เราทำความดีเพื่ออะไร?
(1 เปโตร)
พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตาจ.ยะลา นายตำรวจซึ่งไต่เต้าและเติบ โตจากชั้นประทวน ผู้ทุ่มเทและอุทิศตนเองให้กับงานราชการในพื้นที่ทางภาคใต้มาร่วม 40 ปี จนเหลืออายุราชการเพียงแค่ปีเดียวก้อจะเกษียณ ได้อุตส่าห์ลงทุนเดินทางกว่า 1,000 กิโลเมตรเพื่อเข้าร้องเรียน พร้อมด้วยข้อชี้แจงและเหตุผล ตนได้รับการร้องขอ จากครอบครัว เมื่อถึงบั้นปลายของชีวิตราชการน่าจะได้มีโอกาสพักผ่อนด้วยการขอ ย้ายออกจาก พื้นที่เสี่ยงล่อแหลมไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิมที่ สภ.กันตัง จ.ตรัง แทนตำแหน่งเดิมที่ว่างอยู่ แต่จนแล้วจนรอดก็มาถูกคนร้ายถล่มยิงจนเสียชีวิต
บาง ครั้งเราพิจารณาว่าทำไมไม่ยุติธรรมเลย ทำไมคนที่ซื่อสัตย์ และทำความดีมา ตลอดทำไมต้องมาเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ ผมเคยได้ยินคำพูดที่ว่า คนดีๆทำไมตาย ง่ายตายเร็วส่วนคนไม่ดีนั้นทำไมอยู่นานและอยู่นานเพื่อทำสิ่งที่ไม่ดีด้วย มันเป็นเรื่อง ที่ยอมรับไม่ได้เลย ถ้าคนที่ตายไปนั้นเป็นคนที่ไม่ดีหรือเป็นคนเลว เราคิดว่าเราอาจจะ ยอมรับได้ ในบางครั้งเราคิดอยากกลับไปแก้ไขสถานการณ์ถ้าเป็นไปได้ เพราะเราคิด ว่ามันไม่ยุติธรรมเลย
พระคัมภีร์บอกเราว่าเราจะทนกับความทุกข์ยาก ลำบากมากเพียงไรในขระที่เราทำ ความดีอยู่นั้น ใน 1 เปโตร ได้พูดถึงความทุกข์ยากที่ไม่เป็นธรรมไม่ใช่การทุกข์ยาก จากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ แต่สิ่งร้ายๆที่ต้องทนทุข์ยากนั้นและความไม่เป็นธรรม จากการทำความดี เมื่อก่อนที่ผมจะเชื่อในพระเจ้าและเป็นคริสเตียน สมัยเด็กๆผู้ใหญ่ หลายคนมักจะสอนเราว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" จนมีคนมาแปลงว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" คำพูดประโยคหลังนี้สะท้อนถึงคนที่คิดว่า เห็นความไม่ยุติธรรม ของคนดีๆที่ได้รับตอบแทนจากการทำความดี บางครั้งเราคาดหวังอะไรในการมาเชื่อ พระเจ้า เมื่อเราเป็นคริสเตียน เราคาดหวังว่าชีวิตการติดตามพระเจ้าของเราจะปูด้วย พรมแดงสวยหรู กาศประกาศข่าวประเสริฐจึงไม่ใช่การประกาศถึงว่า เมื่อเชื่อพระเจ้า แล้ว พระเจ้าจะอวยพรสิ่งนั้นสิ่งนี้ จะได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ จะสุขสบายไม่เจอความทุกข์ นั่น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่หัวใจสำคัญ (ขอกลับเข้าเรื่องคืน)
แล้วเราจะทำเช่นใด เมื่อต้องเผชิญกับการทดลองเช่นนี้ เรามาดูใน 1 เปโตร
1.การทนทุกข์ ของคนงาน และภรรยา
1.1 (1 เปโตร 1:3-12)
ความทุกข์ ทรมานในตอนนี้คือ ความทุกข์ทรมานด้วยความหวัง ว่าจะได้รับความรอด เพราะนี่คือบทพิสูจน์ว่าเราจะมีความเชื่อแท้ พระเจ้าทรงมีพระประสงค์เพื่อลองดูความ เชื่อของเราด้วยว่าเป็นความเชื่อแท้หรือไม่
1 เปโตร 1:7
"เพื่อ การ ลองดู ความ เชื่อ ของ ท่าน อัน ประเสริฐ ยิ่งกว่า ทองคำ ซึ่ง แม้ เสีย ไป ได้ ก็ ยัง ถูกลอง ด้วย ไฟ จะ ได้ เป็น เหตุ ให้ เกิด ความ สรรเสริญ เกิด ศักดิ์ศรี และ เกียรติ ใน เวลา ที่ พระเยซู คริสต์ จะ เสด็จ มา ปรากฏ"
1.2 (1 เปโตร 1:13 - 2:3)
ความทนทุกข์ตอนนี้คือ ให้เรารู้จักข่มใจจากกิเลสตัณหา เพราะพระเตือนเราว่ากิเลส ตัณหาคือความโง่เขลา และให้เราละความชั่วทั้งปวง สิ่งที่ไม่ควรทำ เราต้องรักษาตน ให้บริสุทธิ์ และเติบโตในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อ เราจะเป็นศิลาที่มีชีวิตในคริสตจักรของพระองค์โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นศิลา มุม เอกที่มีชีวิต
1 เปโตร 2:4-10
"จงมาหาพระองค์ เหมือนมาถึงศิลาอันมีชีวิตอยู่ ซึ่งมนุษย์ได้ปฏิเสธไม่ยอมรับแล้ว แต่ ว่าพระเจ้าทรงเลือกไว้ และทรงค่าอันประเสริฐ
และท่านทั้งหลายก็เสมือน ศิลาที่มีชีวิต ที่กำลังก่อขึ้นเป็นพระนิเวศฝ่ายวิญญาณ เป็น ปุโรหิตบริสุทธิ์ เพื่อถวายสักการบูชาฝ่ายจิตวิญญาณ ที่ชอบพระทัยของพระเจ้าโดย ทางพระเยซูคริสต์
เพราะมีคำเขียนไว้ในพระ คัมภีร์ด้วยว่า `ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งลงในศิโยน เป็น ศิลามุมเอกที่ทรงเลือกแล้ว และเป็นศิลาที่มีค่าอันประเสริฐ และผู้ใดที่เชื่อในพระองค์ นั้นก็จะไม่ได้รับความอับอาย
เหตุฉะนั้น พระองค์ทรงมีค่าอันประเสริฐสำหรับท่านทั้งหลายที่เชื่อ แต่สำหรับคนทั้ง หลายที่ไม่เชื่อฟังนั้น `ศิลาซึ่งช่างก่อได้ปฏิเสธเสีย ได้กลับกลายเป็นศิลามุมเอกแล้ว'
และ `เป็นศิลาที่ทำให้สะดุด และเป็นก้อนหินที่ทำให้ขัดเคืองใจ' ที่เขาสะดุดนั้นเพราะ เขาไม่เชื่อฟังพระวจนะ ตามที่เขาถูกกำหนดไว้เช่นนั้นด้วย
แต่ท่านทั้ง หลายเป็นชาติที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็น ประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติของพระองค์โดยเฉพาะ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ สำแดงพระบารมีของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายให้ออกมาจากความมืด เข้า ไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์
เมื่อก่อนท่านทั้งหลายหาเป็น ชนชาติไม่ แต่บัดนี้ท่านเป็นชนชาติของพระเจ้าแล้ว เมื่อ ก่อนท่านทั้งหลายหาได้รับพระกรุณาไม่ แต่บัดนี้ท่านได้รับพระกรุณาแล้ว"
1.3 (1 เปโตร 2:11-3:6)
ความทุกข์ตอนนี้คือการที่ต้อง เชื่อฟังเจ้านายหรือสามี ในพระคัมภีร์พระเจ้าให้เราเชื่อ ฟังเจ้านายของเราเองด้วยความเคารพไม่เพียงแต่เจ้านายที่ดีหรือเจ้านายที่เรา พึงพอ ใจเท่านั้นแต่ต่อเจ้านายที่แย่และร้ายกาจด้วย
และภรรยาเองก็จง เชื่อฟังสามีแม้สามีเองจะไม่ดีต่อเราหรือไม่เชื่อในพระเจ้า เพื่อที่เขา นั้นจะเห็นความบริสุทธิ์และความยเกรงพระเจ้าในชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่ภายนอกแต่ให้ มาจากข้างใน เพราะนี่คือน้ำพระทัยของพระเจ้า เพื่อจะทำให้ผู้ที่ปฏิบัติต่อเราอย่างไม่ เป็นธรรมนั้น เห็นพระเจ้าในชีวิตของเรา เปโตรเตือเราไม่ให้ทำบาปเพื่อในขณะที่เรา ตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบากนั้น เราจะไม่พ่ายแพ้ต่อการทดลองใจ
1 เปโตร 2:12 ,15
"จงให้การประพฤติของท่านทั้งหลายเป็น ที่น่านับถือท่ามกลางคนต่างชาตินั้น เพื่อว่า ในข้อที่เขาติเตียนท่านว่าเป็นคนทำชั่วนั้น เมื่อเขาเห็นการดีของท่านแล้ว เขาจะได้ สรรเสริญพระเจ้าในวันซึ่งพระองค์จะทรงเยี่ยมเยียนเขา"
"เพราะ เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ที่จะให้ท่านทั้งหลายระงับความโง่ของคนโฉด เขลาให้สงบด้วยการประพฤติดี"
1 เปโตร 3:1
"ฝ่ายท่านทั้งหลายที่ เป็นภรรยาก็เช่น กัน จงเชื่อฟังสามีของท่าน เพื่อว่าแม้สามีบาง คนจะไม่เชื่อฟังพระวจนะ แต่ความประพฤติของภรรยาก็อาจจะจูงใจเขาได้ด้วยโดย ไม่ต้องใช้พระวจนะนั้น"
**3 เพื่อเฝ้าระวังการทดลองใจ
- เพื่อจะไม่หมดหวังกับอนาคต
- เพื่อจะไม่หยุดเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณ
- เพื่อจะไม่เสียความรู้สึกที่ดีต่อคนที่ปฏิบัติไม่ดีต่อเรา
2.การทนทุข์ ของสามีและเจ้านาย
เราอาจะคิดว่าความไม่เป็นธรรมและความทุข์ทน นั้นจะเกิดกับ ภรรยาและผู้น้อยคือคน งานเท่านั้น เพราะด้วยเพศและโดยตำแหน่งนั่นเอง แต่สามีและผู้นำเองก็ต้องเจอกับ ความทุกข์ยากจากความไม่เป็นธรรมด้วยเช่นกัน เราจะรับมือเช่นใด ถ้าเราเองเป็นผู้ นำและสามี
2.1 (1 เปโตร 3:8-4:6)
ความทุกข์ทน โดยอย่าทำชั่วตอบแทนการชั่ว และอวยพรต่อผู้ที่แช่งด่าท่าน ในฐานะ ของเจ้านายและผู้นำเราเองต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้และควรจะตอบสนองด้วยท่าที ที่ ถูกต้อง ถ้าเราเองมุ่งมั่นในการทำดีใครจะมาทำร้ายเราได้ แต่ถ้าเราต้องทนทุกข์ เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้องพระเจ้าจะทรงอวยพรเรา ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ เราต้องทนทุกข์เนื่องจากการทำดีก็ดีกว่าการทนทุกข์เนื่องจากการทำชั่ว
เรา ต้องทนทุกข์โดยที่ไม่ทำบาปในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า และให้เรารับใช้ผู้อื่นอย่าง สัตย์ซื่อ
1 เปโตร 4:7-11
"แต่สิ่งทั้ง ปวงใกล้จะถึงวาระที่สุด แล้ว เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงสำแดงกิริยาเสงี่ยม เจียมตัว และจงเฝ้าระวังในการอธิษฐาน
ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดก็จงรักซึ่งกัน และกันให้มาก ด้วยว่าความรักก็ปกปิดความผิดไว้ มากหลาย
ท่านทั้งหลายจง ต้อนรับเลี้ยงดูซึ่งกันและกันโดยไม่บ่น
ตามซึ่งทุกคนได้รับของประทานแล้ว ก็ให้เจือจานของประทานนั้นแก่กันและกัน เหมือนอย่างเจ้าหน้าที่อันดีสำหรับพระคุณต่างๆของพระเจ้า
ถ้าผู้หนึ่งผู้ ใดจะกล่าวสั่งสอน ก็ให้กล่าวตามพระโอวาทของพระเจ้า ถ้าคนใดรับการ ปรนนิบัติ ก็ให้ปรนนิบัติตามกำลังซึ่งพระเจ้าทรงโปรดประทานนั้น เพื่อว่าพระเจ้าจะ ทรงได้รับเกียรติในการทั้งปวงโดยพระเยซูคริสต์ การสรรเสริญและไอศวรรยานุภาพ จงมีแด่พระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ เอเมน"
2.2 (1 เปโตร 4:12-19)
ความ ทุกข์ทนโดยปราศจากความงงงันและความอับอายบางครั้งเราต้องทนทุกข์ด้วย ความเจ็บปวด 4:12 บอกเราว่าแม้เราต้องถูกดูหมิ่นเนื่องด้วยพระนามของพระองค์ ท่านก็เป็นสุข เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่กับเรา
1 เปโตร 4:12-14
"ท่านที่รัก อย่าประหลาดใจที่ท่านต้องได้รับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสเป็นการ ลองใจ เหมือนหนึ่งว่าเหตุการณ์อันประหลาดได้เกิดขึ้นกับท่าน
แต่ว่าท่านทั้ง หลายจงชื่นชมยินดีในการที่ท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยาก ของพระ คริสต์ เพื่อว่าเมื่อสง่าราศีของพระองค์ปรากฏขึ้น ท่านทั้งหลายก็จะได้ชื่นชมยินดีเป็น อันมากด้วย
ถ้าท่านถูกด่าว่าเพราะ พระนามของพระคริสต์ ท่านก็เป็นสุข ด้วยว่าพระวิญญาณแห่ง สง่าราศีและของพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่าน ฝ่ายเขาก็กล่าวร้ายพระองค์ แต่ฝ่ายท่าน ก็ถวายเกียรติยศแด่พระองค์"
การทนทุกข์ในที่นี้คือการทน ทุกข์ในการทำดี ไม่ใช่การทนทุกข์จากการทำการชั่ว พระ เจ้าหนุนใจเราไม่ให้ละอายแต่ตรงข้ามจงสรรเสริญพระเจ้า
เพราะในบางครั้ง เราเองก็คาดหวังให้พระเจ้าอวยพรเมื่อเราทำดี (เราอาจจะไม่รู้สึกตัว และไม่ตั้งใจ ในการทำดีเพื่อแลกกับพระพร) อย่าให้เราละอายที่เราเป็นคริสเตียนและ ทำดีเพื่อพระเจ้า แต่เราควรมีความละอายเมื่อทำชั่วต่างหาก
1 เปโตร 4:15-16
"แต่ว่าอย่า ให้มีผู้ใดในพวกท่านได้รับ โทษฐานเป็นฆาตกร หรือเป็นขโมย หรือเป็น คนทำร้าย หรือเป็นคนที่เที่ยวยุ่งกับธุระของคนอื่น
แต่ถ้าผู้ใดถูกการร้ายเพราะ เป็นคริสเตียน ก็อย่าให้ผู้นั้นมีความละอายเลย แต่ให้เขา ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะเหตุนั้น"
2.3 (1 เปโตร 5:1-11)
ใน บางครั้งการที่เรามีความเชื่อมั่นเกินไปและมีฐิถิของเราเองทำให้เราขาดใจที่ ถ่อมลง และยอมรับฟังซึ่งกันและกันและถึงแม้จะยอมเราก็จำใจที่จะยอม
1 เปโตร 5:5
"ในทำนองเดียวกัน ท่านที่อ่อนอาวุโส ก็จงยอมตามผู้อาวุโส อันที่จริงให้ท่านทุกคน คาดเอวไว้ด้วยความถ่อมใจในการปฏิบัติต่อกันและกัน ด้วยว่าพระเจ้าทรงต่อสู้คน เหล่านั้นที่ถือตัวจองหอง แต่พระองค์ทรงประทานพระคุณแก่คนทั้งหลายที่ถ่อมใจลง"
ให้เราเชื่อฟังผู้ ที่อาวุโสกว่า เรียนรู้และยอมที่จะถ่อมใจต่อกัน ไม่ใช่เรื่องใครผิดใครถูก นั่นเป็นภาพของการทนทุกข์เพื่อที่จะทำดีเพราะพระคุณของพระเจ้าจะมาถึงเรา และ การดูแลฝูงแกะของผู้นำนั้นไม่ใช่ด้วยการวางอำนาจแต่ด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่เงินทองสิ่งของแลกเปลี่ยนหรือตอบแทน แต่ด้วยเพราะพระประสงค์ของพระเจ้า
สามีเองควรให้เกียรติและเข้าใจภรรยา ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ไม่ใช่การเสียเกียรติที่ จะถ่อมใจลงรับฟังซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ใครผิดใครถูกและทะเลาะกันต้องทนทุกข์กับ เรื่องไม่เป็นเรื่อง
1 เปโตร 5:6
"เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อ พระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร"
**3 อย่า สำหรับแนวทางแก้ไขตามพระคัมภีร์สำหรับผู้ที่ตกอยู่ในการทดลอง
- อย่ามีความคิดที่แก้แค้นเราต้องไม่ตอบแทนการชั่วด้วยสิ่งชั่ว (1 เปโตร 3:9)
"เหตุ ฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อ พระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร"
- อย่ามีความคิดหดหู่ เราต้องมีความชื่นชมยินดี (1 เปโตร 4:13)
"แต่ว่าท่านทั้งหลายจงชื่นชม ยินดีในการ ที่ท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยากของ พระคริสต์ เพื่อว่าเมื่อสง่าราศีของพระองค์ปรากฏขึ้น ท่านทั้งหลายก็จะได้ชื่นชมยินดี เป็นอันมากด้วย"
- อย่ามีความคิดใช้อำนาจในทางที่ผิด รื้อฟื้นและมีความกะตือรือล้นในการรับใช้ผู้ใต้ บังคับบัญชาของเรา (1 เปโตร 5:2)
"จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่กับ ท่าน จงเอาใจใส่ดูแล ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ ด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ด้วยการเห็นแก่ทรัพย์สิ่งของอันเป็นมลทิน แต่ด้วยใจพร้อม"
เมื่อ เราต้องทนทุกข์กับความทุกข์ยากให้เราเปลี่ยนท่าทีและความคิดของเราว่าเรามี ชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า ตามพระประสงค์ของพระองค์
"ฉะนั้น โดยเหตุที่พระคริสต์ได้ทรงทนทุกข์ทรมานในเนื้อหนังเพื่อเราทั้งหลายแล้ว ท่านทั้งหลายก็จงมีความคิดอย่างเดียวกันไว้เป็นเครื่องอาวุธด้วย เพราะว่าผู้ที่ได้ทน ทุกข์ทรมานในเนื้อหนังก็ไม่สัมพันธ์กับบาปแล้ว
เพื่อ เขาจะได้ไม่ดำเนินชีวิตที่ยังเหลืออยู่ในเนื้อหนังตามใจปรารถนาของ มนุษย์ แต่ตามพระประสงค์ของพระเจ้า"
อยากหนุนใจย้ำด้วยข้อพระคัมภีร์ใน 1 เปโตร 3:17
"เพราะว่าการได้รับความทุกข์เพราะทำความดี
ถ้าเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าก็ดีกว่าจะต้องทน
อยู่เพราะการประพฤติชั่ว"
ที่มาบางส่วนจากหนังสือ "มุมมองใหม่ต่อพระคัมภีร์ใหม่" ของ ฮวง สาบิน
ขอบคุณพระเจ้า
ktm.worship