พระเยซูสาปต้นมะเดื่อ
ต้นมะเดื่อถูกใช้เป็นอุปมาอุปไมยเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของบรรดาผู้ที่เป็นชนชาติอิสราเอลแท้ ๆ ในสายพระเนตรของพระบิดาบนสวรรค์ การกล่าวถึงต้นมะเดื่อครั้งแรกเป็นภาพประกอบของประเทศชาติของอิสราเอล ปรากฏใน (ผู้วินิจฉัย)วนฉ. 9:9 แต่ต้นมะกอกตอบว่า ‘จะให้ฉันหยุดผลิตน้ำมันซึ่งเขาใช้ถวายเกียรติแด่พระและแก่มนุษย์ เพื่อไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้ทั้งหลายหรือ?’
วนฉ. 9:10 แล้วต้นไม้เหล่านั้นจึงไปพูดกับต้นมะเดื่อว่า ‘เชิญท่านมาปกครองเราเถิด’
วนฉ. 9:11 แต่ต้นมะเดื่อตอบว่า ‘จะให้ฉันหยุดผลิตรสหวานและผลดีของฉัน และไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้ทั้งหลายหรือ?’
มธ. 21:18 พอรุ่งเช้า ขณะเสด็จกลับไปยังกรุง พระองค์ทรงหิว
มธ. 21:19 และเมื่อทอดพระเนตรเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง ก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ และไม่ทรงพบสิ่งใดบนต้นนั้นนอกจากใบ จึงตรัสกับมะเดื่อต้นนั้นว่า “จงอย่าเกิดผลอีกต่อไป” ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวแห้งไป
นี่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหมันทางจิตวิญญาณของอิสราเอลใน อิสยาห์ 54:1
อสย. 54:1 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงร้องเพลงเถิด โอ หญิงหมันที่ไม่ได้คลอดบุตร จงเปล่งเสียงร้องเพลงและจงร้องเสียงดัง เจ้าผู้ไม่ได้เจ็บครรภ์ เพราะว่าบุตรของแม่ร้างจะมีมากกว่า บุตรของหญิงที่แต่งงาน
ดั่งคนพันธสัญญาแห่งพระเจ้า อิสราเอลอยู่ในดินแดนของพวกเขามาเป็นเวลายาวนาน แต่ก็ยังไม่เกิดผลฝ่ายวิญญาณ พระเยซูสาปแช่งต้นมะเดื่อ โดยกล่าวว่า มธ. 21:19 และเมื่อทอดพระเนตรเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง ก็ทรงดำเนินเข้าไปใกล้ และไม่ทรงพบสิ่งใดบนต้นนั้นนอกจากใบ จึงตรัสกับมะเดื่อต้นนั้นว่า “จงอย่าเกิดผลอีกต่อไป” (มัทธิว 21:19) ทันใดนั้นต้นมะเดื่อก็เหี่ยวแห้งไป คำที่ใช้สำหรับ "ตลอดไป" (ever) คือ "กัลป์" (aeon) ซึ่งหมายถึงระยะเวลาอันยาวนานเช่น "ยุค" ในพระธรรมมัทธิว 24: 3 เหล่าสาวกถามพระเยซู "อะไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมาและยุคเก่าจะสิ้นสุดลง"
มธ. 24:3 ระหว่างที่พระเยซูประทับบนภูเขามะกอกเทศ สาวกทั้งหลายมาเฝ้าเป็นส่วนตัวกราบทูลว่า “ขอโปรดให้พวกข้าพระองค์ทราบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่? และอะไรเป็นหมายสำคัญว่าพระองค์จะเสด็จมาและยุคเก่าจะสิ้นสุดลง? (aeon)?”
ซึ่งหมายความว่าต้นมะเดื่อจะไม่เหี่ยวและแห้งแล้งตลอดไป จนจะสิ้นสุดของยุคปัจจุบันนี้ระหว่างการมาครั้งแรกและครั้งที่สองของพระองค์
นี่เป็นข้อบ่งชี้ว่าพระองค์มีพระประสงค์ที่จะรื้อฟื้นประเทศชาติในอนาคต พระเมสิยาห์ของพวกเรา พระเยซูทรงเห็นชายคนหนึ่งที่ชื่อนาธานาเอลนั่งใต้ต้นมะเดื่อและพูดกับเขาว่า “นี่แหละ ชาวอิสราเอลแท้ ในตัวเขาไม่มีอุบาย” นาธานาเอลนั่งอยู่ใต้ต้นมะเดื่อก็หมายความว่าเขาอยู่ใต้อำนาจของพระเจ้าและพระบัญญัติของพระองค์
ยน. 1:47 พระเยซูทอดพระเนตรเห็นนาธานาเอลมาหา พระองค์จึงตรัสเกี่ยวกับตัวเขาว่า “นี่แหละ ชาวอิสราเอลแท้ ในตัวเขาไม่มีอุบาย”
ยน. 1:48 นาธานาเอลทูลพระองค์ว่า “ท่านรู้จักข้าพเจ้าได้อย่างไร?” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราเห็นท่านอยู่ใต้ต้นมะเดื่อก่อนที่ฟีลิปจะเรียกท่าน”
ยน. 1:49 นาธานาเอลทูลตอบพระองค์ว่า “รับบี พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล”
ความหมายของภาษาฮีบรูชื่อของเขาคือ # H5417 นาธาเอล หมายถึง “given of God” หรือ “given of El”
ในมัทธิว 21: 19-21 พระองค์ทรงสาปแช่งต้นมะเดื่อเพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศของอิสราเอล และอาณาจักรของยูดาห์ จะถูกทำลายเพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะกลับใจและยปฏิเสธการลบล้างโลหิตที่นำเสนอแก่พวกเขาสำหรับความผิดบาปของตน แต่พระองค์สัญญาว่าจะฟื้นฟูและไถ่ชนชาติของอิสราเอล โดยการรวบรวมพวกเขาออกจากประเทศต่าง ๆ และจะนำพวกเขากลับเข้าไปในพันธสัญญาที่นี่พระเยซูทรงใช้ต้นมะเดื่อและเถาองุ่นเป็นอุปมาของผลไม้ที่ดีและพืชหนาม และขวากหนามเป็นคำอุปมาสำหรับผลไม้ที่ไม่ดี
มธ. 7:16 พวกท่านจะรู้จักพวกเขาได้ด้วยผลของพวกเขา ผลองุ่นนั้นเก็บได้จากต้นไม้มีหนามหรือ? และผลมะเดื่อนั้นเก็บได้จากพืชหนามหรือ?
มธ. 7:17 ต้นไม้ดีย่อมให้แต่ผลดี ต้นไม้เลวก็ย่อมให้ผลเลว
มธ. 7:18 ต้นไม้ดีจะเกิดผลเลวไม่ได้ หรือต้นไม้เลวจะเกิดผลดีก็ไม่ได้
ในอุปมาของต้นมะเดื่อที่แห้งแล้งที่นั่นเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ต้องเรียนรู้:
ลก. 13:6 พระองค์ตรัสอุปมาต่อไปนี้ว่า “ชายคนหนึ่งปลูกต้นมะเดื่อต้นหนึ่งไว้ในสวนองุ่นของตน และเขามาหาผลที่ต้นนั้นแต่ไม่พบ
ลก. 13:7 เขาจึงพูดกับผู้ที่รักษาเถาองุ่นว่า ‘นี่แน่ะ เรามาหาผลที่ต้นมะเดื่อนี้สามปีแล้ว แต่ไม่พบ จงโค่นมันทิ้งไป จะให้ดินจืดไปเปล่าๆ ทำไม?’
ลก. 13:8 แต่ผู้รักษาเถาองุ่นตอบเขาว่า ‘นายเจ้าข้า ขอเก็บเอาไว้อีกปี ลองให้ข้าพเจ้าพรวนดินใส่ปุ๋ยดู
ลก. 13:9 ถ้าปีหน้ามันเกิดผลก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ท่านจะโค่นมันทิ้งก็ได้’ ”
ต้นไม้นี้ถูกปลูกไว้ในสวนองุ่นของพระเจ้า (แผ่นดินของอิสราเอล) แต่มันไม่ได้ผลใด ๆ ทั้งสามฤดูกาลที่แห้งแล้ง หมายถึงช่วงสามปีที่พระเยซูได้ทรงปรนนิบัติในประเทศอิสราเอลก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน หลังจากนั้นประเทศอิสราเอลได้รับเวลามากขึ้นเพื่อกลับใจใหม่ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่มอบให้อัครสาวกและสาวกแห่งพระเมสสิยาห์
ชาโลม
ktm.Emunah
ที่มาบางส่วน :
http://doubleportioninheritance.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น