วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

SMS

SMS
ในสมัยอดีต สมัยยังเป็นนักเรียน จะคุยกับสาวสักคน อยากจะรู้จัก และสานความสัมพันธ์ให้มากขึ้น วิธีก็คือเขียนจดหมาย (จริงๆผมก็ยังไม่แก่เลยนะ) เขียนโต้ตอบกันไปมา หรือไม่ก็มาหยอดเหรียญโทรมากัน ต่อมาก็พัฒนามาเป็น เพจเจอร์ ส่งข้อความคิดถึงกัน จนอ่านแล้ว หวานแหวว มีความสึขดีจริงๆ ตอนนี้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมปัจจัยสำคัญของมนุษย์ที่จะขาดเสียไม่ได้ คริสเตียนเองวันไหน ลืมพระคัมภีร์ก็ช่าง ไม่เป็นไร แต่วันไหนลืมมือถือ ยังไงก็ต้องกลับไปเอาให้ได้ กลัวจะไม่ได้คุย กลัวจะไม่ได้ติดต่อ กลัวจะขาดการติดต่อ จดจ่อแบบ
ไม่บันยะบันยัง บางคนถึงขั้นนั่งรอ ข้อความ sms ที่จะส่งมา นี่ยังไม่นับรวม ไอ้เจ้า blackberry ที่กำลังฮิตกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตัวผมเองก็ยังเล่นไม่เป็นเลย ที่บอกมาก็คือ ผมเองก็เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

พระเจ้าเองรอที่จะเชื่อมต่อกับเรา พระเจ้าเองต้องการความสัมพันธ์ พระเจ้าต้องการหนุนใจเรา บอกรักเรา ตอบเรา สนทนากับเรา พระองค์มีข้อความ sms ที่จะส่งให้เรา  แต่.... เราก็ปิดเครื่องไม่รับสาย และในแต่ละวันเราทำอะไรก็ไม่รู้ เราให้เวลากับสิ่งไหนมากจนลืม พระเจ้าหรือไม่ ?
ซีรีย์เกาหลี เป็นชุดๆ
หนัง ภาพยนต์
งานต่างๆ
เอ้า ... ก็ผมทำงาน ก็ผมไม่ว่าง ไม่มีเวลา
ผมไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องมานั่งอ่านพระคัมภีร์ ตอนกำลังทำงาน ใช่อาวุธของเราคือพระคัมภีร์ และคำอธิฐาน ก็เช่นเดียวกัน การที่มีใจภาวนา จดจ่อที่พระเจ้า ดีกว่าเราเอาเวลาไปทำอะไรที่ไม่สำคัญ มากจนเกินไป คุณทำได้แน่นอน บางครั้งเรานั่งฟังเทศนา ใจเราไปจดจ่อที่
สิ่งไหน ฝนตก ผ้ายังไม่เก็บ ตอนบ่ายต้องไปทำอะไรต่อบ้าง เอ....

ความสัมพันธ์นั้น ต้องจดจ่อและใช้เวลา ไม่ใช่เกิดขึ้น ประเดี๋ยวเดียว การอ่านพระคัมภีร์ และอธิฐานทุกวัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นมากต่อการดำเนินในความเชื่อ "เวลาพักสงบ"

คุณเองจะได้พักจากสิ่งต่างๆ ผมไม่ได้มีเจตนาให้เราเลิกทุกสิ่งทุกอย่างแล้วไปพักผ่อน แต่การพักในที่นี้คือการ เข้ามาพักสงบในพระเจ้า
รอคอยพระเจ้า ลดสิ่งที่ไม่จำเป็น คือสิ่งใดก็ตามที่แม้ไม่ทำก็ได้ แต่จงเข้ามาเชื่อมต่อกับพระเจ้า

"พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปยังริมน้ำแดนสงบ"
สดุดี 23:2


ktm.worship

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เข้าใจ ความรักของพระเจ้าจริงหรือ?



เข้าใจ ความรักของพระเจ้าจริงหรือ?

ถ้า พูดถึงความรัก เรานิยามความรักแบบไหน ในพจนานุกรมได้ในิยามว่า รักคือ ชอบ

พึง ใจ ชอบอย่างผูกพัน และชื่นชมยินดี รักแท้คือความรักที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง มิได้หวัง

ปอกลอกล่อลวงหรือทำลาย

แล้วความรักในปัจจุบันล่ะ เป็นแบบไหน เราแยกออกหรือไม่ระหว่างความรักและความ

หลง ถ้าเราจะรักใครสักคน นั่นคือความหลง หรือความรัก แล้วสาเหตุของการเลิกลา

หย่า ล้าง ทำแทงค์ จึงพุ่งพรวดพลาดขึ้นทุกวัน ถ้าเรามีความรักแบบความหมายที่ว่ามา

จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่าง ไร
หลงคือ การคลั่งไคล้ มัวเมา เผลอไผล พลั้งเผลอ ความรักที่แท้จึงไม่ใช่เพื่อตัวเอง หรือ

การสนองความพึงพอใจ หรือสิ่งที่ขาดของตัวเองเท่านั้น ในพระพระคัมภีร์ตอนหนึ่ง

ได้อธิบาย ความรักว่า
"ความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้ความรักไม่อิจฉาไม่อวดตัวไม่

หยิ่งผยองไม่หยาบคายไม่ คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียวไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำ

ความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติ

ชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของ

เขา อยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง"
1 โครินธ์ 13:4-7


เรา เองเคยสงสัยในความรักของพระเจ้าหรือเปล่า ? สงสัยคือการที่เราไม่แน่ใจ ระแวง

แคลงใจ ฉงน สนเท่ห์ กังขา เรามักจะโดนโจมตีทางด้านความคิดให้สงสัยในความรัก

ของพระเจ้า เมื่อเราตกอยู่ในความยากลำบากเราก็สงสัย ในความรักของพระเจ้า เมื่อ

เรา เจ็บป่วย เราก็สงสัยในความรักของพระเจ้า แม้กระทั่งเราพบกับสถานการณ์ต่างๆ

เรา ก็อาจจะสงสัยในความรักของพระเจ้า ซาตานเองได้ใช้ยุคสุดท้ายที่เราต้องเผชิญ

เพื่อ ให้เราสงสัยในความรักของพระเจ้าด้วยเช่นกัน เราคาดหวังความรักของพระเจ้า

เช่น ไร ไม่ใช่การอัศจรรย์ และหมายสำคัญที่พระเจ้าให้เรา การที่พระเจ้าจะรักเราไม่ได้

หมายความว่าเราต้องพยายามทำทุกสิ่ง ทุกอย่างเพื่อให้พระเจ้ารัก พระเจ้ารักเราแม้เรา

เป็นคนบาป

สาเหตุ ที่ทำให้เราสงสัยในความรักของพระเจ้า
แผนการณ์ของซาตานเอง คือพยายามทุกวิถีทางเพื่อเราเราสงสัยและพลากจากความ

รักของพระเจ้า พระเจ้าได้ทรงสำแดงความรักของพระองค์เอง เพื่อที่เราจะมีความรัก

ถ้า เราไม่มีความรักคือเรายังไม่เข้าใจความรักของพระเจ้า การที่ยังไม่อดทนและคิดแก้

แค้นตอบโต้ อิจฉา อวดตัว มีความเย่อหยิ่ง หยาบคาย เห็นแก่ตัว อารมณ์ฉุนเฉียว นี่

คือเรายังไม่ได้เข้าใจความ รักของพระเจ้าเลย แผนการณ์ของซาตานเองได้เริ่มตั้งแต่

มนุษย์คู่แรก คืออาดัม และเอวา ซาตานมาในรูปแบบของงูและทำให้ทั้งสองสงสัยใน

ความ รักของพระเจ้า และได้ทำบาปต่อพระเจ้า และในพระคัมภีร์เราได้เห็นหลายคนที่

ต้อง ต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้

เราต้องรู้และเชื่อว่าพระเจ้ารักเรา
เรา เองมีผู้ที่รักเราอย่างทุ่มเทแม้ว่าเราไม่สมควรจะได้รับ พระองค์คือองค์พระเจ้าพระ

บิดา ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ได้ทรงประทานพระบุตรนั้นเพื่อ

เรา
"พระองค์ ผู้ มิ ได้ ทรงหวง พระบุตร องค์ เดียว ของ พระองค์ แต่ ได้ ทรง โปรด

ประทาน พระบุตร นั้น เพื่อ ประโยชน์ แก่ เรา ถ้า เช่นนั้น พระองค์ จะ ไม่ ทรง โปรด

ประทาน สิ่ง สารพัด ให้ เรา ทั้งหลาย ด้วยกัน กับ พระบุตร นั้น หรือ"
โรม 8:32


"แต่ พระเจ้า ทรง สำแดง ความ รัก ของ พระองค์ แก่ เรา ทั้งหลาย คือ ขณะ ที่ เรา ยัง

เป็น คน บาป อยู่ นั้น พระคริสต์ ได้ ทรง สิ้น พระชนม์ เพื่อ เรา"
โรม 5:8


การ เข้าใจในความรักของพระเจ้าสำคัญมาก สำคัญมากขนาดที่ อ.เปาโล ต้องอธิฐาน

ให้ ชาวเมืองเอเฟซัส วางรากมั่นคงลงในความรักนั้น
"เพราะ เหตุ นี้ ข้าพเจ้า จึง คุก เข่า ต่อ พระบิดา(คำ ว่า บิดา ของ ทุก ตระกูล ทุกชาติ

ใน สวรรค์ ก็ ดี ที่ แผ่นดินโลก นี้ ก็ ดี มา จาก คำ ว่า พระบิดา)ขอ ให้ พระองค์ ทรง

โปรด ประทาน กำลัง เรี่ยวแรง มาก ฝ่าย จิตใจ แก่ ท่าน โดย เดช พระวิญญาณ ของ

พระองค์ ตาม ความ ไพบูลย์ แห่ง พระสิริ ของ พระ องค์ เพื่อ พระคริสต์ จะ ทรง สถิต

ใน ใจ ของ ท่าน ทาง ความ เชื่อ เพื่อ ว่า เมื่อ ท่าน ได้ วาง ราก ลง มั่นคง ใน ความ รัก

แล้ว เพื่อ พระคริสต์ จะ ทรง สถิต ใน ใจ ของ ท่าน ทาง ความ เชื่อ เพื่อ ว่า เมื่อ ท่าน

ได้ วาง ราก ลง มั่นคง ใน ความ รัก แล้วท่าน ก็ จะ ได้ มี ความ สามารถ หยั่งรู้ พร้อม

กับ ธรรมิกชน ทั้งหมด ถึง ความ กว้าง ความ ยาว ความ สูง ความ ลึกคือ ให้ ซาบซึ้ง

ใน ความ รัก ของ พระคริสต์ ซึ่ง เกิน ความ รู้ เพื่อ ท่าน จะ ได้ รับ ความ ไพบูลย์ ของ

พระ เจ้า อย่าง เต็ม เปี่ยมขอ ให้ พระเกียรติ จง มี แด่ พระองค์ ผู้ ทรง ฤทธิ์ กระทำ

สารพัด มาก ยิ่งกว่า ที่ เรา จะ ทูลขอ หรือ คิด ได้ ตาม ฤทธิ์เดช ที่ ประกอบ กิจ อยู่

ภาย ใน ตัว เราขอ ให้ พระเกียรติ จง มี แด่ พระองค์ ใน คริสตจักร และ ใน พระเยซู

คริสต์ ตลอด ทุก ชั่ว อายุ คน เป็น นิตย์ อาเมน"
เอเฟซัส 3:14-21


การหยั่งราก เพื่อรากฐานที่มั่งคงเพื่อว่า แม้เราจะพบกับอุปสรรคหรือการล่อลวงจาก

แผน การณ์ใดๆก็ตาม รากฐานที่มั่นคงนั้น ก็จะไม่มีวันสั่นคลอนได้เลย

ฉะนั้น เราทั้งหลายจึงรู้และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความ

รัก และผู้ใดที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น
1 ยอห์น 4:16


เพื่อที่ เราเองจะมีประสบการณ์กับความรักนั้น มีคนอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าพระเจ้ามี

ความ รักให้มากแค่ไหน ถ้าเรามั่นคงลึกลงในความรักของพระเจ้า ชีวิต และความ

ประพฤติ ของเราจะเปลี่ยนไป
พระองค์รักเราขนาดยอมให้บุตรองค์เดียวของพระองค์มาตาย เพื่อเรา พระองค์รักเรา

ขนาดที่ ทรงเอื้มพระหัตถ์ของพระองค์เพื่อเอาพระวิญญาณของพระองค์มาอยู่กับเรา

คอย ช่วยเรา นี่เป็นความรักที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า ให้เรามีความคิดที่อยู่บนพื้น

ฐานของความชอบธรรม อย่ามีความสงสัยและคิดว่าพระเจ้าไม่พอใจเรา หรือไม่รักเรา

แล้ว นี่เป็นความคิดที่สูญเปล่า อย่ากลัวที่จะคิดใหม่ อย่ากลัวที่จะรับเอาความรักจาก

พระเจ้า
"ใน ความ รัก นั้น ไม่ มี ความ กลัว แต่ ความ รัก ที่ สมบูรณ์ นั้น ก็ ได้ ขจัด ความ กลัว

เสีย เพราะ ความ กลัว เข้า กับ การ ลง โทษ และ ผู้ ที่ มี ความ กลัว ก็ ยัง ไม่ มี ความ

รัก ที่ สมบูรณ์"
1 ยอห์น 4:18


ให้เรา เชื่อในพระสัญญาของพระเจ้าว่า
"พระเจ้า ทรง ปรากฏ แก่ เขา จาก ที่ ไกล ตรัสว่า'เรา ได้ รัก เจ้า ด้วย ความ รัก นิรัน
ดร์ เพราะ ฉะนั้น เรา จึงมี ความ รัก มั่นคง ต่อ เจ้า สืบ ไป"
เยเรมีย์ 31:3


ktm.worship