วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ปีใหม่ที่แท้จริง

ปีใหม่ที่แท้จริง
 


ทุกเดือนของวันสิ้นปีระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม เข้าสู่ 1 มกราคม เป็นวันที่ทุกคนเริ่มต้นที่จะส่งความปรารถนาดี และอวยพรทุกคนด้วยกันว่า "สวัสดีปีใหม่" "Happy New Year" แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปีใหม่นี้เป็นปีใหม่ตามพระผู้สร้างของเราหรือไม่ ?

นี่เองเราจึงไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาของการถูกควบคุมชีวิตของเรา แต่พระผู้สร้างของเราเป็นผู้ทรงอำนาจที่กำหนดวันเวลาและฤดูกาล ตลอดจนปฏิทินของพระองค์

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พระนาม ยาฮูวาห์ และบัญญัติ 10 ประการ

พระนาม ยาฮูวาห์ และบัญญัติ 10 ประการ

28 ธันวาคม 2013 เวลา 8:03 น.
พระ นามของพระบิดานั้น ถูกแก้ไขจาก เยโฮวาห์ หรือ ยะโฮวาห์ ซึ่งมีคำที่ซ่อนอยู่คือความหมายของหายนะ แท้จริงการออกเสียงพระนามนั้น มีตัวอักษรของฮีบรูคือ Yad, Hey, Waw, Hey และถูกนักวิชาการและนักศาสนศาสตร์ที่มีความรู้แกะออกมา คือ YHWH หรือ ยห์วห์ (หรือ ยฮวฮ ..ฮ เป็นแบบดั้งเดิม) ซึ่งฉบับสมาคมได้แก้ไขเป็น ยาห์เวห์ แต่ก็มีการแกะคำออกมาอีก ซึ่งคล้ายกับคำเดิม ออกเสียงคล้ายกัน คือ YaHuWaH "ยาฮูวาห์" ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ว่าคำนี้ถูกบิดเบือนไปเป็น เยโฮวาห์ หรือ ยะโฮวาห์ วันนี้ผมจึงไม่ได้มาแบ่งปันในเรื่องของพระนาม ว่า ยาห์เวห์ หรือ ยาฮูวาห์ คำไหนถูก แต่อยากแบ่งปันว่า พระนามของพระองค์นั้น ทั้งพระบิดา และพระบุตร ใช้ตัวอักษรคือ

พระบิดา = ยาฮูวาห์ = Yad, Hey, Waw, Hey 4 ตัวอักษร
พระบุตร = ยาฮูชูวาห์ = Yad, Hey,Waw, Shin, Waw, Ayin 6 ตัวอักษร

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พระนามและบัญญัติ 10 ประการ

พระนามและบัญญัติ 10 ประการ 


พระนามของ YaHuWaH 4 ภาษาฮีบรู Yad, Hey, Waw, Hey
4 ตัวอักษรแรก ออกมาจากบัญยัติ 10 ประการ บอกเราว่า จะรักพระเจ้าพระบิดาของเรา

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กินพระวจนะ พระเยซูทรงเป็นอาหารแห่งชีวิต

กินพระวจนะ 
พระเยซูทรงเป็นอาหารแห่งชีวิต
 

ยรม. 15:16 เมื่อพบพระวจนะของพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ก็กินเสีย พระวจนะของพระองค์เป็นความชื่นบานแก่ข้าพระองค์ และเป็นความปีติยินดีแห่งจิตใจของข้าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าจอมทัพ เพราะว่าเขาเรียกข้าพระองค์ตามพระนามของพระองค์

คำว่ากินพระวจนะ ไม่ได้เป็นสำนวน แต่เป็นอุปมา ในบริบทของคนฮีบรู และผู้เขียนได้อุปมาว่า เมื่อเขาได้พบพระวจนะที่เปรียบดังมานา หรืออาหาร เขาก็กินพระวจนะนั้น เปรียบได้กับไม่เพียงแต่อ่านเท่านั้น แต่ยังเข้าใจ รู้เรื่อง ว่าพระวจนะนั้นหมายถึงอะไร พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับเขา
ยาชูวาห์คือโทราห์ พระเยซูคือพระวจนะ พระองค์คืออาหารแห่งชีวิต
 
ยน. 6:35 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต คนที่มาหาเราจะไม่หิว และคนที่วางใจในเราจะไม่กระหายอีกเลย

ยน. 6:48 เราเป็นอาหารแห่งชีวิต


ค่อยๆเคี้ยวอย่างช้าๆ บดอย่างละเอียด เพื่ออาหารนั้นจะตกลงถึงท้องและย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

ชาโลม
ktm.emunah

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พ่อกินองุ่นเปรี้ยวแล้วลูกก็เข็ดฟัน

พ่อกินองุ่นเปรี้ยวแล้วลูกก็เข็ดฟัน

ยรม. 31:29 “ในสมัยนั้น เขาจะไม่กล่าวต่อไปอีกว่า ‘พ่อกินองุ่นเปรี้ยวแล้วลูกก็เข็ดฟัน’
ยรม. 31:30 แต่ทุกคนจะต้องตายเพราะความผิดบาปของตนเอง มนุษย์ทุกคนที่รับประทานองุ่นเปรี้ยว ก็จะเข็ดฟัน”


หมายถึง ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อความผิดบาปของตัวเอง อสค. 18:20 ตัวคนที่ทำบาปจะต้องตาย บุตรไม่ต้องรับโทษความผิดบาปของบิดา บิดาก็ไม่ต้องรับโทษความผิดบาปของบุตร คนชอบธรรมจะรับผลความชอบธรรมของตน และคนอธรรมจะรับผลการอธรรมของตน

เพราะเจ้าจะสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา

เพราะเจ้าจะสุมถ่านที่ลุกโพลง
ไว้บนศีรษะของเขา (2)

สภษ. 25:21 ถ้าศัตรูของเจ้าหิว จงให้อาหารเขากิน และถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม
สภษ. 25:22 เพราะเจ้าจะสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา และพระยาห์เวห์จะประทานบำเหน็จแก่เจ้า


ในพระคัมภีร์ฉบับ ThaiKJV หรือ สมาคม 1971 หลายคนอาจจะสงสัยในคำว่า “เพราะเจ้าจะสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา” คำว่า สุมถ่านเพลิงคืออะไร ?

รม. 12:20 อย่าแก้แค้นเลย ถ้าศัตรูของท่านหิว จงให้อาหารเขารับประทาน ถ้าเขากระหายน้ำก็จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะว่าการทำอย่างนั้น เป็นการสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความยินดีในการเฉลิมฉลองเทศกาล

ความยินดีในการเฉลิมฉลองเทศกาล


กดว. 10:10 ในวันที่เจ้าทั้งหลายมีความยินดีในงานเทศกาลเลี้ยงและในวันต้นเดือนของเจ้า เจ้าจงเป่าแตรเหนือเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและเหนือเครื่องบูชาที่เป็นศานติบูชา ซึ่งจะทำให้พระเจ้าของเจ้าระลึกถึงพวกเจ้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”

คำว่า ความยินดี ตรงนี้ผมเองไม่แน่ใจว่าคือ คำเดียวกับคำว่า ชื่นชมยินดีไหม แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า นี่คืออารมณ์เดียวกัน คือ จงมีความชื่นชมยินดีเถิด

ความแตกต่างระหว่าง Shekinah และ Kivod

ความแตกต่างระหว่าง Shekinah และ Kivod


Shekinah ในภาษาฮีบรู หมายถึง การทรงสถิต การปรากฎหรือสำแดงของพระเจ้า คือการอยู่อย่างต่อเนื่อง คำนี้ยัง หมายความว่าการตั้งรกรากได้ด้วย
presence หมายถึง การมีอยู่, การเข้าร่วม, การปรากฎ, บริเวณใกล้เคียง, การอยู่ต่อหน้า

ส่วนคำว่า Kivod ในภาษาฮีบรู หมายถึง ศักดิ์ศรี หรือ พระสิริ
Glory หมายถึง พระสิริ รัศมี เกียรติศักดิ์, ความรุ่งโรจน์, ความเลื่องชื่อลือนาม, บารมี

Shekinah มีความเกี่ยวข้องกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (Rauch HaKodash) ในสวนเอเดน พระเจ้าอยู่กับพวกเขาที่สวนนั้น กับอาดัม และ เอวา

Kivod คือคุณลักษณะ หรือพระลักษณะของพระเจ้า ขณะที่ Shekinah เป็นกระบวนการของพระเจ้า ถ้อยคำของพระองค์ การสำแดง การทรงสถิต ผ่านทางฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์สถิตอยู่ท่ามกลางเวลาและสถานที่

ktm.emunah

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน

ความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน


รม. 10:17 ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์

หรือ การได้ยินเกิดจากถ้อยคำของพระยาห์เวห์
นั่นคือความเชื่อมั่นในการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง เราจะต้องมีการศึกษาพระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ของขวัญแห่งความเชื่อจะต้องถูกสร้างขึ้นโดยพระดำรัสหรือถ้อยคำของพระยาห์เวห์
เมื่อใดที่เราอ่านและใช้เวลามากขึ้นกับพระวจนะของพระเจ้า และท้ายสุดคุณจะได้ยินชัดเจนและมั่นใจ

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ยึดประตูเมืองศัตรู

ยึดประตูเมืองศัตรู


ปฐก. 22:17 ดังนั้นเราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูทั้งหลายของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์

คำว่า “เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูทั้งหลายของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์” หลายครั้งพระคัมภีร์เขียนโดยสำนวนของคนยิวเอง ซึ่งคล้ายสำนวนไทย ในการได้ประตูเมืองของศัตรูนั้น ในการสงครามหมายถึง การมีชัยชนะ เพราะหากพ่ายแพ้คงไม่สามารถยึดประตูเมืองของศัตรูมาได้

นี่จึงเป็นความหมายของสำนวนฮีบรูว่า “เชื้อสายของเจ้าจะเอาชนะและพิชิต มีชัยชนะต่อศัตรู”

วนฉ. 16:3 แต่แซมสันนอนอยู่จนถึงเที่ยงคืน พอถึงเที่ยงคืนท่านก็ลุกขึ้น จับประตูเมืองและเสาสองต้น ถอนออกพร้อมทั้งดาลประตูใส่บ่าแบกไปถึงยอดเขาซึ่งอยู่ตรงหน้าเมืองเฮโบรน

ขอพระยาห์เวห์อวยพระพร
ชาโลม
ktm.emunah

วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ไก่ขัน สามครั้ง

ไก่ขัน สามครั้ง


มัทธิว 26:34, มาระโก 14:30, ยอห์น 13:38

ลก. 22:31 “ซีโมน ซีโมนเอ๋ย นี่แน่ะ ซาตานขอพวกท่านไว้ เพื่อจะฝัดร่อนเหมือนฝัดข้าวสาลี
ลก. 22:32 แต่เราอธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านหันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน”
ลก. 22:33 เปโตรจึงทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์พร้อมแล้วที่จะไปกับพระองค์ ถึงจะต้องติดคุกหรือตายก็ดี”

ลก. 22:34 พระองค์ตรัสว่า “เปโตรเอ๋ย เราบอกท่านว่าวันนี้ก่อนไก่ขัน ท่านจะปฏิเสธว่าไม่รู้จักเราถึงสามครั้ง”

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

จงพิจารณาความเป็นอยู่ของพวกเจ้า

จงพิจารณาความเป็นอยู่ของพวกเจ้า


ฮกก. 1:5 เพราะฉะนั้นบัดนี้พระยาห์เวห์จอมทัพจึงตรัสว่า จงพิจารณาความเป็นอยู่ของพวกเจ้า

มีพระวจนะหลายตอนที่ชี้นำเราว่า จงพิจารณาความเป็นอยู่ ทำไมเราต้องพิจารณาความเป็นอยู่ของเรา คำว่าพิจารณา
ร่างกายของเราคือพระวิหารคือที่ประทับของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจึงไม่ใช่เจ้าของตัวเราเองที่จะทำสิ่งใดตามใจชอบ หรือตามหนทางที่นอกเหนือจากถ้อยคำของพระเจ้า

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พวกท่านเป็นพงศ์พันธุ์ที่ทรงเลือกสรร

พวกท่านเป็นพงศ์พันธุ์ที่ทรงเลือกสรร


เลวี หรือคนเผ่าเลวีคือปุโรหิตที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระยาห์เวห์ ที่จะเข้าปรนนิบัติในพระวิหาร คนเหล่านั้นในช่วงเวลาของโมเสส คือบุตรชายของอาโรน เขาได้รับให้สวมใส่ชุดที่มีสีต่อไปนี้คือ
สีฟ้า สีแดงเข้ม สีม่วงและสีทอง พระวจนะใน อพยพ

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เสื้อหลากสีของโยเซฟ และพันธสัญญาของพระยาห์เวห์

เสื้อหลากสีของโยเซฟ
และพันธสัญญาของพระยาห์เวห์

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่องราวของโยเซฟตั้งแต่เด็ก การ์ตูนเรื่องโยเซฟผมก็มี เพราะชอบพระวจนะตอนนี้มาก ถ้าเราอ่านในพระวจนะ ตอนหนึ่งเราจะพบว่ามีตอนหนึ่งที่โยเซฟได้เสื้อคลุม
ปฐก. 37:3 ฝ่ายอิสราเอลรักโยเซฟมากกว่าบุตรชายทั้งหมดของท่าน เพราะโยเซฟเกิดมาเมื่อท่านแก่แล้ว บิดาทำเสื้อคลุมยาวมีแขนให้แก่โยเซฟ

เสื้อคลุมในที่นี้พระวจนะหลายฉบับใช้คำว่า เสื้อหลายสี ในไทยคิงเจม ปฐก. 37:3 ฝ่ายอิสราเอลรักโยเซฟมากกว่าบุตรทั้งหมดของท่าน เพราะโยเซฟเป็นบุตรชายที่เกิดมาเมื่อบิดาแก่แล้ว บิดาทำเสื้อยาวหลากสีให้แก่โยเซฟ

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มธ. 5:39 อย่าต่อสู้คนชั่ว ? (2)

มธ. 5:39 อย่าต่อสู้คนชั่ว ? (2)


มธ. 5:39 ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่านก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย


จากประโยคข้างต้นเป็นสำนวน อาราเมค คือการมองข้ามไป หรืออย่าจดจ่อหรือสนใจ ไม่มีการประท้วงหรือวิจารณ์ และการเห็นพ้องที่จะให้อภัย คนชั่วร้าย แต่ไม่ใช่ความชั่วร้าย ถ้าคนนั้นได้กลับใจใหม่อย่างแท้จริง
1.เสียใจ
2.ละทิ้ง
3.สารภาพ
4.แก้ไข


จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป

จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป


อฟ. 4:25 ดังนั้นจงละทิ้งความเท็จ “ให้พวกท่านแต่ละคนพูดความจริงกับเพื่อนบ้านของตน”  เพราะเราต่างเป็นอวัยวะของกันและกัน
อฟ. 4:26 “จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป”  อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่
อฟ. 4:27 อย่าให้โอกาสแก่มาร


อย่าให้ดวงอาทิตย์ตกลงไปพร้อมกับความโกรธของท่าน สำหรับผมแล้ว การตกของดวงอาทิตย์เทียบได้กับการเริ่มต้นวันใหม่ จงอย่างเริ่มต้นวันใหม่พร้อมกับความโกรธ อ่านต่อ

วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

จงมีความหวังใจ และรับการื้อฟื้น


ชาโลม นี่เป็นเวลาของการลุกขึ้นจากความสิ้นหวัง
ก้าวเข้าสู่ความหวังใจ และรับการรื้อฟื้น
นี่อาจจะเป็นเวลาท้อแท้ใจของใครบางคน

นี่อาจจะเป็นเวลาสิ้นหวังของใครหลายคน
นี่อาจจะเป็นเวลาหมดสิ้นเรี่ยวแรงและไร้ซึ่งหนทางที่เราจะมองทางออกได้

เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาของเทศกาล
ฮานุกกาห์ เทศกาลแสงสว่างแห่วความหวังใจ
และนี่เป็นเวลาแห่งการรื้อฟื้น