้า คล้ายกับคำอุปมาของงานเลี้ยงสังสรรค์ ภายในเป็นแขกผู้มีเกียรติที่ยอมรับคำเชิญไปงานเลี้ยงสังสรรค์ นอกกำแพงผู้ที่ปฏิเสธคำเชิญที่มีการร้องไห้
สดด. 130:1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์จากที่ลึก
สดด. 130:2 ข้าแต่องค์เจ้านาย ขอทรงฟังเสียงของข้าพระองค์ ขอเงี่ยพระกรรณ ฟังเสียงวิงวอนของข้าพระองค์
สดด. 130:3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ถ้าพระองค์จะทรงบันทึกความชั่วไว้ ข้าแต่องค์เจ้านาย ผู้ใดจะยืนอยู่ได้?
สดด. 130:4 แต่พระองค์มีการอภัย เพื่อคนจะยำเกรงพระองค์
- Mechilah
ระดับที่สองของการให้อภัย / สำนึกผิดคือ mechilah จากรากคำ mochul ความหมายคือ วงกลม หรือวงจร ในภาษาฮีบรูคำนี้หมายถึงการยกเลิกหรือเช็ดออกไป ในช่วงนี้พระเจ้าสอนเราว่าควรจะปล่อยมืออย่างไร เป็นอิสระจากอำนาจที่คนอื่นยึดคุณไว้ โฟกัสของ mechilah คือคุณ นี่เป็นระดับที่น่ายกย่องที่สุดเพราะสำหรับพวกเราส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องยากที่จะข้ามอุปสรรคของตัวเองได้
หลายต่อหลายครั้งที่เรายึดมั่นต่อความเจ็บปวดที่ผ่านมาและเหตุผลมากมายที่อ้างว่าไม่ควรปล่อยให้พวกเขาไป หรือเรารู้สึกผิดกับสิ่งที่เราทำและปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเราสมควรที่จะได้รับการให้อภัย เมื่อเราปล่อยมือจากความเจ็บปวดและความผิดนี้ไป จนในที่สุดเราก็จะสามารถรับการรักษาที่สำคัญภายในตัวเราได้ ด้วยการให้ความรู้สึกเจ็บปวดและความผิดที่จะถูกลบออกไป
พระเจ้าสามารถนำพาการเริ่มต้นใหม่ ๆ ของพระองค์ผ่านความเชื่อศรัทธา โดยพระคุณและความเมตตา เมื่อยอมจำนนต่อการรักษาของพระองค์อย่างสิ้นเชิงเราก็จะเห็นว่า พระเจ้ากลายเป็นกำแพงที่แยกเราออกจากความสับสนอลหม่านภายนอก สังเกตว่าในระดับนี้ไม่มีการเอ่ยถึงคนอื่นเช่นในระยะแรก ในขั้นตอนนี้คุณจะปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับพระเจ้าเพียงผู้เดียว
สดุดี 51:1-10 คำอธิษฐานขอการชำระและการอภัยบาป
สดด. 51:1 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์ ตามความรักมั่นคงของพระองค์ ตามพระกรุณาอันอุดมของพระองค์ ขอทรงลบบรรดาการละเมิดของข้าพระองค์
สดด. 51:2 ขอทรงล้างข้าพระองค์ให้หมดจดจากความชั่วของข้าพระองค์ และขอทรงชำระข้าพระองค์จากบาปของข้าพระองค์
สดด. 51:3 เพราะข้าพระองค์ทราบถึงการละเมิดของข้าพระองค์แล้ว และบาปของข้าพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพระองค์เสมอ
สดด. 51:4 ข้าพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์ ต่อพระองค์เท่านั้น และได้ทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรพระองค์ ดังนั้น พระองค์ทรงชอบธรรมในการพิพากษา และไร้ตำหนิในการตัดสินนั้น
สดด. 51:5 แท้จริง ข้าพระองค์ถือกำเนิดมาในความชั่ว และข้าพระองค์เป็นคนบาปตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
สดด. 51:6 แน่ทีเดียว พระองค์ทรงประสงค์ความจริงในใจ เพราะฉะนั้น ขอทรงสอนสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ในที่ลี้ลับ
สดด. 51:7 ขอทรงชำระมลทินจากข้าพระองค์ด้วยต้นหุสบ ข้าพระองค์จึงจะสะอาด ขอทรงล้างข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะขาวกว่าหิมะ
สดด. 51:8 ขอทรงให้ข้าพระองค์ได้ยินความปีติและความยินดี ขอกระดูกซึ่งพระองค์ทรงหักนั้นเปรมปรีดิ์
สดด. 51:9 ขอซ่อนพระพักตร์พระองค์จากบาปทั้งหลายของข้าพระองค์ และขอทรงลบความชั่วทั้งสิ้นของข้าพระองค์
สดด. 51:10 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
- Kapparah
ขั้นตอนที่สามและขั้นสุดท้ายของการให้อภัย / การกลับใจคือ kapparah ซึ่งหมายถึงการทำการลบล้าง หรือการไถ่คืน หลังจากผ่านการต่อสู้อย่างหนักในสองช่วงแรกแล้วจะอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายนี้ ที่เราจะผ่านทั้งหมดอีกครั้ง ในขระที่เราต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้าในทุก ๆ ขั้นตอน
ในขั้นตอนนี้เราต้องปล่อยให้ชีวิตที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ของเรา จากคนอื่น ๆ , ความรู้สึกผิด, ความอัปยศและความเจ็บปวด ปล่อยให้พระเจ้าเข้ายึดครองและทำให้เรามีความสมบูรณ์อีกครั้ง kapparah คือความเชื่อศรัทธา พระคุณและความเมตตาที่จะฟื้นฟูความสมดุลระหว่างเรากับคนอื่น และของเรา พระเจ้าจะนำผ่านจุดเริ่มต้นใหม่ ๆ และคนที่ยอมจำนนอย่างเต็มที่และยอมให้ปากของเขาเชื่อฟังพระเจ้าจะถูกยกขึ้น
นั่นคือเสรีภาพที่แท้จริง! นอกจากนี้เรายังสามารถเห็นได้ว่าคนที่ยอมจำนนต่อกระบวนการให้อภัย / การกลับใจและยอมให้ปากของพวกเขาเชื่อฟังจะถูกยกขึ้นโดยพระเจ้า
"เพราะว่าปากย่อมพูดสิ่งที่เต็มล้นอยู่ในจิตใจ" พระเจ้าทำให้อ่อนน้อมสำหรับหัวใจที่ให้อภัย ในกระบวนการสุดท้ายนี้ นั่นหมายความว่าเมื่อคุณให้อภัยอย่างแท้จริง / และได้รับการอภัยคุณจะไม่สามารถนำเรื่องนี้ขึ้นมาพูดในมุมลบ ๆ ได้อีกต่อไป มันจบไปแล้ว ! คำวิจารณ์ไม่สามารถทำอะไรคุณได้ คุณไม่อนุญาตให้ศัตรูใช้มันเพื่อสร้างความผิดและอัปยศแก่คุณได้อีกต่อไป ด้วยการยอมจำนนต่อการให้อภัยและทำให้จิตใจเราอ่อนลง เราให้ความเจ็บปวดของเรา, ความโกรธ, ความรู้สึกผิด และความอับอาย อยู่ไกลไปทางทิศตะวันตก พระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้เรา "เป็นหัวไม่ใช่เป็นหาง"
เจ้าจงให้เป่าเขาสัตว์ทั่วแผ่นดินในวันลบมลทิน จงถือปีที่ห้าสิบไว้เป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพแก่บรรดาคนที่อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินของเจ้า ให้เป็นปีอิสรภาพแก่เจ้า - เลวีนิติ 25:9ข-10ก
ขั้นตอนการให้อภัย / การกลับใจไม่ใช่เรื่องง่าย - ใช้ความกล้าหาญในการทำให้มันผ่านไปได้ แต่เมื่อคุณทำผลลัพธ์ที่ได้คือความสวยงาม, สะอาดสะอ้านไร้ซึ่งมลทิน เจ้าสาวที่บริสุทธิ์ที่ผ่านการถลุงด้วยไฟ พระเจ้าไม่ต้องการให้เราติดอยู่กับที่ของเราและไปไหนต่อไม่ได้ แต่พระองค์ต้องการให้เราก้าวไปข้างหน้าและ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดกระบวนการชำระและกระบวนการถลุงเพื่อขัดเกลา
เรามักจะมองว่าความเจ็บปวดหรือความรู้สึกผิดของเราเป็นสิ่งที่ติดอยู่กับเราและไม่เคยทิ้งเรา พระเจ้าต้องการให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ อย่าได้มองย้อนกลับไป อย่าเป็นคนนั้นอีกที่เจ็บปวดและอย่าปล่อยให้ใครนอกจากพระองค์มีอำนาจเหนือเรา ในความเมตตาและพระคุณที่ไม่มีขีดจำกัด พระองค์ประสงค์ให้เราเริ่มต้นใหม่อย่างสมบูรณ์ มันขึ้นอยู่กับเราที่จะจับมันโดยการ teshuvah (กระบวนการกลับใจ / ให้อภัย) และกลับไปหาพระองค์หรือไม่ เดือนนี้ Elul ขอให้เราทั้งหลายพิจารณา และใคร่ครวญเถิด
พคค. 3:22 ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด
พคค. 3:23 เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก
พคค. 3:24 จิตใจข้าพเจ้าว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นมรดกส่วนของข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นข้าพเจ้ามีความหวังในพระองค์”
อสย. 43:18 พระองค์ตรัสดังนี้ว่า “อย่าจดจำสิ่งที่ล่วงเลยมาแล้วนั้น อย่าพิเคราะห์เรื่องในอดีต
อสย. 43:19 นี่แน่ะ เรากำลังทำสิ่งใหม่ๆ บัดนี้ มันงอกขึ้นมา เจ้าไม่เห็นหรือ? และเราจะทำทางในถิ่นทุรกันดาร และแม่น้ำในที่แห้งแล้ง
อฟ. 4:22 คือได้รับการสอนให้ทิ้งตัวเก่าของพวกท่านที่คู่กับการประพฤติแบบเดิม ซึ่งถูกตัณหาล่อลวงทำให้พินาศไป
อฟ. 4:23 และให้วิญญาณและจิตใจของพวกท่านได้รับการเปลี่ยนใหม่
อฟ. 4:24 และรับการสอนให้สวมสภาพใหม่ ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นตามแบบของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
ชาโลม
ktm.Emunah
ที่มา :
http://voiceindesert.com/tag/elul/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น